ตำแยแมว สมุนไพรสำหรับเจ้าเหมียว ทำไมทำแมวเคลิ้มได้ ปลอดภัยจริงไหม ?

          เจาะลึก ตำแยแมว สมุนไพรที่แมวบางตัวชอบนักชอบหนา ทั้งสรรพคุณทางยา ประโยชน์ต่อสัตว์ และไขคำตอบว่ามันคือสารเสพติดหรือไม่
ตำแยแมว

          หากคุณเป็นทาสแมว คงเคยเห็นน้องเหมียวเคลิ้มฟินเมื่อได้กลิ้งเกลือกกับต้นตำแยแมว หรืออาจสงสัยว่าสมุนไพร ชนิดนี้มีดีอะไร ทำไมถึงดึงดูดใจแมวได้ขนาดนี้ จริง ๆ แล้ว ตำแยแมว (Acalypha indica) ไม่ได้เป็นเพียงพืชที่ทำให้แมวมีความสุขเท่านั้น แต่ยังมีสรรพคุณทางยาและประโยชน์มากมายทั้งต่อคนและสัตว์เลี้ยง บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับตำแยแมวอย่างละเอียด ตั้งแต่ลักษณะ สรรพคุณ วิธีใช้ รวมถึงความแตกต่างจากกัญชาแมว เพื่อให้คุณนำไปใช้ดูแลน้องเหมียวได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

ตำแยแมว สมุนไพรเพื่อแมว
กับประโยชน์ที่ไม่ควรมองข้าม

ตำแยแมว คืออะไร ?

ตำแยแมว ดูยังไง

          ตำแยแมว หรือชื่อวิทยาศาสตร์ Acalypha indica L. เป็นพืชสมุนไพรในวงศ์ยางพารา (EUPHORBIACEAE) ที่พบได้ทั่วไปในเขตร้อน รวมถึงประเทศไทย มีชื่อเรียกท้องถิ่นหลากหลาย เช่น หานแมว (ภาคเหนือ), ตำแยป่า, หญ้าแมว หรือหญ้ายาแมว เป็นพืชที่ขึ้นตามที่รกร้าง ใกล้อิฐปูนผุ หรือที่ดินเย็น ๆ และเป็นที่รักของแมวเพราะกลิ่นที่ดึงดูดใจจากสารเคมีในพืช

ลักษณะของตำแยแมว ดูยังไง

  • ลำต้น : เป็นพรรณไม้ล้มลุกขนาดเล็ก สูงประมาณ 2 ฟุต ลำต้นตั้งตรง แตกกิ่งจากโคน เนื้อในอ่อน ไม่แข็งแรง

  • ใบ : ใบเดี่ยว ขนาดเล็ก รูปมนรี รูปไข่ หรือกลมโต ปลายใบมนหรือแหลมเล็กน้อย ขอบใบหยัก ผิวใบมีขนปกคลุม

  • ดอก : ออกเป็นช่อตามซอกใบ ดอกเพศเมียอยู่ที่ยอดของช่อ คล้ายใบอ่อนขนาดเล็ก มีใบประดับหยักเป็นซี่ฟันและมีขนปกคลุม

  • การขยายพันธุ์ : ปักชำหรือแยกต้น

          อย่างไรก็ตาม บางคนอาจแบ่งตำแยแมวเป็น "ตำแยแมวตัวผู้" กับ "ตำแยแมวตัวเมีย" ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ได้มีการแบ่งเช่นนั้น เพราะตำแยแมวเป็นพืชที่มีดอกสมบูรณ์เพศอยู่แล้ว ไม่ได้แยกต้นตัวผู้-ต้นตัวเมียชัดเจน แต่หมอยาพื้นบ้านมักจะเรียกกันเอง เช่น  

  • ตำแยแมวตัวผู้ : มักเป็นต้นที่โตไว ใบเล็ก หากสัมผัสขนจะรู้สึกคันมาก

  • ตำแยแมวตัวเมีย : มักเป็นต้นที่มีใบใหญ่ ใบหนากว่า แต่ขนจะคันน้อยกว่า
ตำแยแมว สรรพคุณ

ตำแยแมว กับสรรพคุณน่าสนใจ

          ตำแยแมว มีสรรพคุณทางยาที่หลากหลายสำหรับคนทั่วไป ดังนี้

  • ช่วยขับเสมหะ : นำใบสดสับละเอียด ต้มกับน้ำ 4 ถ้วยให้เหลือ 2 ถ้วย ดื่มครั้งละ 1 ถ้วย เช้า-เย็น ช่วยขับเสมหะในโรคหลอดลมอักเสบและหอบหืด

  • รักษาอาการไอ : ถอนทั้งต้นและราก ต้มน้ำดื่ม 1 แก้วเมื่อมีอาการ หรือโขลกผสมน้ำซาวข้าว กรองดื่ม

  • บรรเทาอาการภูมิและหอบหืด : มีการทดลองในสัตว์พบว่า สารสกัดเอทานอลจากใบตำแยแมวมีฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งฮิสตามีน ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ทำให้เกิดอาการแพ้ คัน และช่วยขยายหลอดลม จึงอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้และหอบหืด

  • ใช้เป็นยาระบายและถอนพิษ : ต้น ราก และใบ ช่วยเป็นยาระบาย ถอนพิษเมาเบื่อในทางเดินอาหาร

  • ขับพยาธิ : ใบสดนำมาทำอาหารหรือต้มกิน ช่วยขับพยาธิเส้นด้าย โดยเฉพาะในเด็ก

  • รักษาโรคผิวหนัง : นำใบสดตำผสมเกลือทาบริเวณที่เป็น หรือนำใบแห้งป่นโรยแผลที่เกิดจากการนอนนาน

  • แก้พิษคัน : นำใบสดตีหรือฟาดเบา ๆ บริเวณที่คันจากตำแยตัวเมีย

  • บำรุงร่างกาย : นำรากมาต้มน้ำดื่มวันละ 1 แก้วก่อนอาหาร ช่วยบำรุงกำลัง แก้ปวดเมื่อย และเสริมสมรรถภาพทางเพศ

ข้อควรระวังในการใช้ตำแยแมว

  • การใช้ตำแยแมวในปริมาณมากอาจทำให้คลื่นไส้อาเจียนหรือระคายเคืองทางเดินอาหารได้ 

  • คนที่มีอาการท้องเสียไม่ควรรับประทาน เพราะตำแยแมวมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ จะยิ่งทำให้อาการรุนแรงขึ้น

  • สตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน เพราะยังไม่มีข้อมูลด้านความปลอดภัยที่มากพอ

  • ผู้ป่วยโรคแพ้ถั่วปากอ้า หรือโรค G6PD (Glucose-6-phosphate dehydrogenase deficiency) ไม่ควรใช้ตำแยแมว ซึ่งอาจส่งผลให้เม็ดเลือดแดงแตก

  • สำหรับคนทั่วไปควรใช้ตำแยแมวอย่างระมัดระวัง หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรก่อนใช้

ประโยชน์ของตำแยแมวสำหรับน้องเหมียว

ตำแยแมว ให้แมวกินยังไง

  • บรรเทาความเครียด : การได้สัมผัสและกลิ้งเกลือกกับตำแยแมวช่วยให้แมวรู้สึกผ่อนคลายและลดความเครียดได้

  • รักษาอาการป่วยเบื้องต้น : แมวมักจะเคี้ยวลำต้นเพื่อช่วยบรรเทาอาการไม่สบายหรือไข้เล็ก ๆ น้อย ๆ

  • ช่วยถอนพิษ : หากแมวเผลอกินสารที่มีพิษเข้าไป การให้มันกินต้นตำแยแมวจะช่วยให้อาเจียนและขับพิษออกมาได้

  • เป็นยาไล่แมลงธรรมชาติ : มีงานวิจัยจากญี่ปุ่นยืนยันว่า สารในตำแยแมวสามารถไล่ยุงลายได้จริง ดังนั้น การที่แมวเคี้ยวและถูไถตัวกับต้นตำแยแมว จึงเปรียบเสมือนการทาโลชั่นกันยุงให้ตัวเองไปในตัว

ตำแยแมว ให้แมวกินยังไง ? แมวกินส่วนไหน ?

          ตำแยแมว เป็นสมุนไพรที่ดึงดูดใจแมวด้วยกลิ่นจากสาร Nepetalactone โดยเฉพาะบริเวณราก ซึ่งแมวมักชอบกลิ้งเกลือก ถูไถ หรือเคี้ยวเพื่อความผ่อนคลายและความสุข บางตัวอาจสนใจใบ โดยจะเลียหรือกัดเล่น ดังนั้น วิธีให้แมวก็คือ นำรากหรือใบสดวางให้แมวสัมผัสตามธรรมชาติ ปล่อยให้ถูไถหรือเคี้ยวเอง แต่ไม่ควรให้บ่อยเกินไปเพื่อป้องกันการติดและลดความสนใจในสิ่งอื่น นอกจากนี้ ควรสังเกตอาการแพ้หรือปฏิกิริยาผิดปกติ เช่น อาเจียนหรือเซื่องซึม และหยุดใช้ทันทีหากพบอาการไม่พึงประสงค์ เพื่อความปลอดภัยของน้องเหมียว

ตำแยแมว VS กัญชาแมว ต่างกันอย่างไร

กัญชาแมว

กัญชาแมว

          แม้จะมีคุณสมบัติที่ทำให้แมวเคลิ้มคล้ายกัน แต่ ตำแยแมว และ กัญชาแมว (Catnip) เป็นพืชคนละชนิดกันโดยสิ้นเชิง อย่างกัญชาแมวเป็นพืชตระกูลมิ้นต์ ในขณะที่ตำแยแมวอยู่ในตระกูลยางพารา อย่างไรก็ตาม สารออกฤทธิ์ที่ทำให้แมวเคลิ้มคือ สาร Nepetalactone ที่อยู่ในกลุ่มอิริดอยด์เหมือนกัน แต่กัญชาแมวจะออกฤทธิ์ที่ใบ ส่วนตำแยแมวจะออกฤทธิ์ที่รากเป็นหลัก

ตำแยแมว และกัญชาแมว อันตรายไหม เป็นสารเสพติดหรือไม่ ?

          ส่วนใครที่สงสัยว่า กัญชาแมว และตำแยแมว เป็นสารเสพติดหรือไม่ ประเด็นนี้ รศ.สพ.ญ.ดร.อุตรา จามีกร จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้ยืนยันว่าสารที่พบในพืชทั้งสองชนิด ไม่ใช่สารเสพติด และไม่เป็นอันตรายต่อแมว เป็นเพียงสารที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทชั่วคราว ประมาณ 10-15 นาที ทำให้แมวมีความสุขเท่านั้น

          อย่างไรก็ตาม แม้พืชทั้งสองชนิดจะปลอดภัย แต่ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรให้บ่อยจนเกินไป เพราะอาจทำให้แมวติดและไม่สนใจสิ่งอื่น ๆ ที่สำคัญคือ ควรสังเกตอาการแพ้ของแมวแต่ละตัวด้วย เนื่องจากแมวแต่ละตัวอาจมีปฏิกิริยาตอบสนองที่แตกต่างกัน
ตำแยแมว อันตรายไหม

          ตำแยแมว เป็นสมุนไพรที่ไม่เพียงแต่มีสรรพคุณทางยาในคน แต่ยังทำให้เจ้าเหมียวหลายตัวเคลิบเคลิ้มอย่างสุขใจ และช่วยปกป้องมันจากแมลงรบกวนได้ด้วย แม้จะไม่ใช่แมวทุกตัวที่จะสนใจตำแยแมว แต่หากเจ้าของเข้าใจวิธีใช้ที่ถูกต้อง ก็สามารถมอบทั้งความสนุกและประโยชน์ต่อสุขภาพให้สัตว์เลี้ยงได้อย่างปลอดภัยค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้องกับแมว

ขอบคุณข้อมูลจาก : chula.ac.thbangkoklibrary.go.thdisthai.comsciencedirect.com
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ตำแยแมว สมุนไพรสำหรับเจ้าเหมียว ทำไมทำแมวเคลิ้มได้ ปลอดภัยจริงไหม ? อัปเดตล่าสุด 18 กันยายน 2568 เวลา 11:21:13
TOP
x close