
ช่วยด้วยค่ะ…หนูแพ้ขนแมว (Cat Magazine)
คอลัมน์ Cat Care โดย สพ.ญ.ภควัน ศาสตรานรากุล
ส่วนใหญ่เราจะเข้าใจว่าแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ก่อโรคภูมิแพ้ได้ง่ายกว่าสุนัข เพราะขนแมวเล็ก เบา และมีโอกาสเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้ง่ายกว่าขนสุนัข แล้วความจริงคืออะไร...
มีงานวิจัยพบว่า การแพ้สัตว์เลี้ยงนั้น เราอาจจะไม่ได้แพ้ขนแมวเพียงอย่างเดียว แต่สามารถแพ้ฝุ่นที่อยู่บันตัวแมวหรือตัวไรชนิดหนึ่งที่มีขนาดเล็กมากที่อาศัยอยู่บนขนของแมวก็เป็นได้ และอาจรวไปถึงการแพ้ขนสุนัขและสัตว์ชนิดอื่น ๆ ด้วย ดังนั้นทั้งขนแมวและขนสุนัข ก็สามารถก่อภูมิแพ้ได้ไม่แตกต่างกัน

มีรายงานว่าคนที่มีประวัติครอบครัวเป็นภูมิแพ้มีโอกาสที่จะเป็นภูมิแพ้ได้มากกว่าคนที่อยู่ในครอบครัวที่ไม่เคยมีประวัติมาก่อน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คนที่ครอบครัวไม่เคยมีประวัติการแพ้จะไม่เป็นภูมิแพ้นะคะ แม้ว่าครอบครัวจะไม่มีประวัติการแพ้จะไม่เป็นภูมิแพ้ แต่ด้วยสภาวะแวดล้อมหรือโอกาสสัมผัสกับสัตว์เลี้ยงที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้มีมาก ก็มีผลที่จะทำให้มีโอกาสเป็นภูมิแพ้ได้มากด้วย ซึ่งภาวะภูมิแพ้ในอเมริกา พบว่าภาวะภูมิแพ้ที่เกิดจากสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมว คิดเป็น 15% ของประชากรทั้งหมด

พบว่าสาเหตุสำคัญของการแพ้ขนแมวเกิดจากสารชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า สารก่อภูมิแพ้จากแมว 1 สารก่อภูมิแพ้ชนิดนี้มีขนาดเล็กมาก พบได้ในน้ำลายและบนผิวหนังแมว พอแมวเลียขนสารก่อภูมิแพ้จะเคลือบบนขนแมว และสามารถสะสมอยู่ได้นาน 5-6 เดือน เลยทีเดียว

อาการของการเป็นภูมิแพ้ แสดงออกได้หลายแบบ ไม่เพียงแต่อาการทางระบบทางเดินหายใจ เช่น จาม ไอ เป็นหวัด มีน้ำมูกเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงอาการทางผิวหนังที่เกิดจากการสัมผัส เช่น คัน เป็นผื่นแดง ระดับของการแพ้ก็มีหลายระดับ ตั้งแต่เป็นเล็กน้อย จนกระทั่งรุนแรงมาก เช่น กรณีของการมีอาการทางระบบทางเดินหายใจ ก็จะเริ่มตั้งแต่ จาม ไอ ธรรมดา จนกระทั่งถึงอาการหอบ หายใจไม่ออก

คำตอบก็คือ ต้องใช้การสังเกตว่าถ้าเราอยู่ใกล้แมว หรือสัตว์ชนิดใดก็ตาม แล้วมีอากรเกิดขึ้น ก็ให้ลองอยู่ห่างจากสัตว์ชนิดนั้น สัก 1-2 สัปดาห์ ถ้าหากอาการดีขึ้นแล้วกลับมาเป็นอีก ถ้าอยู่ใกล้สัตว์ชนิดนั้นอีก ก็ให้ตั้งข้อสังเกตว่าเราอาจจะเป็นภูมิแพ้สัตว์ชนิดนั้น ส่วนวิธีที่จะทำให้มั่นใจได้ว่าเราแพ้ขนสัตว์จริง ๆ ก็ต้องไปทำการทดสอบกับคุณหมอโรคภูมิแพ้เพื่อประโยชน์ในการที่จะควบคุมอาการและหลีกเลี่ยงจากต้นเหตุที่ก่อภูมิแพ้

สิ่งที่เราลำบากใจมาก็คือ เมื่อสัตว์เลี้ยงที่เรารักเป็นสาเหตุของการก่อให้เกิดภูมิแพ้ เราจะทำอย่างไรดี มีข้อปฏิบัติที่อาจจะช่วยทำให้อาการแพ้บรรเท่าลงได้
- อย่าเอาสัตว์เลี้ยงไว้ในห้องนอน
- ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ
- ทำความสะอาดและดูดฝุ่นเป็นประจำ
- อาบน้ำสัตว์เลี้ยงอย่างน้อยอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง
- อย่านำสัตว์เลี้ยงมาเล่นบนเฟอร์นิเจอร์
- อย่านำสัตว์เลี้ยงขึ้นรถ
- แปรงขนให้เหมียวทุกวันเพื่อลดเศษขน ฝุ่นละออง จากแมว
- ให้วิตามินพวกโอเมก้าเพื่อลดการหลุดร่วงของขน
- ล้างมือทุกครั้งหลัลเล่นกับแมว
- ทำความสะอาดของเล่น ที่นอนเหมียวทุกอาทิตย์
- อย่าลืมพบหมอเพื่อปรึกษาอาการภูมิแพ้ที่เกิดขึ้น
หลายคนที่อยากเลี้ยงสัตว์ แต่ไม่สามารถทำได้เพราะตัวเองเป็นภูมิแพ้บ้าง ลูกหรือคนในครอบครัวเป็นภูมิแพ้บ้าง เคยมีคนคิดไหมคะว่า ทำไมไม่มีสัตว์เลี้ยงที่ไม่ก่อภูมิแพ้ออกมาขายบ้าง
....แน่นอนค่ะ นักวิทยาศสตร์ไม่หยุดคิดอยู่แล้ว และหนึ่งในนวัตกรรมที่ออกมาแล้วก็คือ แมวโคลนนิ่ง ที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ซึ่งได้มีการผลิตออกมาจำหน่ายให้แก่ผู้มีสตางค์ที่เป็นภูมิแพ้และอยากจะเลี้ยงแมวกันบ้างแล้ว แต่ราคาคงไม่เหมาะกับภาวะเศรษฐกิจบ้านเราในขณะนี้


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
