ปลาทองออรันดา
ปลาทองออรันดา
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ปลาทองออรันดา จัดเป็นปลาสวยงามที่ได้รับความนิยมเลี้ยงมากที่สุดชนิดหนึ่ง เนื่องจาก ปลาทองออรันดา ราคาไม่แพงนัก แถมยังมีความสวยงามในตัวเป็นเอกลักษณ์ คือ หางแผ่บานสวย กระโดงหลังตั้ง และมีสีเข้ม อีกทั้งวิธีการเลี้ยง ปลาทองออรันดา ก็ไม่ได้ยุ่งยากต่างจากปลาทองสายพันธุ์อื่น ๆ
ทั้งนี้ ปลาทองออรันดา (Oranda) เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างปลาทองพันธุ์หัวสิงห์และปลาทองพันธุ์ริวกิ้น จึงอาจเรียกว่า Fantail lion head มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Carassius auratus โดยลักษณะของปลาทองสายพันธุ์นี้จะมีลักษณะลำตัวค่อนข้างยาวกว่าปลาทองพันธุ์หัวสิงห์และริวกิ้น ลำตัวคล้ายรูปไข่หรือรูปรี ส่วนท้องไม่ป่องมาก ครีบทุกครีบยาวใหญ่ โดยเฉพาะครีบหางจะยาวแผ่ห้อยสวยงามมาก ปลาทองออรันดา แบ่งเป็นพันธุ์ย่อย ๆ ได้อีก ตามลักษณะหัวและสี ได้แก่...
ออรันดาธรรมดา มีขนาดของลำตัวเล็ก หัวไม่มีวุ้น ครีบทุกครีบยาวมาก
ออรันดาหัววุ้น (Dutch lionhead) หรือ ออรันดายักษ์ ยักษ์ เป็นปลาทองที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีน้ำหนักตัวเฉลี่ย 0.5-1.5 กก. มีความยาวของลำตัวเมื่อวัดจากหัวถึงก้นได้ถึง 8 นิ้ว ซึ่งไม่รวมความยาวของหาง มีก้อนวุ้นบนหัวและกระพุ้งแก้มที่สวยงาม ซึ่งวุ้นที่ดีจะต้องมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมเมื่อมองจากด้านบน
ปลาทองออรันดาหัวแดง (Red cap oranda) คือ ปลาทองออรันดาหัววุ้นนั่นเอง แต่จะมีวุ้นบนหัวเป็นสีแดง และลำตัวมีสีขาวภาษาญี่ปุ่น เรียกว่า ตันโจ มีลักษณะลำตัวสีขาวเงิน วุ้นบนหัวเป็นก้อนกลมสีแดง คล้ายปลาสวมหมวกสีแดง
ออรันดาห้าสี (Calico oranda) ลักษณะเหมือนปลาทองออรันดาหัววุ้นทั่วไป แต่บริเวณลำตัวมี 5 สี คือ ฟ้า ดำ ขาว แดง ส้ม
ออรันดาหางพวง (Vailtail) ลักษณะครีบหางจะยาวเป็นพวง ครีบหลังพริ้วยาว ที่หัวมีวุ้นน้อยหรือไม่มีเลย ส่วนของลำตัวใหญ่สั้น ท้องกลม แต่ส่วนหลังแบนข้างเล็กน้อย บริเวณโหนกหลังสูงชันมาก ทำให้ส่วนหัวดูแหลมเล็ก ครีบหลังใหญ่ยาวและตั้งสูง ครีบหางเว้าลึกเป็นพวง
สำหรับเทคนิคในการเลี้ยงปลาทองออรันดาให้สมบูรณ์สีสดสวย หัวใจสำคัญคือ สภาพน้ำและอากาศต้องดี ก็จะทำให้ปลาโตไวมาก แต่อย่าให้อาหารปลามากเกินไป และต้องคอยระวังเรื่องการเปลี่ยนถ่ายน้ำ หากเลี้ยงในตู้กระจกควรถ่ายน้ำอย่างน้อยเดือนละ 2-3 ครั้ง โดยถ่ายเอาน้ำเก่าออกครึ่งหนึ่ง จากนั้นเติมน้ำใหม่เข้าไปและควรระวังเครื่องออกซิเจนดับเป็นพิเศษ เนื่องจากปลาทองออรันดาต้องการออกซิเจนมากกว่าปลาสวยงามชนิดอื่น ๆ ถ้าขาดออกซิเจนเพียง 1-2 ชั่วโมง จะทำให้ถึงตายได้
นอกจากอาหารเม็ดสำเร็จรูปทั่วไป ผู้เลี้ยงสามารถให้อาหารสดเสริมด้วย คือ ลูกน้ำ ไรแดง แต่ปลาทองที่เลี้ยงไว้เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ อาจให้อาหารสด จำพวก หนอนแดง, หนอนแมลงวัน ฯลฯ แต่ก่อนจะให้จะต้องแช่ด่างทับทิมเพื่อฆ่าเชื้อโรคเสียก่อน และควรดูแลความสะอาดของสภาพน้ำให้มากขึ้นเป็นพิเศษ 2 วันต่อครั้ง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
nicaonline.com, rachaplathong.com