กิ้งก่า "เบียร์ด ดรากอน" (Bearded Dragon)
"เบียร์ด ดรากอน" มังกรเครา แห่งทะเลทราย (เทคโนโลยีชาวบ้าน)
คอลัมน์ : เทคโนฯสัตว์เลี้ยง
โดย : อุราณี ทับทอง
เกือบสิบปีก่อน "อีกัวน่า" กลายเป็นสัตว์แปลกฮ็อตฮิตที่ได้รับความสนใจอย่างมากในวงการสัตว์เลี้ยง (แนวแปลก)เมืองไทย แต่สุดท้ายความนิยมก็ค่อยๆ ลดลำดับจนตกกระป๋อง ด้วยเหตุจากความหลากหลายของชนิดสัตว์ต่างถิ่นที่มีอยู่มากมายบนโลกได้ทยอยเข้ามาสร้างความรู้จักกับคนรักสัตว์เมืองไทยจนต้องเผลอปันใจไปเชยชมสัตว์ชนิดอื่นๆ ดูบ้าง
แม้อีกัวน่าจะถูกเมิน แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าความชื่นชอบในตัวของสัตว์เลื้อยคลานตระกูลกิ้งก่ายังคงมีอยู่และมีความหลากหลายมากกว่าอดีต ซึ่งในยุคหลังคงไม่มีกิ้งก่าตัวไหนมาแรงแซงหน้า "เบียร์ด ดรากอน" (Bearded Dragon) กิ้งก่าทะเลทรายที่มีขนาดเล็กกว่าอีกัวน่ายักษ์หลายเท่าตัว แต่มีความองอาจน่าเกรงขามไม่แพ้กัน จัดเป็นหนึ่งในกลุ่มสัตว์เลื้อยคลานที่เข้ามาแพร่หลายในเมืองไทยมานานหลายปี แต่ยังคงได้รับความนิยมถึงปัจจุบัน
เบียร์ด ดรากอน มีชื่อเรียกตามคำแปลตรงตัวว่า "มังกรเครา" บ้างเรียก "กิ้งก่าเครางาม" ซึ่งเรียกกันตามลักษณะของผิวหนังใต้คางที่พองขยายขึ้นเมื่ออยู่ในภาวะอารมณ์ตื่นเต้นในเวลาผสมพันธุ์ หรืออยู่ในภาวะที่ต้องข่มขวัญเมื่อเจอศัตรู ผิวหนังย่นๆ บริเวณนั้นยังถูกปกคลุมไปด้วยหนามแหลม ซึ่งมีทั้งในตัวผู้และตัวเมีย มองดูแล้วจึงคล้ายคลึงกับเคราของมนุษย์ ผิวหนังตามลำตัวเต็มไปด้วยตุ่มหนาม โดยเฉพาะสีข้างลำตัวทั้งซ้ายขวาจะเห็นหนามแหลมเรียงตัวอย่างชัดเจน กิ้งก่าชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดในพื้นที่แห้งแล้ง แถบทะเลทรายในประเทศออสเตรเลีย มีขนาดเมื่อโตเต็มที่ตั้งแต่หัวจรดหางราว 1-1.5 ฟุต มีน้ำหนัก 300-500 กรัม และสามารถสังเกตเพศได้ชัดเจนเมื่ออายุ 1 ปี
"หลายคนสงสัยว่า ทำไม เจ้าเบียร์ด ดรากอน ถึงเป็นที่สนใจในคนรักสัตว์มากนัก นั่นเป็นเพราะว่าการเลี้ยงดูไม่ยุ่งยากนัก มีสีสันที่หลากหลาย ทั้งยังมีรูปร่างที่คล้ายกับมังกรเเละไดโนเสาร์ จึงทำให้รู้สึกเหมือนสัตว์ในอดีตได้มีชีวิตขึ้นมาใหม่ และด้วยความที่เลี้ยงง่ายเลยทำให้เบียร์ด ดรากอน เป็นที่นิยมในคนรักสัตว์ในปัจจุบันทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งมันเหมาะกับผู้ที่เริ่มเลี้ยงสัตว์เลื้อยคลานด้วย กิ้งก่าชนิดนี้จัดได้ว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมตลอดกาลอีกตัวหนึ่ง" คุณรัฐกิจ จันทรสีมา หรือ คุณรัฐ บอกเล่าถึงเหตุผลที่ทำให้เขาตัดสินใจเลี้ยงเจ้ามังกรเคราชนิดนี้มานานกว่า 3 ปี
คุณรัฐ อธิบายถึงการเลี้ยงเบียร์ด ดรากอน ว่า สามารถเลี้ยงได้ทั้งในกล่องพลาสติก หรือตู้ปลาขนาดใหญ่ จัดตำแหน่งไฟหรือแดดให้ส่องถึง ทั่วพื้นที่ให้ใส่ทรายและตั้งวางก้อนหินหรือโพรงไม้ให้เป็นมุมส่วนตัว ให้อาหารทั้งเเมลงเเละผักสด เช่น จิ้งหรีด หนอนนก หนอนยักษ์ หนอนเเว็กซ์ หรือแว็กซ์วอร์ม (Waxworm) เเละหนูแดง ส่วนผักสด เช่น ผักกวางตุ้ง แครอต ฟักทอง บล็อกโคลี่ ผักกาดหอม แต่ควรเสริมวิตามินเเละเเคลเซียมสำหรับสัตว์เลื้อยคลานสัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยการคลุกกับจิ้งหรีด เเละหมั่นแช่ในน้ำอุ่น โดยใส่ในภาชนะก้นตื้น เพื่อป้องกันเบียร์ด ดรากอน ที่มีขนาดเล็กจมน้ำ
กิ้งก่า "เบียร์ด ดรากอน" (Bearded Dragon)
ไม่เพียงการดูแลที่ไม่ยุ่งยาก สีสันและลวดลายของเบียร์ด ดรากอน จึงเป็นลักษณะเด่นให้คนรักสัตว์แปลกส่วนใหญ่หลงใหล นิสัยใจคอของกิ้งก่าชนิดนี้ยังสามารถปรับตัวให้เข้ากับผู้เลี้ยงได้อย่างดี เห็นท่าทางที่ชอบเชิดหน้าชูคอของพวกมัน อย่าคิดว่าหยิ่ง เพราะหากทำความรู้จักและคุ้นเคยกับมันแล้ว จะรู้ว่ามันเชื่องและสามารถจับเล่นได้อย่างง่ายดาย แม้ไม่ใช่เจ้าของ
"เบียร์ด ดรากอน เป็นสัตว์ที่ค่อนข้างเชื่อง เเละคุ้นชินกับคนได้ง่าย สามารถจับเล่นเเละให้อาหารจากมือของเราได้ ทำให้เราสามารถใช้มันในการทำให้เด็กเกิดการรักสัตว์ เเละมีความรับผิดชอบได้ เเต่ทั้งนี้ควรอยู่ในดุลพินิจของผู้ใหญ่ด้วย เพราะถ้าเลี้ยงมันไม่ถูกวิธีเเละขาดการดูเเลจะไม่ดีต่อสัตว์เลี้ยงเรา ผมขอแนะนำว่าการเล่นกับเบียร์ด ดรากอน เราไม่ควรเล่นกับมันเเรงเกินไป หรือบ่อยมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้สัตว์ได้รับบาดเจ็บเเละเครียดได้ ที่สำคัญคือก่อนเเละหลังการเล่นกับเบีร์ยด ดรากอน ควรทำความสะอาดมือก่อนทุกครั้ง สัตว์เลี้ยงพวกนี้ถ้าเลี้ยงดูได้ดีเเละเกิดการผสมพันธุ์กัน ออกลูกมายังสามารถจำหน่ายให้คนที่สนใจได้ เป็นการหารายได้เป็นค่าขนมเล็กๆ น้อยๆ ได้ แต่ถ้าใครต้องการทำเชิงธุรกิจจริงๆ อาจจะต้องศึกษาเพิ่มเติมอีกที แต่อย่างไรก็ตาม การทำเพื่อธุรกิจ ต้องเกิดจากความรักในสัตว์ที่เราทำด้วยครับ มันจะได้ไม่เป็นปัญหาต่อไป" คุณรัฐ กล่าว
อย่างไรก็ตาม กระแสความนิยมที่ขึ้นลงของการเลี้ยงสัตว์แปลกนั้น ไม่แตกต่างจากสัตว์ชนิดอื่นๆ ซึ่งต้องมีทั้งคนเลี้ยงเพิ่ม หรือเลิกเลี้ยงไป แล้วแต่ว่าเรามีเวลาให้สัตว์ของเราหรือเราชอบและสะดวกในการดูแลสัตว์ชนิดไหน เพราะสัตว์แต่ละตัวมีพฤติกรรมไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ควรคำนึงการตัดสินใจนำสัตว์มาเลี้ยงมากที่สุดก็คือ การศึกษาข้อมูลทั้งในแง่พฤติกรรมทางธรรมชาติและการเลี้ยงดูที่ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง ไม่ใช่เฉพาะเวลาที่ต้องแบ่งมาเลี้ยงดูพวกมันเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยเรื่องเงินทุนค่าอาหารและอุปกรณ์ที่ผู้เลี้ยงต้องยอมรับ...
รวมถึงอายุขัยของสัตว์ ซึ่งหมายถึงช่วงเวลาที่ผู้เลี้ยงต้อง "รับผิดชอบ" อีกชีวิตให้ดีที่สุด
รวมเรื่องสัตว์เลี้ยง ทั้ง สุนัข แมว ปลา ฯลฯ พร้อมวิธีดูแลสัตว์เลี้ยง คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Wikipedia.org