![นกแก้ว นกแก้ว](http://img.kapook.com/u/dummy/b_1.jpg)
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ไม่ว่าตอนนี้คุณจะกำลังมองหา นกแก้ว สักตัวมาเลี้ยง หรือจะเลี้ยงนกแก้วอยู่แล้ว คงจะได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับนกแก้วกันมาไม่น้อย แต่ไม่ว่าคำบอกเล่าเหล่านั้นจะเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ก็ไม่ควรจะหลงเชื่อจนกว่าจะได้พิสูจน์ความจริงด้วยตัวเอง และวันนี้ก็เป็นโอกาสอันดีที่ทุกคนจะได้ร่วมพิสูจน์ความจริงเกี่ยวกับนกแก้วไปพร้อม ๆ กัน กับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเลี้ยงนกแก้วที่ควรรู้ จะได้เข้าใจนกแก้วมากขึ้น
1. นกแก้วเป็นสปีชีส์ไม่ใช่สายพันธุ์
นกแก้วเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความแตกต่างออกไปจากสุนัขและแมวมาก เพราะถึงแม้สุนัขแต่ละตัวจะมีหน้าตาไม่เหมือนกัน แต่สุนัขทั้งหมดต่างก็สืบเชื้อสายมาจากสปีชีส์เดียว แค่มีความแตกต่างทางสายพันธุ์ เช่นเดียวกับแมว ในขณะที่นกแก้วไม่ได้ต่างกันแค่ตระกูลกับรูปกายภายนอกเท่านั้น แต่ในเรื่องอื่น ๆ ก็มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารอาหารการกิน ความต้องการ หรือถิ่นที่อยู่อาศัย อีกทั้งในตอนนี้นกแก้วก็มีมากกว่า 100 สปีชีส์แล้ว ดังนั้นหากจะใช้ความรู้เบื้องต้นเลี้ยงนกแก้วอย่างเดียวคงไม่พอ คงจะดีกว่าหากมีการศึกษาเกี่ยวกับสปีชีส์ของนกแก้วที่จะนำมาเลี้ยงอย่างลึกซึ้ง
2. นกแก้วเป็นสัตว์ที่ฝึกได้แต่ไม่เชื่อง
เนื่องจากสุนัขกับแมวถูกปรับเปลี่ยนสายพันธุ์มาหลายร้อยปี เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันคนได้ ในขณะที่นกแก้วยังอาศัยอยู่กับธรรมชาติ และเพิ่งกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงเมื่อไม่นานมานี้เอง ดังนั้นนกแก้วจึงอาจไม่ใช่สัตว์ที่สมบูรณ์แบบมากนักในฐานะที่เป็นสัตว์เลี้ยง เพราะนกแก้วไม่ใช่สัตว์ที่ทำให้เชื่องได้ และการฝึกด้วยคำสั่งจะไม่ได้ผล แต่ถ้าหากต้องการให้นกแก้วมีพฤติกรรมที่พึงประสงค์ เปลี่ยนจากการออกคำสั่งเป็นการเสริมแรง โดยการให้รางวัลเมื่อนกแก้วทำพฤติกรรมที่เป็นที่พอใจของเจ้าของดีกว่า
3. นกแก้วก็มีภาษากายช่วยในการสื่อสาร
เนื่องจากคนอยู่ร่วมกับสุนัขและแมวมานาน ดังนั้นการอ่านภาษากายของสัตว์ทั้ง 2 ชนิดนี้จึงเป็นเรื่องง่าย ในขณะที่การอ่านภาษากายของนกแก้วเป็นเรื่องยากพอสมควร แต่ถึงเป็นอย่างนั้นเจ้าของก็ควรจะใช้ความพยายามเพื่อทำความเข้าใจในสิ่งที่นกแก้วต้องการสื่อสารกับคุณให้ได้ อย่างเช่น เมื่อนกแก้วต้องการให้เจ้าของแสดงความรัก หรือแค่อยากจะกลับเข้ากรง เป็นต้น ซึ่งหากสามารถเรียนรู้ที่จะสื่อสารกับนกแก้วได้ พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ ได้แก่ การเปล่งเสียงกรีดร้องหรือการจิกกัดก็จะหายไป เพราะการสื่อสารผ่านภาษากายเป็นผลสำเร็จนั่นเอง
4. นกแก้วก็ต้องการอาหารที่หลากหลาย
มือใหม่หัดเลี้ยงนกแก้วหลายคนอาจจะเข้าใจว่า อาหารสำเร็จรูปมีสารอาหารที่นกแก้วต้องการเพียงพออยู่แล้ว ทั้งที่ความจริงแล้วนกแก้วต้องการสารอาหาร และอาหารที่มีความหลากหลายมากกว่านั้น เพราะตามธรรมชาตินกแก้วไม่ได้กินแค่ผักผลไม้สด หรือเมล็ดพืชเพียงอย่างเดียว แต่บางครั้งก็ยังกินใบไม้ ตัวอ่อนของแมลง รวมไปถึงดิน โคลน หรืออะไรก็ตามที่ให้สารอาหารที่นกแก้วต้องการด้วย นอกเหนือจากนี้อย่าเผลอให้นกแก้วกินอาหารคนเชียว เพราะบางอย่างอาจกลายเป็นพิษทำร้ายนกแก้วได้
5. นกแก้วอาจทำให้มีรายจ่ายมากขึ้น
เนื่องจากนกแก้วมีโครงสร้างที่ซับซ้อนและร่างกายก็บอบบางกว่าสุนัขกับแมวมาก ดังนั้นเมื่อนกแก้วป่วยก็อาจส่งผลให้ค่ารักษาพยาบาลของพวกมันสูงตามไปด้วย เพราะสัตว์แพทย์จำเป็นต้องสั่งเครื่องไม้เครื่องมือ และยาที่ใช้ในการรักษานกแก้วมาใช้เป็นพิเศษ ดังนั้นสัตว์แพทย์เองก็เลยต้องเก็บค่ารักษาพยาบาลสำหรับนกแก้วสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งหากคิดจะเลี้ยงนกแก้วก็ควรยอมรับจุดนี้ให้ได้
![นกแก้ว นกแก้ว](http://img.kapook.com/u/dummy/b2.jpg)
6. นกแก้วก็ต้องการกิจกรรมเพิ่มทักษะ
เนื่องจากนกแก้วมีสมองที่ฉลาดเป็นเลิศมากกว่าที่คิด หากเป็นไปได้เจ้าของควรหากิจกรรมให้นกแก้วทำด้วยในแต่ละวัน และกิจกรรมที่ว่านี้ก็ควรเป็นกิจกรรมนอกกรง และไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำสั่งของเจ้าของ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเจ้าของควรจะหาพื้นที่ว่าง ของเล่น และหาเวลามาเล่นกับนกแก้วด้วย อย่างน้อยมีเวลามาดูแล 2 ครั้งต่อวัน ครั้งละ 10 นาที
7. การฝึกนกแก้วก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าเรื่องอื่น
แม้การฝึกนกแก้วจะเป็นเรื่องยาก แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็ยังเป็นเรื่องที่สำคัญที่เจ้าของควรทำด้วยเช่นกัน โดยการหาเวลาว่างมาสอนพฤติกรรมที่สำคัญให้กับนกแก้ว พร้อม ๆ กับการเรียนรู้ภาษากายของนกแก้วไปด้วยในตัว ด้วยการให้รางวัลเมื่อนกแก้วแสดงพฤติกรรมที่พึงประสงค์ออกมา เพื่อให้การสื่อสารระหว่างคุณกับนกแก้วดีขึ้น และสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
8. นกแก้วก็ต้องการวางแผนเพื่อชีวิตในระยะยาว
บางครั้งนกแก้วอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนถิ่นที่อยู่อาศัย เพื่อย้ายตามไปกับเจ้าของ แถมยังต้องเจอกับความเปลี่ยนแปลงอีกมากมายเมื่อไปที่ใหม่ นอกจากนี้ความน่ารักของนกแก้วอาจทำให้มีผู้คนแปลกหน้าแวะเวียนเข้ามาทักทาย เพราะฉะนั้นควรเตรียมความพร้อมกับให้กับนกแก้วอยู่เสมอ โดยการฝึกทักษะที่จำเป็นให้กับพวกมัน ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมตัวเพื่อการเดินทาง การพบปะกับผู้คนหน้าใหม่ รวมไปถึงทักษะอื่น ๆ ที่ดูแล้วว่าสำคัญกับนกแก้วของตัวเอง
9. ยังมีการค้นพบความจริงเกี่ยวกับนกแก้วออกมาเรื่อย ๆ
ดังนั้นเจ้าของควรจะศึกษาหาความรู้ และคอยติดตามข่าวสารของนกแก้วอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความรู้ให้กับตัวเองและเข้าใจนกแก้วได้มากขึ้น อีกทั้งบางครั้งข้อมูลเก่าที่ได้มาอาจเป็นการค้นพบเมื่อหลายปีมาแล้ว ซึ่งบางครั้งก็ยังมีจุดที่ผิดพลาด คงจะดีกว่าหากมีการอัพเดทข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับนกแก้วให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอในทุก ๆ ด้าน
10. ทำให้การเลี้ยงนกแก้วเป็นเรื่องสนุกมากกว่าหน้าที่
แม้การเลี้ยงนกแก้วจะยากกว่าการเลี้ยงสัตว์ชนิดอื่น ๆ แต่หากเลี้ยงด้วยใจรักและทำทุกอย่างด้วยความสนุก ก็จะทำให้การเลี้ยงนกแก้วกลายเป็นเรื่องง่ายทันที อีกทั้งความสนุกจะส่งผลให้ทั้งเจ้าของและนกแก้วอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ในขณะที่หากคิดว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ นอกจากจะนำความเครียดมาให้แล้ว ยังทำให้การเลี้ยงนกแก้วกลายเป็นเรื่องยากกว่าสิ่งที่ควรจะเป็นด้วย
แม้จะได้ยินเรื่องซ้ำ ๆ เกี่ยวกับนกแก้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องจริงเสมอไป เพราะฉะนั้นไม่ควรปักใจเชื่อจนกว่าจะพิสูจน์ความจริงให้เห็นกับตาของตัวเอง โดยการค้นหาข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ จนกระทั่งแน่ใจแล้วว่ามันเป็นความจริงจากสัตวแพทย์ กลุ่มคนที่เลี้ยงนกแก้วเหมือนกัน เวิร์กชอปสำหรับคนรักนกแก้ว หรือหนังสือกับนิตยสารที่นำเสนอเรื่องนกแก้วก็ได้
![](http://img.kapook.com/image/icon/105042.gif)
![](http://img.kapook.com/image/icon/105042.gif)