เปิดชีวิตอีกด้านของ เตี้ย มช. ที่ไม่ต่างอะไรจากสุนัขจรจัด ใช้ชีวิตเสี่ยงตายมาเป็นเวลา 7-8 ปี แถมแสดงให้เห็นชัด ๆ ว่า พี่เตี้ยเองก็ไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน
จากกรณีการตายของเตี้ย มช. สุนัขดาวดังในงานรับน้องขึ้นดอยของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้สร้างความเสียใจแก่หลายคนมาก แต่ขณะเดียวกัน ก็ได้สร้างความขัดแย้งในโซเชียลเน็ตเวิร์กเล็ก ๆ จากกลุ่มคนที่ไม่ได้รักหมา มองว่า ฝ่ายที่รักนั้นทำเกินไป เช่น นำพระไปถอนวิญญาณจุดเกิดเหตุ หรือแม้กระทั่งจะทำรูปปั้นไว้ที่มหาวิทยาลัย เป็นต้น
อ่านข่าว : แฟนคลับ พี่เตี้ย มช. เชิญพระถอนวิญญาณ-เตรียมสร้างหุ่นรำลึก อาจารย์เบรกแรง
ล่าสุด วันที่ 9 พฤษภาคม 2563 เฟซบุ๊ก Phuphing Thepchuaysuk ที่เป็นศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัย ได้เล่าประสบการณ์อีกมุมหนึ่ง วันอื่น ๆ ของพี่เตี้ย มช. ว่าเป็นยังไง นอกจากประเพณีรับน้องขึ้นดอยปีละครั้ง สรุปได้ดังนี้
ชีวิตในแบบปกติของเตี้ย มช. นั้นก็ไม่ต่างอะไรจากสุนัขจรจัดเสียเท่าไหร่ ใช้ชีวิตอิสรเสรีในมหาวิทยาลัยตามจุดต่าง ๆ หลบรถที่ผ่านบ้าง หรือบางครั้งรถก็ต้องเป็นคนหลบหมา อยู่รอดได้เพราะความเมตตาของคนที่รักสัตว์ผ่านมาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ชีวิตของมันก็ดีขึ้นมาบ้างหลังจากที่มีชื่อเสียง เพราะมีเงินบริจาค เงินที่ซื้อของเข้ามา ซึ่งก็มีการนำเงินนี้มาช่วยเตี้ยและสุนัขจรจัดตัวอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัย กลายเป็นต้นแบบของมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ให้ทำตาม
แม้ชีวิตของเตี้ยจะดีขึ้นมาบ้าง แต่ชีวิตส่วนใหญ่ก็ยังคงใช้อยู่ที่ข้างถนนต่อไป กล่าวคือ แม้มันจะดังและมีคนรัก เรื่องสวัสดิภาพของมันก็มีความเสี่ยงมานานแล้ว เสี่ยงที่จะโดนรถชน เสี่ยงที่ทำให้รถเกิดอุบัติเหตุ แถมช่วงหลังมีนิสัยใหม่ คือ ขอขึ้นรถมอเตอร์ไซค์คนไปเที่ยว บางคนก็เต็มใจให้ขึ้น บางคนก็ไม่เต็มใจ แต่มันก็ขึ้นมาแล้ว นอกจากนี้ยังมีการขวางทาง เห่าไล่รถที่อยากให้หยุดด้วย
พฤติกรรมเหล่านี้ ล้วนเป็นอันตราย แม้ช่วงหลังจะมีมาตรการพาเตี้ยไปฝึก และบอกให้คนขับมอเตอร์ไซค์ ไม่รับเตี้ยขึ้นมอเตอร์ไซค์ และหัดใส่สายจูงพาเดินเล่นเป็นเวลา แต่ก็ไม่ทัน สุดท้ายมันก็ไปตายที่นอกมหาวิทยาลัย แน่นอนว่า อาจจะเป็นเพราะขึ้นรถออกไปกับคนใดคนหนึ่ง หรือออกไปแล้วทำพฤติกรรมไม่ดีจนต้องปล่อยลงกลางทาง แล้วก็ถูกรถชนตาย สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ต้องยอมรับว่า เป็นพฤติกรรมที่แฟนคลับปั้นให้มันติดนิสัย
นอกจากนี้ การที่แฟนคลับมาเล่นกับมัน พามันนั่งรถเที่ยว ถ่ายรูปแล้วจากไป เจ้าของโพสต์มองว่าเป็นการร่วมสุข แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่เป็นทุกข์ไปกับมัน เช่น คนที่ไม่ชอบสุนัข แต่ต้องใช้เส้นทางที่มันอยู่พอดี จะเลี่ยงก็เลี่ยงไม่ได้
ดังนั้น ถ้าจะเลี้ยงสัตว์ ยิ่งรัก ก็ต้องยิ่งปล่อยไม่ให้คลาดสายตา เพราะถ้าเป็นสัตว์เลี้ยงก็ต้องควบคุม สั่งสอน รับผิดชอบมันให้ได้ทุกเรื่อง ให้มันรู้ว่า สิ่งไหนควรทำ สิ่งไหนไม่ควรทำ ไม่ใช่ทำอะไรก็ได้อย่างที่ใจต้องการ สิ่งเหล่านี้ ล้วนไม่เกิดขึ้นในชีวิตเตี้ยเลย เตี้ยจึงใช้ชีวิตที่มีความเสี่ยงในทุก ๆ วัน จนกระทั่งวันสุดท้าย
สำหรับโพสต์นี้ มีคนแชร์ออกไปกว่าหลายพันครั้ง บางคนก็เข้ามาเล่าประสบการณ์การถูกเตี้ย มช. กัดมาแล้วเหมือนกัน บางคนไม่ชอบหมา แต่เจอมันเห่าใส่ ก็มีความรู้สึกที่ไม่ดี
![เตี้ย มช.]( "เตี้ย มช.")
![เตี้ย มช.]( "เตี้ย มช.")
![เตี้ย มช.]( "เตี้ย มช.")
![เตี้ย มช.]( "เตี้ย มช.")
![เตี้ย มช.]( "เตี้ย มช.")
![เตี้ย มช.]( "เตี้ย มช.")
จากกรณีการตายของเตี้ย มช. สุนัขดาวดังในงานรับน้องขึ้นดอยของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้สร้างความเสียใจแก่หลายคนมาก แต่ขณะเดียวกัน ก็ได้สร้างความขัดแย้งในโซเชียลเน็ตเวิร์กเล็ก ๆ จากกลุ่มคนที่ไม่ได้รักหมา มองว่า ฝ่ายที่รักนั้นทำเกินไป เช่น นำพระไปถอนวิญญาณจุดเกิดเหตุ หรือแม้กระทั่งจะทำรูปปั้นไว้ที่มหาวิทยาลัย เป็นต้น
อ่านข่าว : แฟนคลับ พี่เตี้ย มช. เชิญพระถอนวิญญาณ-เตรียมสร้างหุ่นรำลึก อาจารย์เบรกแรง
ล่าสุด วันที่ 9 พฤษภาคม 2563 เฟซบุ๊ก Phuphing Thepchuaysuk ที่เป็นศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัย ได้เล่าประสบการณ์อีกมุมหนึ่ง วันอื่น ๆ ของพี่เตี้ย มช. ว่าเป็นยังไง นอกจากประเพณีรับน้องขึ้นดอยปีละครั้ง สรุปได้ดังนี้
ชีวิตในแบบปกติของเตี้ย มช. นั้นก็ไม่ต่างอะไรจากสุนัขจรจัดเสียเท่าไหร่ ใช้ชีวิตอิสรเสรีในมหาวิทยาลัยตามจุดต่าง ๆ หลบรถที่ผ่านบ้าง หรือบางครั้งรถก็ต้องเป็นคนหลบหมา อยู่รอดได้เพราะความเมตตาของคนที่รักสัตว์ผ่านมาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ชีวิตของมันก็ดีขึ้นมาบ้างหลังจากที่มีชื่อเสียง เพราะมีเงินบริจาค เงินที่ซื้อของเข้ามา ซึ่งก็มีการนำเงินนี้มาช่วยเตี้ยและสุนัขจรจัดตัวอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัย กลายเป็นต้นแบบของมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ให้ทำตาม
แม้ชีวิตของเตี้ยจะดีขึ้นมาบ้าง แต่ชีวิตส่วนใหญ่ก็ยังคงใช้อยู่ที่ข้างถนนต่อไป กล่าวคือ แม้มันจะดังและมีคนรัก เรื่องสวัสดิภาพของมันก็มีความเสี่ยงมานานแล้ว เสี่ยงที่จะโดนรถชน เสี่ยงที่ทำให้รถเกิดอุบัติเหตุ แถมช่วงหลังมีนิสัยใหม่ คือ ขอขึ้นรถมอเตอร์ไซค์คนไปเที่ยว บางคนก็เต็มใจให้ขึ้น บางคนก็ไม่เต็มใจ แต่มันก็ขึ้นมาแล้ว นอกจากนี้ยังมีการขวางทาง เห่าไล่รถที่อยากให้หยุดด้วย
พฤติกรรมเหล่านี้ ล้วนเป็นอันตราย แม้ช่วงหลังจะมีมาตรการพาเตี้ยไปฝึก และบอกให้คนขับมอเตอร์ไซค์ ไม่รับเตี้ยขึ้นมอเตอร์ไซค์ และหัดใส่สายจูงพาเดินเล่นเป็นเวลา แต่ก็ไม่ทัน สุดท้ายมันก็ไปตายที่นอกมหาวิทยาลัย แน่นอนว่า อาจจะเป็นเพราะขึ้นรถออกไปกับคนใดคนหนึ่ง หรือออกไปแล้วทำพฤติกรรมไม่ดีจนต้องปล่อยลงกลางทาง แล้วก็ถูกรถชนตาย สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ต้องยอมรับว่า เป็นพฤติกรรมที่แฟนคลับปั้นให้มันติดนิสัย
นอกจากนี้ การที่แฟนคลับมาเล่นกับมัน พามันนั่งรถเที่ยว ถ่ายรูปแล้วจากไป เจ้าของโพสต์มองว่าเป็นการร่วมสุข แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่เป็นทุกข์ไปกับมัน เช่น คนที่ไม่ชอบสุนัข แต่ต้องใช้เส้นทางที่มันอยู่พอดี จะเลี่ยงก็เลี่ยงไม่ได้
ดังนั้น ถ้าจะเลี้ยงสัตว์ ยิ่งรัก ก็ต้องยิ่งปล่อยไม่ให้คลาดสายตา เพราะถ้าเป็นสัตว์เลี้ยงก็ต้องควบคุม สั่งสอน รับผิดชอบมันให้ได้ทุกเรื่อง ให้มันรู้ว่า สิ่งไหนควรทำ สิ่งไหนไม่ควรทำ ไม่ใช่ทำอะไรก็ได้อย่างที่ใจต้องการ สิ่งเหล่านี้ ล้วนไม่เกิดขึ้นในชีวิตเตี้ยเลย เตี้ยจึงใช้ชีวิตที่มีความเสี่ยงในทุก ๆ วัน จนกระทั่งวันสุดท้าย
สำหรับโพสต์นี้ มีคนแชร์ออกไปกว่าหลายพันครั้ง บางคนก็เข้ามาเล่าประสบการณ์การถูกเตี้ย มช. กัดมาแล้วเหมือนกัน บางคนไม่ชอบหมา แต่เจอมันเห่าใส่ ก็มีความรู้สึกที่ไม่ดี
