ฝึกแมวให้เก่งเหมือนหมา มันยากยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด (Cat Magazine)
เรื่องโดย คุณชมพู@หมอแมว
นักฝึกสุนัขหลายท่านคงปวดหัว หากมีใครไหว้วานขอให้ไปช่วยฝึกน้องแมวที่บ้าน ข้อแม้มีไม่มาก แค่ขอให้คาบหนังสือพิมพ์เข้าบ้าน หรือซุ่มกัดขาขโมยได้ก็ยังดี...ยอมจ่ายเท่าไหร่ก็ทุ่ม
แต่รู้ไหมว่าเพราะความคิดของเขาทั้งคู่ ทั้งสุนัขและแมวนั้นแตกต่างกัน การฝึกแมวด้วยวิธีเฉพาะของน้องหมา จึงไม่สามารถใช้ได้กับแมว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฝึกที่ต้องใช้การลงโทษมาเป็นสื่อกลางในการกระตุ้น ยิ่งจะทำให้แมวมีพฤติกรรมกลับกัน แทนที่จะยอมเปลี่ยนพฤติกรรม แต่กลายเป็นดื้อเงียบ ต่อต้าน และพาลเกลียดกลัวผู้เลี้ยงอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นหากจะต้องมีการฝึกการใช้ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิกจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปรับพฤติกรรมน้องแมวให้ได้ดั่งใจ
ยิ่งเราตั้งรางวัลให้เขามากเท่าไร เขาก็จะยิ่งเรียนรู้ได้เร็ว ถึงแม้จะฟังดูแปลก ๆ แต่นี่เป็นเรื่องจริง หากคิดจะปรับพฤติกรรมน้องแมว การได้ทดลองและเรียนรู้ของเขาจะทำให้เขาจำได้ว่าหากเขาทำสิ่งนี้ เขาจะได้สิ่งนั้น และหากเขาต้องการสิ่งนั้นเพิ่มเติม เขาต้องทำสิ่งนี้ ทำเป็นทอด ๆ เช่น...
กิจกรรม 1 : ฝึกการขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง
1. ต้องการให้ขับถ่ายบนทรายสุขภัณฑ์สำหรับแมว
- นำมูลเก่ามาวางเพื่อให้ติดกลิ่น
- อุ้มน้องแมวมาลงพื้นที่ให้ชิน
- น้องแมวขับถ่ายใหม่
- ทำความสะอาดแมว ได้รับการลูบหัว เกาคาง และขนมรสตับเป็นของรางวัล
2. ถึงเวลาขับถ่าย
- อุ้มแมวมาลงพื้นที่
- น้องแมวขับถ่าย
- ได้รางวัล
3. ถึงเวลาขับถ่าย
- น้องแมวเดินมาเอง
- น้องแมวขับถ่ายเอง
- รอรับรางวัล
จากกิจกรรมที่ 1 จะเห็นว่า การขับถ่ายของเขาจะเป็นปกติโดยธรรมชาติ เพียงแต่เขาจะยึดติดว่า หากขับถ่ายเสร็จแล้วจะได้กินขนม เขาก็จะอ้อน หรือร้องขอให้อยู่ในบริเวณที่เขาเคยได้ จะทำอยู่เช่นนั้นจนติดเป็นพฤติกรรมกึ่งถาวร
กิจกรรมที่ 2 : ฝึกการเข้า-ออก นอกบ้าน (โดยหน้าต่าง)
1. ถึงเวลาออกไปเล่น
- อุ้มเขามาในพื้นที่ เปิดหน้าต่างให้เห็นต่อหน้าต่อตา
- แนะแนวทางให้เขาออกลอดหน้าต่างไปเล่นได้
- กะเวลาเรียกให้กลับมาโดยเรียกเขาที่หน้าต่างจุดเดิม
- เมื่อเขากกระโดขึ้นมาจะขอเข้าบ้านที่หน้าต่างจุดเดิม เปิดรับ พาไปเช็ดเนื้อตัวแล้วให้ขนม
2. ถึงเวลาออกไปเล่น
- อุ้มเข้ามาในพื้นที่
- เปิดหน้าต่างนำทางให้เขาออก
- เรียกเข้าบ้นเมื่อถึงเวลาตามกำหนด
- วิ่งเข้าบ้านเมื่อเรียก และได้ขนมเป็นรางวัล
3. ถึงเวลาออกไปเล่น
- เดินมาเอง ร้องขออก
- เปิดหน้าต่าง เขากระโดดออกไปเอง
- ถึงเวลามาร้องขอเข้าบ้านเอง
- เข้าบ้านรอกินขนม
จากกิจกรรมที่ 2 จะเห็นได้ว่า หากเกิดการกระทำซ้ำ ๆ บ่อย ๆ จะทำให้เขาจำได้ และรู้ว่าจะต้องทำอย่าไรจึงจะได้ขนมมาครอบครอง ในระยะแรกจำเป็นต้องบอกใบ้นำทาง อำนวยความสะดวกในการเปิดหน้าต่างส่งและรับเขา แต่ต่อมาถึงแม้ว่าผู้เลี้ยงยังนอนอ่านการ์ตูนอยู่ เมื่อถึงเวลาออก เขาก็จะเดินมาส่งเสียงเมี้ยว ๆ ขอออก ซึ่งคุณก็ต้องหยุดอ่านหนังสือแล้วเปิดหน้าต่างให้เขาออกไปเล่น และคอยอยู่รับเมื่อเขาร้องเมี้ยว "ขอเข้าบ้านหน่อย"
ที่สำคัญ เมื่อเข้าบ้านแล้ว อย่าลืมทำความสะอาดเนื้อตัว เพราะช่วงนี้เชื้อโรคกำลลังระบาด ดีไม่ดี หากเรารักษาความสะอาดไม่เพียงพอ น้องแมวที่น่ารัก อาจกลายเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสตัวร้ายเข้าบ้านได้โดยที่ไม่รู้ตัว
กิจกรรมที่ 3 : ไปอาบน้ำกันบ้าง
1. เตรียมอุปกรณ์ให้ครบแล้วอุ้มน้องแมวเข้าห้องน้ำ
- วางบนอ่างล้างหน้า พร้อมขวดแชมพู & คอนดิชันเนอร์
- น้ำลูบตัว แชมพูลง แล้วเริ่มอาบน้ำ ถูขน
- น้องแมวจะดิ้นพราด ๆ เหมือนจะโดนฆาตกรรม -*-
- อาบน้ำเสร็จ เช็ดตัว ปลอบประโลมด้วยขนมสำหรับแมว
2. อุ้มเข้าห้องน้ำ
- วางลงที่อ่างล้างหน้า เปิดผักบัว หรือสายยางแล้วแต่จะอำนวย
- ลงแชมพู อาบน้ำขัดตัว
- น้องแมวดิ้นพราด ๆ อีกครั้ง
- เช็ดตัวแปรงขน แล้วให้ขนมที่เขาโปรดปราน
3. อุ้มเข้าห้องน้ำ
- ตอนนี้เหมือนรู้ตัวแล้ว ร้องครางด้วยความหวาดระแวงเล็กน้อย
- เริ่มการอาบน้ำอย่างจริงจัง
- ดิ้นนิดหน่อย
- เช็ดตัว แปรงขน แล้วตามด้วยขนมอร่อย
จากกิจกรรมที่ 3 จะเห็นว่า ภารกิจการอาบน้ำน้องแมวค่อนข้างยากลำบาก และมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ช้ากว่าภารกิจอื่น เนื่องด้วยแมวไม่ชอบถูกอาบน้ำ เขาจะรู้สึกว่ามันไม่ปลอดภัย ฉะนั้นเราต้องปกป้องเขาด้วยการปลอบประโลม ลูบตามเนื้อตัวหัวหูให้เขาได้อุ่นใจ
ในกรณีนี้ พฤติกรรมที่ดีขึ้นสำหรับเขาที่เราสังเกตได้ก็คือ การที่เขาดิ้นน้อยลงเวลาอาบน้ำ หรือแทบไม่ดิ้นเลย อย่างเก่งก็เอาหน้าซุกพุงคนอาบน้ำให้ เพราะมันคงเป็นไปได้ยาก หากน้องแมวจะให้ความร่วมมือ โดยการยืนนิ่งยอมให้เราอาบน้ำได้อย่างสบายใจ
ทั้ง 3 กิจกรรมนี้ เป็นกิจกรรมพื้นฐานที่ผู้เลี้ยงสามารถนำไปฝึกได้โดยไม่หักหาญน้ำใจเขาสักเท่าไหร่ เพราะการที่จะฝึกน้องแมวให้ได้อย่างน้องหมา มันก็ยากพอ ๆ กับให้น้องหมามีพฤติกรรมเหมือนน้องแมว สัตว์แต่ละสายพันธุ์ก็มีลักษณะเฉพาะตัวที่ต่างกัน ได้โปรดอย่าคาดว่าว่าลูกฉันทุกตัวจะต้องทำได้อย่างในละคร คิดเอาง่าย ๆ ก็ได้ว่า คนเราทุกคนมีมือเท้าเท่ากัน แต่มีความสามารถไม่เท่ากัน ฉันใดก็ฉันนั้นค่ะ
เกร็ดน่ารู้ LOVE ME LOVE MY CAT
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการฝึกน้องแมวก็คือ ตั้งแต่เขาเพิ่งเป็นเด็กน้อยหัดรู้ความ เพราะยิ่งโต ความดื้อรั้นและความเคยชินของเขาจะทำให้เราไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเขาลำบาก หากผู้เลี้ยงไม่มีความอดทนเพียงพอ การฝึกฝน เพื่อปรับพฤติกรรมของน้องแมวก็จะไม่มีวันสำเร็จ ให้เวลากับเขาอีกนิด ฝึกกันไปอีกหน่อย แล้วคุณจะรู้ว่า น้องแมวที่เขามีตารางเวลาชัดเจน มันช่างเลี้ยงง่าย และทำให้เรามีความสุขเพียงใด