อยากรู้ว่าวัคซีนลูกสุนัข มีอะไรบ้าง ฉีดเข็มแรกตอนอายุเท่าไร และโรคต่าง ๆ ที่ลูกสุนัขต้องระวัง มาดูเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวัคซีนลูกสุนัข ก่อนพาลูกสุนัขไปฉีดวัคซีนกัน
เชื่อว่าคงมีเจ้าของสุนัขหลายคนที่คิดว่าไม่จำเป็นต้องพาไปฉีดวัคซีนก็ได้ คงไม่น่าจะเป็นอะไร แต่ความจริงแล้วการละเลยไม่ฉีดวัคซีนนั้นเป็นอันตรายมาก ๆ เลยทีเดียว เพราะเสี่ยงที่สุนัขจะติดโรคต่าง ๆ ได้มากมาย ซึ่งบางโรคอาจรุนแรงถึงชีวิตหรือติดต่อสู่คนได้ด้วย ฉะนั้นวันนี้เราจึงมีข้อมูลเกี่ยวกับโรคที่เป็นอันตรายต่อลูกสุนัข พร้อมทั้งโปรแกรมสำหรับการฉีดวัคซีนลูกสุนัขตามอายุมาฝากกัน
โรคที่ลูกสุนัขต้องระวัง
ลูกสุนัขที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปี มีโรคภัยต่าง ๆ ที่ควรต้องระวังและพาไปฉีดวัคซีนเพื่อป้องกัน โดยโรคที่เป็นอันตรายกับลูกสุนัขมีดังต่อไปนี้
1. โรคหัด
เป็นโรคที่มีหลายรูปแบบ ส่วนใหญ่จะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร ระบบประสาท รวมทั้งปัญหาเกี่ยวกับตาหรือผิวหนัง ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
2. โรคหวัดสุนัข
เป็นโรคติดต่อระหว่างสุนัขด้วยกัน มักมีอาการไอ ซึ่งอาจรุนแรงมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับอายุและสุขภาพของสุนัขแต่ละตัว
3. โรคพิษสุนัขบ้า
โรคร้ายแรงที่ติดต่อได้ทั้งสุนัขและมนุษย์ มีอาการทั่วไปคือ เดินไม่เป็นทาง น้ำลายไหลมาก มีพฤติกรรมที่ดุร้ายผิดปกติ อาจมีอาการกล้ามเนื้อใบหน้ากระตุก ซึ่งอาจร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
- อ่านเพิ่มเติม : โรคพิษสุนัขบ้า โรคร้ายที่รักษาไม่ได้แต่ป้องกันได้ !
4. โรคไข้ฉี่หนู
เป็นโรคติดเชื้อจากสัตว์สู่คน มีหนูเป็นพาหะนำโรค โดยสุนัขที่ติดเชื้อจะมีอาการไข้ อาเจียน ท้องเสีย เบื่ออาหาร รวมทั้งอ่อนเพลียและง่วงซึมอย่างรุนแรง ไปจนถึงเป็นหมันและไตวาย
5. โรคตับอักเสบ
อาจมีไข้อ่อน ๆ อาเจียน ท้องโต ซึมเศร้า เซลล์เม็ดเลือดขาวลดลง นอกจากนี้อาจมีเลือดคั่งที่เยื่อเมือกบุผิว ไปจนถึงตับอักเสบอย่างรุนแรง
6. โรคพาร์โวไวรัส
เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารที่ติดต่อได้ง่าย โดยสุนัขที่ติดเชื้อจะมีไข้สูง เบื่ออาหาร อาเจียน ท้องเสียถ่ายปนเลือด รวมทั้งอาจเกิดภาวะขาดน้ำรุนแรงอย่างเฉียบพลัน อาจเสียชีวิตได้ภายใน 2-3 วัน
วิธีเตรียมก่อนพาลูกสุนัขไปฉีดวัคซีน
ก่อนพาลูกสุนัขไปฉีดวัคซีน ต้องตรวจดูสุขภาพให้แน่ใจว่าแข็งแรงดีและไม่ได้มีอาการป่วยใด ๆ โดยเจ้าของควรพยายามทำให้ลูกสุนัขรู้สึกผ่อนคลาย อาจพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล เพื่อลดความตึงเครียดและความกลัวของลูกสุนัข และถ้าหากลูกสุนัขยังไม่เคยนั่งรถมาก่อนก็ควรฝึกให้นั่งจนคุ้นเคยก่อนด้วย
นอกจากนี้ก็ควรหลีกเลี่ยงการให้อาหารก่อนพาไปฉีดวัคซีน แต่สามารถให้ขนมได้บ้าง เพื่อช่วยให้รู้สึกสงบและอารมณ์ดี แต่ถ้าหากลูกสุนัขมีอาการเครียดและตื่นตระหนกมาก อาจให้ฟีโรโมนสังเคราะห์เพื่อให้สงบขึ้นได้ หรือใช้วิธีอื่น ๆ ตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
โปรแกรมวัคซีนลูกสุนัข
การฉีดวัคซีนลูกสุนัขนั้นควรฉีดตามโปรแกรมที่กำหนดจะมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งตามปกติแล้วจะเริ่มฉีดวัคซีนให้กับลูกสุนัขเมื่อมีอายุประมาณ 6-8 สัปดาห์ โดยโปรแกรมทั่วไปมักจะประกอบด้วยวัคซีนดังต่อไปนี้
- อายุ 3-4 สัปดาห์ : ตรวจสุขภาพ และถ่ายพยาธิ
- อายุ 8 สัปดาห์ : วัคซีนป้องกันไข้หัดสุนัข, ลำไส้อักเสบ, เลปโตสไปโรซิส, ตับอักเสบ, พาร์โวไวรัส (ครั้งที่ 1)
- อายุ 11 สัปดาห์ : วัคซีนป้องกันไข้หัดสุนัข, ลำไส้อักเสบ, เลปโตสไปโรซิส, ตับอักเสบ, พาร์โวไวรัส (ครั้งที่ 2)
- อายุ 14 สัปดาห์ : วัคซีนป้องกันไข้หัดสุนัข, ลำไส้อักเสบ, เลปโตสไปโรซิส, ตับอักเสบ, พาร์โวไวรัส (ครั้งที่ 3)
- อายุ 17 สัปดาห์ : วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า, ไข้ฉี่หนู (ครั้งที่ 1)
- อายุ 20 สัปดาห์ : วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า, ไข้ฉี่หนู (ครั้งที่ 2)
- ทุก ๆ 1 ปี : ฉีดวัคซีนทุกโรคกระตุ้นปีละครั้ง
ทั้งนี้ หลังฉีดวัคซีนอาจมีอาการข้างเคียงได้ เช่น มีไข้ เบื่ออาหาร หรือปวดบริเวณที่ฉีด ดังนั้นจึงควรให้สุนัขพักผ่อนอย่างเพียงพอ หลีกเลี่ยงการอาบน้ำประมาณ 1 สัปดาห์ และทำตามคำแนะนำของสัตวแพทย์อย่างเคร่งครัด
การฉีดวัคซีนลูกสุนัขควรอยู่ในการดูแลของสัตวแพทย์ ซึ่งโปรแกรมอาจมีการปรับเปลี่ยนชนิดของวัคซีนและช่วงเวลาการฉีดได้ตามความเหมาะสม แต่ที่สำคัญก็คือเมื่อถึงกำหนดแล้วต้องไม่ลืมที่จะพาไปฉีดวัคซีนด้วยนะคะ