ปักกิ่ง สวย เริ่ด เชิด หยิ่ง...อดีตสุนัขชั้นสูงของจีน


หมาปักกิ่ง

หมาปักกิ่ง



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ปักกิ่ง เป็นสุนัขขนาดเล็กที่น่าสนใจสายพันธุ์หนึ่ง พวกมันมีบุคลิกลักษณะผสมกันระหว่างความน่ารักประหลาด ๆ มีหน้าตาสั้น ๆ แบน ๆ จมูกทู่ ๆ ตากลมโต และยังขึ้นชื่อในเรื่องความทรนง เคยได้รับฉายา "ราชาแห่งสุนัข"

          โดยใน ปักกิ่ง เป็นสุนัขชั้นสูงในราชสำนักจีน ทำให้ทุกวันนี้ สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง ยังคงมีบุคลิกแบบสวย เริ่ด เชิด และหยิ่งในศักดิ์ศรี พร้อมด้วยอาการดื้อดึงแต่พองาม มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ประกอบกับมีท่าทีการเคลื่อนไหวอย่างสง่างาม อารมณ์ดีแต่สงบเงียบ ไม่เอะอะหรือร่าเริงเกินเหตุ แต่ก็ใช่ว่าจะนิ่งจนน่าเบื่อ ยิ่งหากได้คลุกคลีจนคุ้นเคย ปักกิ่ง ก็จะเป็นเพื่อนสี่ขาที่น่ารักเป็นที่สุด

          สำหรับในประเทศไทย ปักกิ่ง เคยเป็นสุนัขที่ฮอตฮิตอยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ลดความนิยมลง เพราะสายพันธุ์แท้ ๆ ในปัจจุบันเริ่มหายาก  การเลี้ยงดูค่อนข้างลำบาก และอากาศในบ้านเรา เป็นศัตรูตัวฉกาจของปักกิ่ง แต่ก็ยังคงผู้คนจำนวนไม่น้อยที่หลงใหลในเสน่ห์ของสุนัขพันธุ์นี้ จากนิสัยและความสวยงามที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ทั้งยังมีประวัติน่าสนใจเสียด้วยสิ...

ประวัติ สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง


หมาปักกิ่ง


          ตามประวัติ สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง ไม่มีข้อมูลระบุแน่ชัดว่า สุนัขพันธุ์นี้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อใด หากสืบสาวราวเรื่องไปได้ไกลที่สุด ก็พบหลักฐานว่ามีสุนัขพันธุ์ปักกิ่งอยู่ในราชสำนัก สมัยราชวงศ์ถัง หรือราวศตวรรษที่ 8 โดยมีเรื่องเล่าว่า ในอดีต สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง ถือเป็นสุนัขต้องห้าม กล่าวคือ จะเลี้ยงได้เฉพาะในราชสำนักเท่านั้น สุนัขพันธุ์นี้จะได้รับการปกป้องคุ้มครองสายพันธุ์ให้บริสุทธิ์อย่างเข้มงวด นั่นหมายถึงจะไม่มีการให้ผสมข้ามสายพันธุ์เด็ดขาด ถ้าใครคิดหาญขโมย มีโทษถึงตาย!!

          นอกจากนี้ ปักกิ่ง ที่เป็นสุนัขประจำตัวของกษัตริย์ จะต้องถูกฝังไปพร้อมกับพระศพ หากกษัตริย์สิ้นพระชนม์ในขณะที่มันยังมีชีวิตอยู่ เนื่องจากชาวจีนเชื่อว่าปักกิ่งเป็นสายพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ จะต้องตามไปปกป้องกษัตริย์หลังความตาย สุนัขพันธุ์นี้ จึงถูกจดจำในฐานะสุนัขที่มีความภักดีต่อผู้เป็นนาย และถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์จีน รวมถึงถูกนำไปสร้างรูปจำลองแกะสลักวางไว้ตามวัดวาอารามต่าง ๆ ด้วย

          ทั้งนี้ ใน ค.ศ.1860 อังกฤษชนะสงครามฝิ่นครั้งที่ 2 และเข้ายึดวังจักรพรรดิที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่เลวร้าย แต่ราชสำนักจีนก็ยังไม่วายมีสติพอที่จะสั่ง "ฆ่า" สุนัขพันธุ์ปักกิ่งทุกตัวที่มีอยู่ในวัง เพราะไม่อยากให้สุนัขสายพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ตกไปอยู่ในมือของฝรั่ง ทว่ามี สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง 5 ตัว เหลือซ่อนอยู่ ว่ากันว่า เป็นสุนัขสุดโปรดของซูสีไทเฮา และเป็นสุนัขห้าตัวที่สวยที่สุด ดีที่สุดในแผ่นดินจีนสมัยนั้น และพวกมันถูกนำไปยังดินแดนของอังกฤษ ก่อนจะถูกถวายแด่สมเด็จพระราชินีวิคตอเรีย

          3 ปี นับจากถูกนำตัวไปอังกฤษ สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง ก็เริ่มปรากฎโฉมต่อสาธารณชน ซึ่งผู้คนต่างพากันสนใจทั้งในความสวยงามและประวัติอันน่าตื่นเต้นของสุนัขพันธุ์นี้ จากนั้นความนิยมในการเลี้ยง ปักกิ่ง ก็กระจายไปทั่วโลก โดยในสหรัฐอเมริกา มีการจดทะเบียนสุนัขพันธุ์ปักกิ่งไว้ใน American Kennel Club เมื่อปี ค.ศ.1906 ก่อนจะมีการจัดตั้ง Pakingese Club of America และลงทะเบียนเป็นสมาชิกใน American Kennel Club ในปี 1909 แสดงให้เห็นว่าคนอเมริกันให้ความนิยมชมชอบเจ้าสุนัขพันธุ์ปักกิ่งนี้อย่างมาก

ลักษณะทั่วไป สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง

          ปักกิ่ง จะมีรูปร่างสมส่วน กะทัดรัด ท่วงท่าการเดินสง่างามอย่างยิ่ง ไม่ลุกลี้ลุกลน ลำตัวส่วนหน้าดูใหญ่ หนา ลำตัวส่วนหลังเล็กแคบกว่า มีลักษณะขนช่วงแผงคอยาวแผ่คล้ายสิงโต ซึ่งแม้จะดูตัวเล็ก แต่หากอุ้มจะรู้สึกหนักมากกว่าที่คิด เพราะโครงร่างของปักกิ่ง มีกล้ามเนื้อหนาและแข็งแรง กระดูกหนา โดยปกติจะมีน้ำหนักตัวอยู่ระหว่าง 10-14 ปอนด์ ทั้งตัวผู้และตัวเมีย ช่วงชีวิตเฉลี่ยประมาณ 14-17 ปี  

          ทั้งนี้ สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง ได้รับสมญานามที่บ่งบอกลักษณะอันดี ดังนี้

          1. Lion Dogs หรือ หมาสิงโต เพราะมีลำตัวช่วงหน้าที่หนา ใหญ่ แล้วค่อย ๆ เล็กแคบลงไปในช่วงหลัง

          2. Sun Dogs เพราะมีขนสีแดงประกายทอง สวยจับตาจับใจ

          3. Sleeve Dogs (หมาแขนเสื้อ) เพราะขนาดตัวที่เล็ก จนสามารถใส่ไว้ในแขนเสื้อคนจีนสมัยก่อนได้ แต่ปกติมักใช้เรียกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ตัวเล็ก ๆ เท่านั้น

ลักษณะนิสัย สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง


หมาปักกิ่ง


          ถึงแม้จะเคยเป็นสุนัขที่ได้รับการดูแลอย่างดีอยู่ในวัง แต่ ปักกิ่ง ก็มีนิสัยกล้าหาญเกินตัว ไม่เกรงกลัวอะไรง่าย ๆ แม้จะเป็นสุนัขตัวเล็ก ๆ พวกมันไม่เคยมีประวัติเรื่องวิ่งหนีหางจุกตูด ทั้งยังเป็นสายพันธุ์ที่แข็งแรง ทรหดอดทน ฉะนั้น จึงทำหน้าที่เฝ้าบ้านได้เป็นอย่างดี และที่เด่นชัดเป็นที่สุด ก็คือความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ประจบประแจง ไม่เจ้าเล่ห์ และเลี้ยงง่าย ทั้งยังรักและซื่อสัตย์ต่อเจ้าของอย่างยิ่งด้วย

          นอกจากนี้ ปักกิ่ง ยังสุภาพ เป็นมิตร รักสนุกและชอบเล่น แม้ว่าในบางอารมณ์ ปักกิ่ง จะดื้อดึงไปบ้าง แต่นั่นก็เพราะความเป็นตัวของตัวเอง รักอิสระ ไม่ชอบให้ใครบังคับ อันเป็นนิสัยที่มีอยู่ในสายเลือด จนบางครั้งอาจดูเหมือนดื้อ เอาแต่ใจ หากแต่ก็ไม่ดื้อจนไม่เชื่อฟัง ถ้าได้รับการดูแลเอาใจใส่ที่ดี และได้รับความรักมากพอ ปักกิ่ง ก็น่ารักไม่ต่างไปจากเพื่อนตูบสายพันธ์อื่น ๆ เลยสักนิด

          อย่างไรก็ดี ปักกิ่ง ไม่ค่อยชอบเด็กและเข้ากับสุนัขตัวอื่นได้ยาก แต่หากเจ้าของเลี้ยงให้โตมาด้วยกันตั้งแต่ยังเล็ก ก็ไม่ยากเกินไปนักที่ ปักกิ่ง จะทำใจยอมรับกับการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับเพื่อนต่างสายพันธุ์

การเลี้ยง สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง

          ขนยาว ๆ หนา ๆ ของปักกิ่ง จำเป็นต้องได้รับการเอาใจใส่ดูแลอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ผู้เลี้ยงควรแปรงขนและทำความสะอาดขนให้ปักกิ่งเป็นประจำ และยังต้องหมั่นทำความสะอาดบริเวณตา หู ตัดเล็บนิ้วเท้าให้สั้นอยู่เสมอ นอกจากนั้น ควรจูงสุนัขพันธุ์ปักกิ่ง เดินออกกำลังกายสม่ำเสมอในระยะทางที่ไม่ไกลนัก

          และด้วยจมูกสั้นแบน แถมยังจมลึกอยู่ระหว่างตาทั้งสองข้าง จึงทำให้ระบบการหายใจของปักกิ่ง เป็นไปอย่างลำบาก น้องหมาพันธุ์นี้จะไม่สามารถทนต่อสภาพภูมิอากาศที่ร้อนชื้นได้ดีเท่าใดนัก ฉะนั้น ปักกิ่ง จึงไม่เหมาะที่จะเลี้ยงนอกบ้าน หากเปิดแอร์ให้บ้างก็จะดีไม่น้อย อย่างไรก็ตาม  สถานที่เลี้ยง ปักกิ่ง ต้องเป็นสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกด้วย 

มาตรฐานสายพันธุ์ สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง

          กะโหลก หนาแบนและกว้าง

          จมูก สีดำ กว้าง สั้น อยู่ในตำแหน่งตรงกลางระหว่างตาพอดี

          ตา ตากลมใหญ่ แต่ไม่โปน นัยน์ตาสีดำเข้มเป็นประกาย ขอบตาสีดำ ถ้าสุนัขมองตรง ๆ (ไม่เหลือกตา) จะต้องไม่เห็นตาขาว

          ใบหน้า โหนกแก้มสูงและกว้าง ขากรรไกรล่างและคางก็กว้างเช่นกัน

          ปาก เป็นสีดำ ขากรรไกรล่างกว้างและยื่นออกเล็กน้อย ทำให้ฟันล่างเกยฟันบน แต่ริมฝีปากปิดชิดกันสนิท

          ขน ยาว หนา และตรง ไม่หยิกเป็นคลื่น แบ่งเป็น 2 ชั้น ขนชั้นในจะแน่นและนุ่นกว่าขนชั้นนอก ขนที่แผงคอและช่วงไหล่จะยาวกว่าที่ส่วนอื่น ๆ

          ขา ขาสั้น กระดูกใหญ่ เท้าแบน

          ลำตัว กะทัดรัด ส่วนหน้ากว้างกว่าส่วนหลัง เพราะซี่โครงกางออกมากกว่าอกกว้าง ลำตัวค่อย ๆ เรียวเล็กลงไปสู่ด้านหลัง มองเห็นเอวได้ชัดเจน แนวหลังตรง ไม่แอ่นเว้าหรือโค้งนูน มีลักษณะบึกบึนแข็งแรง

          หาง โคนหางตั้งสูง ขนหนา ยาวและตรงลงมาที่ลำตัวทั้งสองข้าง


          เมื่อรู้จัก สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง กันคร่าว ๆ แล้ว หากใครยังไม่ส่ายหน้าในการเลี้ยงที่ดูเหมือนจะยุ่งยากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ก็สามารถเลือกหามาเป็นเจ้าของได้ในราคาเริ่มต้นประมาณ 4,000 บาท ไปจนถึงหลักหมื่น






ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, cmpets.com






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ปักกิ่ง สวย เริ่ด เชิด หยิ่ง...อดีตสุนัขชั้นสูงของจีน อัปเดตล่าสุด 18 มกราคม 2554 เวลา 15:13:42 44,448 อ่าน
TOP
x close