ด้วงกว่าง สัตว์เลี้ยง พื้นบ้าน เจ้าสังเวียนแมลงนักรบ


กว่าง
ด้วงกว่าง


ด้วงกว่าง


สรุปข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

จากคอลัมน์ เทคโนฯ สัตว์เลี้ยง โดย อุราณี ทับทอง

          ด้วงกว่าง คือแมลงปีกแข็ง ที่มีความสวยงาม น่าเลี้ยง น่าศึกษา มากกว่าในฐานะแมลงนักสู้ โดดเด่นด้วยลักษณะเขาตามชนิดพันธุ์ อาทิ "กว่างชน" พระเอกนักสู้ที่บางท้องถิ่นเรียกว่า กว่างโซ้ง แต่ถ้าตัวเล็กหน่อย เรียก กว่างกิ ตัวผู้มีเขาสองแฉกที่ส่วนหัว โค้งตั้งขึ้นเล็กน้อย ส่วนที่สันหลังอกก็มีเขายื่นยาวออกไปทางด้านหน้า ส่วนปลายเป็นแฉกแหลมสองแฉก แต่ในเพศเมียไม่มีเขา มีลำตัวค่อนข้างสั้นกว่ากว่างอื่น ๆ มีสีแดงเปลือกมังคุดไปจนถึงสีดำสนิทมันเงา ขนาดโตเต็มที่เฉลี่ยราว 1-2.5 นิ้ว แต่หากเป็นกว่างซางเหนือ ตัวผู้จะมีเขาที่ส่วนหัวยาวตั้งขึ้นและโค้งมาทางด้านหลังเล็กน้อย ส่วนที่อกปล้องแรกมีสีดำ มีเขาอีกสองคู่อยู่ที่ด้านข้างทั้งสองด้าน เมื่อมองโดยรวมแล้วดูจะมีเขามากกว่าเพื่อน หลายคนจึงเรียกว่า กว่างห้าเขา แต่ตัวเมียไม่มีเขา สีคล้ายกับตัวผู้ ปีกมีสีน้ำตาลอ่อนปนเหลือง ขนาดของลำตัวราว 4-7 นิ้ว

          นอกจากนี้ ยังมี กว่างสามเขา กว่างหูกระต่าย กว่างเฮอร์คิวลิส กว่างเนปจูน และกว่างอีกหลายชนิดที่จัดเป็นแมลงสวยงามในแวดวงนักเลี้ยงแมลง แต่สำหรับผู้เลี้ยงมือใหม่นิยมเริ่มต้นที่กว่างชน เนื่องจากหาเลี้ยงง่าย เพาะพันธุ์ง่าย ราคาถูก

          ซึ่งแม้ความเจริญในเมืองใหญ่ไม่เอื้อต่อการมีชีวิตอยู่ของด้วงกว่างก็ตาม แต่กลุ่มผู้นิยมหรือนักสะสมด้วงก็มีวิธีการเลี้ยงและเพาะพันธุ์ด้วงกว่าง โดยสร้างที่อยู่อาศัยในตู้ปลาหรือตู้พลาสติค

          สำหรับเด็กชายที่สอบถามถึงเรื่องวิธีการเลี้ยงบื้องต้น เพราะอยากเปลี่ยนที่อยู่ด้วงใหม่ จากที่มีเพียงชิ้นอ้อยเล็กๆ แถมเยลลี่แบบปีโป้อีกชิ้น บรรจุอยู่ในกล่องพลาสติคเท่าถ้วยน้ำพริกที่ได้จากร้านค้า มาเป็นตู้เลี้ยงที่พอให้ด้วงได้หายใจได้นานขึ้น จึงขอนำเสนอข้อมูลดี ๆ จากประสบการณ์ตรงของผู้เลี้ยงในเว็บไซต์ siambeetle.com ศูนย์กลางการซื้อขายด้วงและอุปกรณ์การเลี้ยงที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่ง ขณะเดียวกันก็มีคำแนะนำในการเลี้ยงพอสมควร แต่ขอนำมาสรุปพอสังเขปรวมกับจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ เพื่อเป็นแนวทางเบื้องต้นในการเลี้ยงด้วงกว่างแก่ผู้สนใจ

          เริ่มต้นจาก เตรียมอุปกรณ์การเลี้ยงเบื้องต้น ได้แก่ ตู้เลี้ยงด้วง อาจใช้เป็นตู้ปลาเก่า หรือตู้พลาสติคก็ได้ เจาะให้มีรูระบายอากาศเล็กน้อย มีความสูงพอสมควร (แนะนำตู้ ขนาด 40x20x30 เซนติเมตร) รองด้วยวัสดุรองพื้นสำหรับด้วงกว่าง ซึ่งมีแบบสำเร็จรูปให้เลือกใช้ แต่ผู้เลี้ยงบางท่านใช้ดินผสมกับไม้ผุสับและแกลบ บางท่านใช้ขี้เลื่อยจากไม้เนื้ออ่อนแช่น้ำ 1-2 คืน ก็ได้ผลดีเช่นกัน แต่ไม่ควรใช้ขุยมะพร้าว) วัสดุรองสำหรับด้วงกว่างควรผสมน้ำให้พอชื้นก่อนปูพื้นตู้ แต่ไม่ควรฉ่ำจนเกินไป เพราะจะมีผลต่อการขยายพันธุ์ของด้วง หรือทำให้เกิดอาการ "ตู้เน่า" ได้ หากกำขี้เลื่อยแล้วไม่มีน้ำไหลจากร่องนิ้วเป็นอันใช้ได้

          จากนั้นนำวัสดุมารองพื้นตู้ โดยกดให้แน่น หนาประมาณ 2 นิ้ว รองทับอีกชั้น แต่ไม่ต้องกดแน่นอีก 3-4 นิ้ว หากสังเกตดูเห็นว่าวัสดุรองแห้งเกินไป ให้ใช้ฟ็อกกี้ฉีดพ่นน้ำเล็กน้อยเพิ่มความชื้น วางท่อนไม้ให้ด้วงได้เกาะไต่หรือพลิกตัว เพราะถ้าด้วงหงายท้องนานอาจตายได้ ปล่อยด้วงกว่างให้เริงร่าอยู่ในตู้ แล้วนำตู้เลี้ยงไปวางไว้ที่ที่มีแสงน้อย โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับด้วงกว่างก็คือ 20-30 องศาเซลเซียส หากต้องการเลี้ยงด้วงชนิดอื่นต้องศึกษาด้วยว่าควรอยู่ในอุณหภูมิเท่าใด





          ส่วนอาหารที่ด้วงกว่างชื่นชอบก็คือ อ้อย ผู้ลี้ยงไม่จำเป็นต้องปอกเปลือกทั้งหมด เพียงแค่ผ่าครึ่งหรือปอกไว้บางส่วน เพื่อป้องกันน้ำอ้อยแห้งและป้องกันมด ผลไม้สุกงอมอื่น ๆ ด้วงก็ชอบเช่นกัน เช่น กล้วย แอปเปิ้ล มะม่วง หรือเยลลี่ (ปีโป้สีม่วง และสีขาว ด้วงไม่ชอบกินนะจ๊ะ) แต่การวางอาหารควรรองด้วยใบไม้หรือแผ่นไม้บางๆ ก่อน ป้องกันด้วงลากลงพื้นลึกตามสัญชาตญาณการสะสมอาหารซึ่งอาจทำให้เกิดการเน่าเสียภายในตู้เลี้ยงได้

          นอกจากจะเป็นนักรบแห่งขุนเขาแล้ว ด้วงกว่างนับยังเป็นนักรักตัวยง ในตัวเต็มวัย (อายุราว 8-10 เดือน) ตัวผู้สามารถผสมพันธุ์กับตัวเมียได้หลายครั้งต่อวัน และผสมพันธุ์กับตัวเมียได้มากกว่า 1 ตัว ซึ่งโดยทั่วไป ผู้เลี้ยงมักเริ่มต้นเลี้ยงด้วงเป็นคู่ จึงเอื้อโอกาสในการผสมพันธุ์ได้ง่าย เมื่อผู้เลี้ยงเห็นแน่ว่าตัวเมียสูญเสียพรมจรรย์แล้ว ก็เตรียมรอลุ้นการกำเนิดของด้วงตัวน้อยได้เลย แต่ต้องเตรียตัวเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยเพื่อให้หนอนด้วงเจริญพันธุ์ได้สมบูรณ์ เริ่มต้นจากการนำเพศเมียมาแยกเลี้ยงไว้เพื่อให้มันวางไข่ได้อย่างสบายใจเฉิบ ไร้ผู้รบกวน

          ตู้สำหรับวางไข่ แนะนำให้ใช้ตู้ขนาดใหญ่ ปูอัดวัสดุรองพื้นชั้นล่างสุดให้แน่นเช่นเดียวกับตู้เลี้ยง แต่ในชั้นต่อมาที่ปูหลวมๆ ให้สูงขึ้นอีก 6-8 นิ้ว ขึ้นไป เพราะด้วงกว่างต้องการวางไข่ในที่ลึก ให้อาหารโดยวางบนแผ่นไม้ด้านบนตามปกติ ประมาณ 1-2 เดือน ตัวเมียจะเริ่มวางไข่กลมๆ ชุดแรกราว 10 ฟอง และอาจวางไข่ไปเรื่อยจนเป็นร้อยฟองก็เป็นได้ ราว 1 เดือน ไข่จะฟักเป็นหนอน นักเพาะพันธุ์ด้วงนิยมแยกหนอนด้วงมาเลี้ยงในกระปุกพลาสติคหรือขวดแก้ว เจาะรูที่ฝาปิด และบรรจุด้วยไม้ผุ ขี้เลื่อยหรือไม้บดที่มีส่วนผสมของดินดำ ซึ่งเกิดจากการสลายของซากพืชซากสัตว์ และมูลสัตว์เก่า ซึ่งจะเป็นทั้งที่อยู่และอาหารหนอนด้วง วัยนี้มีระยะเติบโตในช่วงเป็นหนอน 6-8 เดือน จึงจะกลายเป็นดักแด้ จากนั้นอีก 1 เดือน ก็จะกลายเป็นด้วงกว่างเต็มวัยให้ได้ลุ้นเพศและความสวยงามอีกครั้ง

          อาจจะดูเป็นเรื่องง่าย แต่ไม่ว่าสัตว์ชนิดใดก็ต่างต้องการการดำรงชีวิตที่เหมาะสมที่สุด สำหรับคนรักแมลงไทยก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะปัจจุบันมีแหล่งความรู้เกี่ยวกับแมลงหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น พิพิธภัณฑ์แมลง ของภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน และอุทยานแมลงเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน หรือแม้แต่ที่สวนสัตว์แมลงสยาม ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ก็นับเป็นแหล่งเรียนรู้ที่น่าสนใจมาก

          ใกล้ที่ไหน ก็ลองเข้าไปศึกษาเยี่ยมชมก่อนตัดสินใจครอบครอง ซึ่งไม่เพียงแค่ได้เห็นแมลงบางชนิดที่งดงามจนละสายตาแทบไม่ได้ บางทียังอาจทำให้เราได้รู้สึกว่า ความอัศจรรย์ของธรรมชาติได้สรรค์สร้างแมลงที่มีคุณค่ามากกว่าการเป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยง...






ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก gunsandgames.com, dnp.go.th, skn.ac.th
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ด้วงกว่าง สัตว์เลี้ยง พื้นบ้าน เจ้าสังเวียนแมลงนักรบ อัปเดตล่าสุด 25 พฤศจิกายน 2552 เวลา 11:43:50 48,392 อ่าน
TOP
x close