x close

อยากให้หมาเป็นอย่างไร ก็สอนมันอย่างนั้น





อยากให้หมาเป็นอย่างไร ก็สอนมันอย่างนั้น (Dogazine Healthy)

เรื่องโดย : วันไชย เจียมภักดี

           เมื่อเดือนที่ผ่านมา ผมเองมีกิจสำคัญ ซึ่งผมถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดในชีวิตของลูกผู้ชายที่จะสามารถแสดงออกถึงความกตัญญูต่อบุพการีของเรา นั่นคือ การอุปสมบท ในครั้งนั้นถือเป็นฤกษ์ที่ยิ่งใหญ่ เพราะมีการอุปสมบทคราวเดียวกันถึง 3 รูป คือตัวผม ลูกชายคนกลาง และพี่ชายของผม ถึงแม้ว่าระยะเวลาในการปฏิบัติธรรมจะสั้นไปนิด แต่เราทั้ง 3 รูปก็ได้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และได้มีโอกาสร่วมกิจที่สำคัญ ๆ ของทางวัดด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นผมขอขอบคุณทุก ๆ ท่านที่มีส่วนให้งานบุญนี้สำเร็จลุล่วงสวยงาม ขอบคุณจากใจจริงครับ

           ในช่วงนั้น ภารกิจต่าง ๆ ของศูนย์ฯ จึงต้องมอบหมายให้คุณหวานเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งเธอก็ไม่ทำให้ผมผิดหวังเลยในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นงานถ่ายโฆษณา งานละคร งานโชว์ งานฝึกน้องหมา และการให้คำปรึกษาเรื่องพฤติกรรมของน้องหมากับท่านทั้งหลายที่โทรศัพท์เข้ามาขอคำปรึกษาอันนี้ผมถือว่าเธอสอบผ่าน หนึ่งในคำถามของผู้ที่ขอคำปรึกษาก็คือ ทำไมหมาที่บ้านไม่เคยฝึกเลย แต่มันทำอะไรได้ตั้งหลายอย่าง เช่น ให้มือ คาบของไปซ่อน สวัสดี เห่าคนแปลกหน้าที่เดินผ่านหน้าบ้าน ทั้งที่เป็นน้องหมาตัวเล็ก ๆ

           หลายท่านยังเข้าใจผิดอยู่ว่า การฝึกน้องหมาก็คือการส่งไปตามศูนย์ฝึกฯ ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญอบรมบ่มนิสัย หากแต่ความเป็นจริงแล้วการฝึกน้องหมานั้น มันจะจดจำสิ่งต่าง ๆ รอบตัว มันตั้งแต่วันแรกที่ท่านพามันเข้าบ้าน วินาทีนั้นพวกมันจะรับรู้ และซึมซับทุกสิ่งอย่างที่มันมองเห็น มันจะจดจำ และเริ่มเลียนแบบ ไม่ว่าท่านจะทำสิ่งใดมันก็จะเฝ้าสังเกต และทดลองทำ หากสิ่งที่มันแสดงออกมาแล้ว เราพอใจ เราหัวเราะ เราชื่นชอบ และโอบอุ้มมัน มันก็จะจำว่าสิ่งนั้น ๆ คือสิ่งที่ดี สิ่งที่ทำให้ชีวิตมันสนุก มีแต่คนชอบมัน รักมัน แต่หากสิ่งใดที่มันกระทำแล้วมันโดนดุหรือบางท่านอาจตีมัน มันก็จะจดจำเช่นกันว่า อาการเช่นนี้ไม่ควรทำ

           คราวนี้ก็อยู่ที่เจ้าของแล้วนะครับว่า ท่านอยากให้น้องหมาของท่านเป็นเช่นไร สิ่งใดที่มันแสดงออกแล้วท่านชื่นชอบก็ให้รางวัลมัน สิ่งใดที่ท่านเห็นว่าไม่เหมาะไม่ถูก ก็ต้องดุต้องตักเตือนมัน บอกมันด้วยนะครับว่าเราไม่ชอบสิ่งนั้น ๆ เพราะเหตุใด สอนมันด้วยว่าหากมันอยากให้เรารักมัน มันก็ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมเสียใหม่ เช่น เมื่อวันแรก ๆ ที่เราพามันเข้าบ้าน ความที่มันยังเด็ก ยังตัวเล็ก ๆ เมื่อมันอยากมาหาเรา มันก็จะวิ่งเข้ามาพร้อมกับกระโดดใส่เรา มันอยากให้เราอุ้ม เราก็ไม่ขัดขืน กลับแสดงอาการรักใคร่ กอดมัน จับมือมัน อุ้มมัน สิ่งเหล่านั้นมันก็จะซึมซับว่าเราชอบ และเริ่มเก็บไว้เป็นความทรงจำ สะสมไปเรื่อย ๆ เมื่อมันโตขึ้นยังคงกระทำเช่นนี้อยู่เนือง ๆ





           แต่ความที่มันโตขึ้นทำให้น้ำหนักตัวก็มากขึ้นด้วย ความแรงของการโถมตัวก็มากขึ้นจนเรารับไม่ไหว เราอาจล้มลงไปตามแรงนั้น หรือมีบาดแผลโดยที่มันเองก็ไม่ได้ตั้งใจ หลายท่านที่เจอปัญหานี้ก็ตัดสินด้วยการดุด่า ทุบตี และผลักไส ถึงขั้นรุนแรง ก็คือไล่มันไม่ให้เข้าใกล้เรา โดยไม่อธิบายสาเหตุให้มันรู้ น้องหมา มันจะงงนะครับ มันไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เมื่อก่อนมันยังทำได้ ทำไมตอนนี้ทำไม่ได้ มันไม่รู้ครับว่ามันโตแล้ว มันตัวใหญ่ มันทำให้เราเจ็บ มันคิดซับซ้อนไม่เป็นนะครับ เราต้องช่วยมันถ้าเรายังรักมันอยู่ บอกมันครับ อธิบายให้มันเข้าใจว่าสิ่งนี้ทำไม่ได้แล้วนะ เราเจ็บ เมื่อเราเจ็บเราก็จะไม่รักมัน ไม่อยากเข้าใกล้มัน พูดกับมันด้วยสีหน้าที่จริงจังและน้ำเสียงที่หนักแน่น ทำตัวเราให้นิ่ง ๆ มันจะเริ่มรับรู้และจดจำ ในที่สุดมันจะค่อย ๆ ปรับตัวเองให้ลดอาการนั้น ๆ ลงจนกระทั่งสงบ อย่าลืมนะครับในขณะที่มันลดอาการลง พฤติกรรมดีขึ้น เราก็ต้องแสดงอาการชื่นชมมัน ให้รางวัลมัน จะเป็นอะไรก็ได้ที่มันชอบ แต่อย่าให้บ่อยจนเกินไป เดี๋ยวมันจะแยกไม่ออกว่าอันไหนคือรางวัลความดี อันไหนคือเรื่องปกติที่ได้รับ

           ปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่เราน่าจะศึกษาก็คือ อุปนิสัยของน้องหมา เพราะว่ามันมีผลอย่างมากในการเลี้ยงดูพวกมันน้องหมาบางตัวชอบการแสดงออก เช่น ยกมือสองข้างเป็นการขอสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นขนมหรือของเล่น เมื่อมันกระทำเช่นนั้น เราก็ชื่นชอบและให้รางวัลมัน มันก็จะจดจำว่าเป็นสิ่งที่ดี และจะกระทำบ่อย ๆ ในขณะที่บางตัวชอบเก็บตัวเงียบ ๆ ไม่สุงสิงกับใครให้ของก็เอา ไม่ให้ก็อยู่เฉย ๆ ไม่เดือดร้อนกับสิ่งรอบตัว กรณีเช่นนี้ หากเราพอใจอยู่แล้วก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเราอยากให้มันเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นร่าเริง สนุกสนาน เราก็ต้องเหนื่อยหน่อยนะครับ เพราะเราต้องใช้แรงจูงใจเยอะทีเดียว

           ผมว่าความปรารถนาสูงสุดในการเลี้ยงน้องหมาของเรา ๆ ก็คือ การที่น้องหมาไม่ซุกซนจนเกินไป เพราะมันจะเป็นสีสันให้เราได้หัวเราะ ไม่ก้าวร้าวทั้งกับเราเองและผู้อื่น ไม่ทำลายข้าวของ เช่น กัดแทะโน่น นี่ นั่น ไม่เห่าพร่ำเพรื่อ และไม่ทำเลอะเทอะทั่วบ้าน ทุกสิ่งที่ผมกล่าวมาล้วนแต่ฝึกสอนได้ทั้งสิ้น ทั้งตัวท่านเองหรือส่งเข้าศูนย์ฝึกฯ เพียงแต่วิธีการจะแตกต่างกันไปบ้างก็ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของแต่ละท่าน ผลลัพธ์ที่ออกมาเร็วบ้าง ช้าบ้าง ก็ขอให้ใจเย็น ๆ สักนิด ใช้คำพูดสั้น ๆ ที่ฟังแล้วจะจำได้ง่าย เช่น มา นอน คอย สวัสดี ฯลฯ อ้อ! อย่าลืมให้รางวัลในเวลาที่มันทำถูกต้อง และทำโทษเวลาที่มันดื้อหรือทำผิด สำคัญจริง ๆ นะครับ

           สำหรับวันนี้ผมขออนุญาตนำภาพน่ารัก ๆ มาให้ชมกัน เล่นไปพลาง ๆ ก่อน แล้วพบกันคราวหน้า ผมจะนำเรื่องสนุก ๆ มาเล่าให้ฟังใหม่ สวัสดีครับ








เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อยากให้หมาเป็นอย่างไร ก็สอนมันอย่างนั้น อัปเดตล่าสุด 16 กรกฎาคม 2555 เวลา 18:12:23
TOP