เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สัตว์เลี้ยงหน้าใหม่ที่กำลังมาแรงในบ้านเราขณะนี้ เห็นทีจะต้องยกให้เจ้าหนู ชินชิล่า เพราะตัวเล็กน่ารัก ขนนุ่มสุด ๆ การเลี้ยงดูก็ไม่ยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าง่ายซะทีเดียว โดยเฉพาะเรื่องอาหารที่ผู้เลี้ยงจำเป็นต้องใส่ใจให้มาก ๆ เพราะผักผลไม้บางชนิดก็ไม่เหมาะกับ ชินชิล่า แถมยังอาจส่งผลถึงชีวิต!!
ชินชิลล่า เป็นสัตว์กินพืชเป็นหลัก มีระบบการทำงานและการย่อยอาหารที่ทางเดินอาหารส่วนท้ายเป็นหลัก เช่นเดียวกับกระต่าย มีระบบทางเดินอาหารที่เปราะบางมาก ไม่สามารถย่อยอาหารไขมันและอาหารหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากไม่มีถุงน้ำดี ซึ่งทำหน้าที่ผลิตเอ็นไซม์ที่ช่วยย่อยไขมันในอาหารได้ ไขมันจึงสะสมในร่างกาย และทำให้ตับถูกทำลายได้ ดังนั้น จึงควรระมัดระวังในการให้อาหารที่มีรสหวาน เช่น แอปเปิ้ล องุ่น หรือเรซิน และอาหารที่มีไขมันสูงเช่น เมล็ดถั่ว หรือเมล็ดทานตะวัน
ทั้งนี้ ควรให้อาหารในเวลาเดียวกันทุกวัน ส่วนใหญ่นิยมให้อาหารในช่วงเย็น เนื่องจากช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ชินชิลล่ามีกิจกรรมมากที่สุด ซึ่งอาหารที่ให้อาจจะประกอบด้วยอาหารสำเร็จรูปชนิดเม็ดที่เหมาะสม ควรจะจำกัดอาหารเม็ด ไม่ให้เกินไปกว่าวันละ 1 - 2 ช้อนชาต่อตัว และควรให้หญ้าแห้งคุณภาพสูง ได้แก่ หญ้าทิโมธี และน้ำสะอาด เป็นหลัก เนื่องจากมีใยอาหารสูง ช่วยในกระบวนการเคี้ยว การทำงานที่สมบูรณ์ของทางเดินอาหาร ลดปัญหาท้องผูก ท้องอืด ท้องเสีย และยังช่วยลับฟันอีกด้วย
นอกจากนี้ อาจจะให้ลูกเกดหรือมะละกอแห้งชิ้นเล็ก ๆ เป็นอาหารได้ แต่ไม่ควรให้มากเกินไป เพราะอาจทำให้ท้องเสียได้ หรือการให้กินในระยะยาวอาจจะทำให้อ้วนได้ และยังต้องระวังการให้ผักสดเป็นอาหาร ซึ่งอาจจะทำให้ ชินชิลล่า ท้องอืดและตายได้
อย่างไรก็ดี หากจะเปลี่ยนอาหารต้องค่อย ๆ เปลี่ยน ต้องใช้เวลาหลาย ๆ วัน ไม่ควรทำการเปลี่ยนในทันที การเปลี่ยนอาหารจะมีผลต่อความเป็นกรดด่าง และปริมาณจุลชีพที่เป็นประโยชน์ในทางเดินอาหาร เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงก็จะทำให้จุลชีพเหล่านั้นตาย แบคทีเรียที่ก่อโรคจะขยายตัวเกิดปัญหาท้องเสียตามมาได้ ในแต่ละวันสิ่งที่เจ้าของต้องปฏิบัติ คือ การสำรวจมูลหรืออึ เพื่อสังเกตหาความผิดปกติ
รู้อย่างนี้แล้ว ก็อย่าเพิ่งถอดใจเลิกเลี้ยง ชินชิล่า...เพียงแค่ใส่ใจกับเรื่องอาหารให้มากสักหน่อยก็เท่านั้นเอง
รวมเรื่องสัตว์เลี้ยง ทั้ง สุนัข แมว ปลา ฯลฯ พร้อมวิธีดูแลสัตว์เลี้ยง คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
โรงพยาบาลสัตว์ เชียงใหม่รักสัตว์ โดย สพ.ญ.วีณา ธงซิว (หมอก้อย)
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
โรงพยาบาลสัตว์ เชียงใหม่รักสัตว์ โดย สพ.ญ.วีณา ธงซิว (หมอก้อย)