เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ถึงแม้เจ้าของส่วนมากจะทราบกันดีว่า แมวจะสามารถทำความสะอาดตัวเองได้โดยการใช้ลิ้นเลียขน แต่ไม่ได้หมายความว่าวิธีนี้ใช้ได้กับทุกซอกทุกมุม เพราะยังคงมีบางส่วนที่แมวเลียไม่ถึงด้วย ได้แก่ บริเวณในหู หลังคอ ใต้คาง รวมไปขนที่กระจุกเป็นก้อน ซึ่งจุดต่าง ๆ ทั้งหลายเหล่านี้นี่เองที่เจ้าของจำเป็นต้องช่วยพวกมันทำความสะอาดด้วย โดยการใช้อุปกรณ์เหล่านี้
1. หวีเหล็ก
สำหรับแมวที่มีขนยาว อย่างเช่น พันธุ์สก็อตทิช โฟลด์ เปอร์เซีย แร็กดอลล์ หรือเทอร์คิช แองโกรา หลังจากที่แปรงขนเสร็จแล้วควรจะใช้หวีเหล็กซ้ำอีกครั้ง เพื่อเช็กว่ามีขนที่ติดพันเป็นกระจุกหรือไม่ ซึ่งหวีที่นำมาใช้ควรมีขนาดประมาณ 7 นิ้ว เพราะสามารถเข้าถึงได้ตั้งแต่ช่วงโคนขนจนถึงปลายขน และใช้หวีเหล็กขนาด 4 นิ้วสำหรับแมวขนสั้น
2. แปรงยาง
ส่วนมาบริเวณหน้าแปรงชนิดนี้เป็นวงรีขนาดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยปุ่มยางมากมาย โดยแบ่งสองประเภทด้วยกันคือ แปรงยางนิ่ม กับแปรงยางแข็ง ส่วนมากเอาไว้ใช้สำหรับกำจัดสิ่งสกปรก และสางขนของม้า แต่ทั้งนี้สามารถนำมาใช้แปรงขนแมว เพื่อช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนเลือดได้เช่นกัน เชื่อเลยว่าความนุ่มนิ่มของขนแปรงช่วยสยบความซนของแมวได้แน่นอน
3. แปรงกำจัดขนแมว
ขนแมวที่หลุดร่วงในแต่ละวันมีจำนวนไม่น้อยเลย ซึ่งขนเหล่านั้นปลิวว่อนไปทั่ว และเกาะอยู่ตามซอกมุมกับเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ มากมาย เพราะฉะนั้นหากไม่อยากให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้น ควรกำจัดขนเสียออกไปก่อนด้วยการใช้แปรงกำจัดขนแมว แปรงให้ทั่วตัวตั้งหัวจรดหาง เท่านี้ช่วยลดปัญหาเรื่องแมวขนร่วงไปได้เยอะเลย อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ช่วยกำจัดขนที่พันกันออกได้โดยง่ายดายอีกด้วย
4. กรรไกรตัดเล็บ
เล็บของแมวมีความสำคัญของพวกมันมาก ๆ เพราะหากปล่อยให้เล็บยาวโดยไม่มีการดูแล หรือตัดแต่งให้สวยงาม เวลาที่ใช้เท้าเกาปลายเล็บอาจขูดขีดผิวหนังจนเกิดบาดแผล และทำลายเส้นขนได้ ซึ่งนี่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ขนหลุดร่วงบ่อยขึ้น ทั้งนี้เจ้าของสามารถป้องกันแก้ไขปัญหาได้โดยการใช้กรรไกรหมั่นเล็มปลายเล็บให้แมว
5. อ่างอาบน้ำ
อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับการอาบน้ำให้แมวที่ขาดไม่ได้เลยคือ อ่างอาบน้ำ ซึ่งอ่างนี้ไม่จำเป็นต้องซื้อหามาเพิ่มเติมสามารถหยิบกระบะทรายที่มีอยู่มาใช้แทนได้เลย โดยหลังจากที่ล้างกระบะจนสะอาดแล้ว เปลี่ยนจากน้ำเย็นแบบที่เคยใช้ เป็นน้ำอุ่นแทน หลังจากที่เสร็จสิ้นขั้นตอนการอาบแล้ว อย่าลืมรีบเช็ดตัวแมวให้ด้วย
6. เหยือกน้ำ
หากก่อนหน้านี้อาบน้ำให้แมวโดยการใช้ฝักบัว ขัน หรือฉีดสเปรย์ ลองเปลี่ยนวิธีมาใช้เหยือกรินน้ำรดตัวแมวกันดีกว่า เพราะนอกจากจะสามารถคุมปริมาณน้ำที่ใช้ได้แล้ว ยังช่วยป้องกันน้ำกระเด็นโดนส่วนบอบบางของแมวอย่างเช่น หู กับตาได้ด้วย อีกทั้งระดับความแรงของน้ำกำลังดี ไม่แรงเกินไปจนทำให้แมวรู้สึกเจ็บเลย
7. แปรงขัดเท้าและแปรงสีฟัน
ทั้งสองอุปกรณ์นี้เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้การทำความสะอาดแมวง่ายมากขึ้น เนื่องจากแปรงส่วนใหญ่มีขนาดใหญ่เกิดขนาดลำตัวของแมว ดังนั้นหากหาซื้อแปรงสำรับแมวไม่ได้จริง ๆ สามารถนำแปรงขัดเท้ามาใช้สำหรับขัดผิวให้แมวได้เช่นกัน ซึ่งนอกจากจะไม่ทำลายชั้นผิวหนัง ยังไม่เป็นอันตรายต่อขนด้วยพร้อมกับใช้แปรงสีฟันขัดและทำความสะอาดบริเวณหน้าแมว
8. ทิชชู่เปียก
บริเวณใบหน้า และหูของแมว เป็นบริเวณที่อันตรายและควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ดังนั้นหากต้องการจะเช็ดตัวหรือทำความสะอาดให้แมวควรใช้อุปกรณ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม และไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ด้วย อย่างเช่น ทิชชู่เปียกที่ใช้สำหรับเด็ก เพราะเหมาะกับผิวบอบบางมากที่สุด
9. หน้าตัก
กว่าจะทำให้แมวหยุดหรือยืนนิ่ง ๆ อยู่กับที่ได้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลย เพราะแมวทำท่าจะเดินหนีอย่างเดียว พอไม่ได้ดั่งใจหันกลับมาเล่นอุปกรณ์ทำความสะอาดซะอย่างนั้น หากจะจับไปล่ามโซ่เอาคงจะแปลกไปหน่อย และอาจจะโดนแมวโกรธเอาได้ ดังนั้นในกรณีที่ต้องการเช็ดตัวทำความสะอาดจับแมวมานั่งบนตักเลย เป็นวิธีง่าย ๆ แต่สามารถสยบแมวได้มากที่สุด
นอกจากนี้แล้วควรจะพาแมวไปพบกับสัตวแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญอย่างน้อยสองสามเดือนต่อครั้ง เพื่อให้พวกเขาได้ตรวจเช็กความผิดปกติไปพร้อม ๆ กันด้วย อีกทั้งหากแมวมีปัญหาเรื่องสุขภาพสามารถขอคำปรึกษา และรักษาได้อย่างทันที โดยไม่เสียเวลาด้วย แมวจะได้อยู่กับเรานาน ๆ ยังไงล่ะ