หลักปฏิบัติ เมื่อเหมียว ต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน





พิชิตปัญหาสัตว์เลี้ยงตอน - พาเหมียวบิน (คมชัดลึก)
โดย รศ.น.สพ.ปานเทพ รัตนากร

          ปัจจุบันการเดินทางด้วยเครื่องบินโดยสารเป็นสิ่งที่ถือว่าเป็นปกติ มิใช่เรื่องที่เอื้อมไม่ถึงดังแต่ก่อน ไม่ว่าจะทั้งคนหรือสัตว์ก็ตาม เจ้าของและสัตว์เลี้ยงต่างเหินฟ้าในและนอกประเทศกันเป็นว่าเล่น

          เจ้าเหมียว สัตว์เลี้ยง แสนรักของหลาย ๆ คนก็ย่อมไม่พลาดโอกาสทอง นั่งเครื่องไปกับเขา โดยการเดินทางทางอากาศของเจ้าเหมียวนั้นจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ตัวมันเองและผู้โดยสารอื่น ๆ เรียกว่า ขนาดบัตรทองก็ย่อมได้ เนื่องจากคุณสมบัติของแมวเองที่แตกต่างไปจากสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ คือ แมวมีความไวและอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมรอบข้างอันเป็นเครื่องกระตุ้นให้เหมียวเกิดความเครียดยิ่งขึ้น ซึ่งได้แก่ เสียง กลิ่น อุณหภูมิ แสง และภาพ ฯลฯ เช่น เสียงเครื่องยนต์ เสียงคนแปลกหน้า กลิ่นน้ำมัน กลิ่นสาบผู้คน อุณหภูมิที่เย็นกว่าปกติในเครื่อง ภาพคนหน้าตาแปลกๆ ฯลฯ รวมถึงความกลัวและหวาดระแวง เช่น กลัวคนที่มุงดู (แม้จะด้วยความรักแต่มันไม่รู้หรอกครับ มีแต่กลัว) หรือระแวงว่าเจ้าของจะนำไปทิ้ง (เพราะอยู่ในกรงในสถานที่แปลกใหม่ไม่คุ้นเคย) ฯลฯ

          การขึ้นเครื่องของเจ้าเหมียวนั้น สามารถไปได้ 2 วิธีคือ วิธีแรกใส่กรงลงใต้ท้องเครื่องบินคล้ายกับพัสดุ แต่เป็นพัสดุมีชีวิตจึงอยู่ในห้องสินค้าที่ปรับความดันและอุณหภูมิ เพราะหากรวมไปกับพัสดุอื่น ๆ เช่นเดียวกับกระเป๋าเดินทางของเจ้านายล่ะก็ เปิดออกมารับรองตัวแข็งแหงแก๋แน่นอน ส่วนอีกวิธีหนึ่งโดยการอยู่ในห้องโดยสารเช่นเดียวกับเจ้าของ จะเป็นชั้นหนึ่ง ชั้นธุรกิจ หรือชั้นประหยัดก็สุดแท้แต่ทุนทรัพย์ของผู้เป็นนายละครับ อย่างไรก็ตามทั้ง 2 วิธีมีหลักการปฏิบัติให้เกิดสวัสดิภาพแก่เจ้าเหมียวในการเดินทางด้วยเครื่องบินดังนี้คือ

          1. แมวทุกตัวที่เดินทางด้วยเครื่องบินต้องอยู่ในกรงเดินทางที่ออกแบบมาโดยเฉพาะและเป็นที่รับรองจากหน่วยงานการบินขนส่งนานาชาติ (IATA) คือเป็นกรงพลาสติกค่อนข้างทึบ 4 ด้าน และมีประตูซี่ลวดแข็งแรงด้านหน้าล็อกปิดได้

          2. ก่อนเดินทางสัก 1 เดือน ควรฝึกให้แมวคุ้นเคย ชินกับการเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ลำพังในกรงนี้ โดยเพิ่มระยะเวลาให้แมวเข้าไปกินอยู่หลับนอนในกรงนานขึ้นทีละน้อย จนอยู่ได้เป็นวันๆ

          3. ควรใช้อุปกรณ์เดิมในกรง เช่น ผ้าห่ม หรือฟูกรองนอน ถาดอาหาร และขวดให้น้ำอันที่เคยใช้ใส่ไปในกรงขณะเดินทาง แมวจะได้ไม่แตกตื่นดีกว่าใช้ของใหม่ซึ่งไม่คุ้นชิน

          4. ใส่อาหารและน้ำแต่พอกินตามระยะเวลาเดินทาง ไม่ให้มากเกินไป ถ้าเป็นกรงที่อยู่ในเคบิน หรือห้องโดยสาร ให้หมั่นตรวจตราเติมน้ำและอาหารเป็นระยะๆ กินน้อยไว้ดีกว่ากินมาก เพื่อป้องกันอาเจียน

          5. เมื่ออยู่ในห้องโดยสาร ห้ามนำแมวออกจากกรงโดยเด็ดขาด เพราะหากออกมาแล้วเกิดตกอกตกใจวิ่งพล่านไปทั่วเครื่องอาจเป็นเรื่องถึงโศกนาฏกรรมได้

          6. การให้ยากล่อมประสาท หรือยานอนหลับควรปรึกษาสัตวแพทย์ เพื่อใช้อย่างเหมาะสม ถูกต้อง ไม่มีข้อห้ามการใช้แต่ต้องพิจารณาและใช้ตามที่หมอกำหนดมาอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งแมวประเภทจิตใจอ่อนไหว ประสาทอ่อน ติดเจ้าของแจล่ะก็คงต้องใช้ละครับ

          7. เมื่อเดินทางถึงที่หมายปลายทางแล้ว ควรเฝ้าสังเกตอาการเจ้าเหมียวและให้กินอาหารทีละน้อยก่อน จนกว่าเขาจะปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติครับ

          ปฏิบัติเช่นนี้ หากพาเหมียวบินก็จะไม่รบกวนใคร ปลอดภัยทั้งคนและเหมียว






ขอขอบคุณข้อมูลจาก




เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หลักปฏิบัติ เมื่อเหมียว ต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน อัปเดตล่าสุด 12 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 14:20:27 3,532 อ่าน
TOP
x close