เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับแมวงอน อาการเป็นยังไง เพราะอะไรทำไมเจ้าเหมียวถึงงอน แล้วจะง้อน้องยังไงดี ที่นี่มีคำตอบ
เชื่อว่าคงต้องมีทาสแมวจำนวนไม่น้อยที่พบว่าอยู่ดี ๆ เจ้าเหมียวที่เลี้ยงไว้ก็เกิดอาการงอน ทำตัวแปลก ๆ ดูผิดปกติเหมือนคนอารมณ์ไม่ดีอย่างไรอย่างนั้น แต่ก็ไม่รู้ว่างอนเรื่องอะไรกันแน่ แล้วจะต้องทำยังไงเพื่อให้กลับมาอารมณ์ดีเหมือนเดิม วันนี้เราจึงรวบรวมสาเหตุต่าง ๆ ที่ทำให้แมวงอน พร้อมทั้งวิธีง้อมาฝากกัน
สาเหตุที่ทำให้แมวงอน
1. ไม่ได้รับความรักหรือความเอาใจใส่มากพอ
เมื่อใดที่เจ้าเหมียวถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพัง หรือรู้สึกว่าถูกทาสเมิน น้องแมวมักจะออกอาการงอนทันที เพราะฉะนั้นเพื่อป้องกันปัญหานี้ก็ควรหมั่นเล่นกับน้องแมวบ่อย ๆ ยิ่งถ้าคนในครอบครัวต่างให้ความรักความเอาใจใส่ด้วยละก็ เจ้าเหมียวจะไม่มีวันงอนง่าย ๆ อย่างแน่นอน
2. แมวโดนดุ
กรณีนี้จะเกิดขึ้นเมื่อแมวกระทำความผิดแล้วโดนทาสดุหรือทำโทษ ซึ่งหลังจากนั้นน้องแมวอาจจะมีพฤติกรรมแปลกไปจากเติมจากการที่รู้สึกผิด สำหรับวิธีแก้นั้นก็คงต้องให้เวลาเจ้าเหมียวได้สงบสติอารมณ์สักพัก หลังจากนั้นจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล และพยายามอย่าดุน้องแมวอีก
3. แมวกำลังโกรธ
หากน้องแมวงอนเพราะความโกรธ คงต้องบอกเลยว่าเป็นสาเหตุที่หาทางรับมือได้ยากที่สุด เนื่องจากต้องพยายามสังเกตและหาสาเหตุให้ได้ก่อนว่าเพราะอะไรน้องแมวถึงโกรธ จากนั้นจึงค่อยหาวิธีง้อหรือแก้ปัญหาเพื่อให้หายโกรธแล้วยอมกลับมาคืนดีกับทาสอีกครั้ง
4. แมวเบื่อ
เมื่อแมวรู้สึกเบื่อ เหงา ว่างมากเกินไป โดยเฉพาะเมื่อถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพังนาน ๆ น้องแมวจะเริ่มหงุดหงิด อยู่ไม่สุข และเริ่มที่จะหาทางเรียกร้องความสนใจจากทาส ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการหาของเล่นไว้ให้น้องแมวเล่น ไม่ว่าจะเป็นที่ลับเล็บแมว ลูกบอล อุโมงค์แมว หรืออาจจะสละเวลามาเล่นกับเจ้าเหมียวบ้างก็น่าจะดี
5. ไม่ชินกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป
อย่างเช่นสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ หรือหนูน้อยคนใหม่ เจ้าเหมียวก็อาจจะเกิดอาการงอนได้เช่นกัน เนื่องจากเกิดความไม่คุ้นชินกับความเปลี่ยนแปลง ทางที่ดีในช่วงแรก ๆ ที่พาสมาชิกใหม่เข้าบ้าน ควรเอาใจใส่น้องแมวให้มากกว่าปกติ เพื่อไม่ให้น้องแมวรู้สึกว่าถูกเมินหรือลดความสำคัญลงไป เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะก็น่าจะสามารถปรับตัวได้เอง
6. แมวเครียด
ความเครียดก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้น้องแมวงอนได้เช่นกัน หากน้องแมวมีอาการกระวนกระวายหรือหวาดกลัว นั่นอาจแปลว่ากำลังรู้สึกเครียด ควรปล่อยให้ได้อยู่เงียบ ๆ อย่างสงบสักระยะ และพยายามอย่าเพิ่งปรับเปลี่ยนชีวิตประจำวันของน้องแมวมากนัก หรือถ้าหากอาการยังไม่ดีขึ้นก็อาจลองปรึกษาสัตวแพทย์ดู
7. แมวป่วยหรือบาดเจ็บ
หากปกติน้องแมวมีนิสัยร่าเริงซุกซน แต่อยู่ดี ๆ กลับกลายเป็นเซื่องซึม เอาแต่เก็บตัวอยู่เงียบ ๆ นั่นอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าน้องแมวกำลังป่วยก็ได้ หรือถ้าหากเจ้าเหมียวมีท่าทางการเคลื่อนไหวหรือเดินแปลก ๆ นั่นก็อาจแปลว่าบาดเจ็บได้เช่นกัน ทางที่ดีควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์
วิธีสังเกตอาการแมวงอนหรือแมวเครียด
1. แกว่งหางแรง
หางเป็นสิ่งที่สามารถบ่งบอกอารมณ์ของแมวได้ชัดเจนที่สุด เมื่อใดก็ตามที่เห็นน้องแมวกระดิกหางแรงมากกว่าปกติ นั่นมักจะแปลว่าเจ้าเหมียวกำลังหงุดหงิดหรือโกรธอยู่ ส่วนหางที่โค้งงอและขนที่หางฟูจะบ่งบอกว่าแมวกำลังมีอาการตื่นกลัวและอาจมีพฤติกรรมก้าวร้าวได้ นอกจากนี้หากน้องแมวหางตกหรือซุกหางไว้ใต้ขาหลัง นั่นอาจเป็นสัญญาณที่บอกว่ากำลังรู้สึกกลัวได้เช่นกัน
2. หูลู่ไปด้านหลังและตาเบิกกว้าง
โดยปกติแล้วหูของแมวจะชี้ขึ้น แต่ถ้าหากหูลู่ไปด้านหลังและตกแบนราบไปกับศีรษะ หรือที่หลายคนเรียกว่า หูบิน และตาแข็งเบิกกว้าง นั่นหมายความว่าน้องแมวอาจจะโกรธอยู่ ในทำนองเดียวกัน ถ้าหากรูม่านตาของน้องแมวขยายทั้งที่ไม่ได้อยู่ในที่มืดและเปิดตากว้าง นั่นก็อาจเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าน้องแมวกำลังกลัวได้เช่นกัน
3. รูปร่างโดยรวมและท่าทาง
ในเวลาที่แมวโกรธหรือกลัว ตัวของแมวจะเกร็งมากกว่าปกติ รวมทั้งอาจขู่ด้วยการทำหลังโค้งและพองขน ส่งเสียงฟู่ แยกเขี้ยว และหนวดชี้ไปข้างหน้า เมื่อเห็นแล้วจะรู้ได้อย่างชัดเจนทันทีเลยว่าเจ้าเหมียวกำลังอยู่ในสภาวะอารมณ์ที่ไม่โอเคแน่นอน
แมวงอนง้อยังไงดี
1. เลือกเวลาที่เหมาะสม
หากเหตุการณ์ที่ทำให้แมวงอนเพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน ควรรอสักพัก ปล่อยให้น้องแมวได้สงบสติอารมณ์จนรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น จากนั้นจึงค่อยหาทางพยายามเข้าไปง้อและเกลี้ยกล่อมในภายหลัง
2. ใช้น้ำเสียงที่นุ่มนวล
สิ่งที่พูดอาจไม่สำคัญเท่ากับน้ำเสียงที่ใช้ในการพูด เนื่องจากแมวจะค่อนข้างมีความไวต่อน้ำเสียง จึงควรหลีกเลี่ยงการพูดเสียงดัง ๆ หรือกระโชกโฮกฮาก เพราะจะยิ่งทำให้น้องแมวตกใจกลัวหรือหงุดหงิดมากขึ้น ให้ค่อย ๆ พูดช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล หรืออาจเริ่มจากการเรียกชื่อก็ได้
3. ขอโทษและมอบความรัก
สิ่งที่สามารถง้อน้องแมวได้ดีกว่าการพูดคำขอโทษคือการมอบความรัก แนะนำให้เกาในจุดที่น้องแมวชอบเบา ๆ นอกจากนี้ก็อาจลองใช้ภาษาในแบบของน้องแมวอย่างการกะพริบตาช้า ๆ เพราะนั่นคือสิ่งที่แมวมักจะทำเพื่อแสดงความรักต่อมนุษย์เช่นกัน
4. ป้อนขนม
แน่นอนว่าการให้น้องแมวกินขนมที่ชอบจะต้องดีกว่าการขอโทษเฉย ๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เจ้าเหมียวอารมณ์ดีและหายงอนง่ายขึ้นแล้ว ในระยะยาวยังช่วยทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทาสกับน้องแมวแน่นแฟ้นมากขึ้นอีกด้วยนะ
5. เล่นกับน้อง
เมื่อน้องแมวเริ่มอารมณ์ดีและดูเหมือนว่าจะหายงอนแล้ว ควรแสดงความใส่ใจด้วยการเข้าไปเล่นด้วยเพื่อผูกมิตรและสานสัมพันธ์กันอีกครั้ง อาจไม่ต้องใช้เวลานานมาก สัก 15 นาทีก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
หลังจากที่สามารถง้อน้องแมวให้หายงอนและกลับมาคืนดีกับทาสได้แล้ว ถ้าเป็นไปได้ในอนาคตก็ควรระวังอย่าเผลอใช้อารมณ์มากเกินไปจนทำให้เจ้าเหมียวงอนอีกล่ะ
เรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิธีเลี้ยงแมว
ขอบคุณข้อมูลจาก : sprayingcats.com, betterwithcats.net, cats.com, catster.com