x close

วิธีเลี้ยงนกหงส์หยก สัตว์เลี้ยงแสนสวย เสียงร้องไพเราะก้องกังวาน

วิธีเลี้ยงนกหงส์หยก สัตว์เลี้ยงแสนสวย เสียงร้องก้องกังวาน รวมสิ่งที่ทุกคนควรรู้ก่อนตัดสินใจหานกหงส์หยกมาเลี้ยงที่บ้าน

นกหงส์หยก

นกหงส์หยก นกที่มีขนสีสันสวยงาม เสียงร้องไพเราะ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้าน ด้วยความขี้เล่น ฉลาด และสามารถฝึกให้เชื่องได้ง่าย หลายคนจึงอยากลองเลี้ยงนกหงส์หยกดูบ้าง แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเลี้ยง สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีเลี้ยงนกหงส์หยกที่ถูกต้อง เพื่อให้นกหงส์หยกอยู่กับเราอย่างมีความสุขและมีสุขภาพดี

ลักษณะนกหงส์หยก

ลักษณะนกหงส์หยก

นกหงส์หยก (Budgerigar) หรือชื่อในทางวิทยาศาสตร์ว่า Melopsittacus undulatus มีต้นกำเนิดจากประเทศออสเตรเลีย เป็นนกประจำถิ่นที่มักจะพบเห็นได้ในทุ่งหญ้า ป่าละเมาะ ป่าเปิด พื้นที่เพาะปลูก ตามต้นยูคาลิปตัสและต้นไม้ตระกูลกระถิน 

นกหงส์หยก ส่วนใหญ่มีลักษณะหัวส่วนบนสีเหลือง มีลายสีดำหรือแถบสีม่วงสลับดำบริเวณแก้ม ปากแหลม คอสีเหลือง ขนาดลำตัวยาว 18-20 เซนติเมตร เมื่อกางปีกจะกว้าง 30 เซนติเมตร และมีน้ำหนัก 30 กรัม

นกหงส์หยกป่า VS นกหงส์หยกเลี้ยง ต่างกันอย่างไร

  • นกหงส์หยกป่า

เดิมทีแล้วนกหงส์หยกจะเป็นนกป่าที่เร่ร่อนไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ที่มีแหล่งน้ำและอาหาร มักอยู่รวมกันเป็นฝูง และทำรังบนต้นไม้ มีขนาดเล็กกว่านกหงส์หยกเลี้ยงหรือนกหงส์หยกบ้าน 

  • นกหงส์หยกเลี้ยง

ขนาดนกหงส์หยกเลี้ยงจะตัวใหญ่กว่านกหงส์หยกป่าเกือบ 2 เท่า ขนฟูกว่า แต่ก็มีอายุเฉลี่ยสั้นกว่า นิสัยทั่วไปจะชอบของเล่น ชอบส่องกระจก และชอบส่งเสียงเลียนแบบเสียงมนุษย์ จึงเป็นนกที่คนนิยมเลี้ยงไว้ชวนคุยเล่นเป็นเพื่อน

วิธีเลี้ยงนกหงส์หยก

1. กรงนกหงส์หยก

วิธีเลี้ยงนกหงส์หยก

เลือกซื้อกรงขนาดที่เหมาะสม ควรมีพื้นที่เพียงพอให้นกสามารถกางปีกและกระพือปีกได้โดยไม่ชนลูกกรง วางกรงในบริเวณที่นกจะรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว และควรวางในตำแหน่งที่มีแสงแดงรำไรหรือส่องเข้ามาได้บางส่วน แต่ไม่ถูกแสงแดดหรือลมพัดโดยตรง 

ส่วนแท่งไม้สำหรับไว้ให้นกเกาะอาจมีหลายอันเพื่อให้นกได้เคลื่อนย้ายไป-มา และไม่ควรไว้เหนือชามอาหารหรือน้ำโดยตรง เพราะอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนได้ นอกจากนี้ควรหมั่นทำความสะอาดกรงนกอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง โดยอาจขัดถาดใต้กรง ชามอาหารและน้ำ และของเล่น ด้วยน้ำสบู่ร้อนแล้วล้างออกให้สะอาด

2. รังนกหงส์หยก

รังนกควรปูด้วยกระดาษที่เปลี่ยนทุกวัน อาจเลือกใช้กระดาษที่มีราคาไม่แพงและหาได้ง่าย เช่น หนังสือพิมพ์ กระดาษชำระ กล่องกระดาษ ถุงกระดาษสีน้ำตาล ควรหลีกเลี่ยงกระดาษใบปลิวที่มีผิวมันเงา เพราะหมึกพิมพ์อาจเป็นพิษหากนกกินเข้าไป และไม่ควรปูด้วยขี้เลื่อยเพราะอาจทำให้มีความชื้นสะสมจนทำให้เกิดเชื้อรา อีกทั้งทำให้มูลนกมีความชื้นเพิ่มขึ้นจนสังเกตสัญญาณของอาการเจ็บป่วยได้ยากขึ้น

3. ถ้วยใส่อาหารนกหงส์หยก

ถ้วยให้อาหารสำหรับนกหงส์หยก อาจเลือกใช้เป็นรางพลาสติกพร้อมตะขอแขวน ชามสเตนเลสพร้อมตัวหนีบสำหรับแขวนในกรง ถ้วยเซรามิกสำหรับวางที่พื้นกรง โดยควรแยกถ้วยอาหารแห้ง อาหารสด และน้ำ ออกจากกัน ถ้วยใส่น้ำควรมีขนาดใหญ่พอสำหรับให้นกลงไปอาบน้ำได้ ถ้าหากเลี้ยงนกหงส์หยกหลายตัวในกรงเดียวกัน ควรมีถ้วยอาหารแยกสำหรับนกแต่ละตัวเพื่อป้องกันไม่ให้แย่งอาหารกัน นอกจากนี้ถ้าพบถ้วยร้าวหรือแตกก็ควรเปลี่ยนใหม่เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ และอย่าลืมหมั่นล้างทำความสะอาดถ้วยใส่อาหารเป็นประจำทุกวันด้วย

4. การให้อาหารนกหงส์หยก

การให้อาหารนกหงส์หยก

อาหารที่ให้ควรเป็นปริมาณสำหรับ 1 วัน และทิ้งอาหารที่นกกินเหลือจากวันก่อนหน้า แต่ในกรณีที่ให้อาหารเป็นผัก-ผลไม้สด ควรทิ้งภายใน 2-3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการเน่าเสีย ส่วนขนมสำหรับนกหงส์หยกอาจให้ทุกวันหรือให้เป็นรางวัลสำหรับการฝึก

5. ของเล่นนกหงส์หยก

ควรมีของเล่นในกรงไว้ให้นกได้เล่นและออกกำลังกาย ซึ่งของเล่นอาจทำจากพลาสติก ไม้ โลหะ ผ้า หรือกระดาษ เช่น กระจกเงาสำหรับนก ชิงช้า บันไดปีน ของเล่นสำหรับให้อาหาร ซึ่งการเปลี่ยนของเล่นใหม่ ๆ ทุกสัปดาห์หรือทุกเดือนจะช่วยให้นกไม่เบื่อ แต่ไม่ควรใช้ของเล่นที่ทำเอง เนื่องจากอาจใช้วัสดุที่เป็นพิษเมื่อนกเผลอกัด แทะ หรือกินเข้าไป

6. การดูแลขนนกหงส์หยก

ตามปกติแล้วนกหงส์หยกอาจอาบน้ำด้วยการจุ่มตัวเองลงในถ้วยน้ำเป็นครั้งคราว แต่ถ้าหากนกไม่ได้อาบน้ำด้วยตัวเองก็สามารถใช้สเปรย์ขวดน้ำฉีดแทนการอาบน้ำประมาณสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ทั้งนี้ นกหงส์หยกที่มีสุขภาพดีไม่จำเป็นต้องมีการตัดเล็มจะงอยปาก เพราะการจิกอาหารเป็นประจำทุกวันจะเป็นการตัดเล็บไปในตัวอยู่แล้ว ส่วนการตัดแต่งเล็บเป็นประจำจะช่วยให้จับถือตัวนกได้สะดวกมากขึ้นและป้องกันไม่ให้เล็บติดผ้า นอกจากนี้แนะนำให้ตัดแต่งปีกเป็นประจำทุก ๆ 2-3 เดือน เพื่อป้องกันนกบินหนีและบาดเจ็บขณะบิน

7. การดูแลสุขภาพนกหงส์หยก

การดูแลสุขภาพนกหงส์

ควรพานกหงส์หยกไปพบสัตวแพทย์ทุก ๆ 6-12 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพ รวมถึงตรวจอุจจาระ ตรวจเลือด และตัดแต่งปีกหรือเล็บหากจำเป็น โดยปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในนกหงส์หยก ได้แก่ ปรสิต โรคอ้วน การวางไข่เรื้อรัง เล็บและจะงอยปากยาวเกินไป และการจับไข้ ซึ่งหากพบอาการผิดปกติควรพาไปพบสัตวแพทย์โดยเร็ว

สุดท้ายนี้จะต้องไม่ลืมว่าก่อนที่เพื่อน ๆ จะตัดสินใจนำนกหงส์หยกมาเลี้ยงไว้ที่บ้านสักตัวนั้นควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด เพราะนกชนิดนี้ต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพื่อที่นกแสนสวยน่ารักจะได้มีความสุขและอยู่เป็นเพื่อนเราไปอีกนาน ๆ นั่นเอง

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : khaokheow.zoothailand.org, arda.or.th, mooresvilleanimalhospital.com, petmd.com และ mooresvilleanimalhospital.com

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วิธีเลี้ยงนกหงส์หยก สัตว์เลี้ยงแสนสวย เสียงร้องไพเราะก้องกังวาน อัปเดตล่าสุด 14 มิถุนายน 2567 เวลา 13:47:51 10,323 อ่าน
TOP