ช่วยด้วย! น้องหมาตาหลุด (Dogazine Healthy)
คุณผู้อ่านคะ...เคยเจอเหตุการณ์ที่น้องหมาตาหลุดจากเบ้ากันไหมคะ? ฟังดูน่ากลัว ไม่น่าเชื่อ (และไม่น่ารอดชีวิต) แต่มันก็เป็นไปได้ และตัวเจ้าของก็สามารถมีส่วนช่วยเหลือน้องหมาเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้ หากรู้วิธีการที่ถูกต้อง ดังที่หมอจะนำมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้...
อาการ "ตาหลุดจากเบ้า" สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ได้รับอุบัติเหตุ อาทิ ถูกรถชน กระทบกระแทกอย่างแรง ตกจากที่สูง วิ่งชนวัตถุสิ่งของ โดนสุนัขตัวใหญ่กว่ากัดมา โดนจับบังคับอย่างรุนแรง แต่สาเหตุหลักๆ ที่มักพบก็คือ ถูกรถชนหรือโดนกัดมาค่ะ ซึ่งมักพบได้ในสุนัขที่มีลักษณะของตาปูดโปนออกมานอกเบ้าตา ได้แก่ สุนัขพันธุ์ปั๊ก ชิวาวา ชิสุ เฟรนช์บูลด็อก ทั้งนี้สุนัขพันธุ์อื่น ๆ ก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน
แต่อย่าเพิ่งตกใจไปนะคะ อาการตาหลุดที่ว่านั้น ลูกตาที่หลุดออกมาจะยังมีพวงของเส้นเลือดและเส้นประสาทห้อยติดกับลูกตาออกมาด้วย ไม่ใช่ว่าลูกตาหลุดลงไปกลิ้งหลุนๆ อยู่บนพื้นทั้งลูกนะคะ (แต่ยังไงก็ยังน่าตกใจอยู่ดีล่ะเนอะ) เมื่อเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ให้รีบพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับลูกตาซึ่งจะส่งผลให้สุนัขสูญเสียการมองเห็น และเพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อกับลูกตาด้วยค่ะ
กรณีตาหลุดนี้ ถือว่าเป็น "กรณีฉุกเฉิน" (Emergency) ฉะนั้นต้องรีบพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุดเพื่อช่วยให้การมองเห็นของสุนัขยังคงอยู่ แต่ก่อนที่จะไปพบสัตวแพทย์ เราอาจมีวิธีช่วยปฐมพยาบาลสุนัขเบื้องต้นได้ด้วยการทำความสะอาดลูกตาด้วยน้ำเกลือ NSS (มีขายตามร้านขายยาทั่วไป) พร้อมกับเอาผ้าที่ชุ่มน้ำเย็นมาหุ้มพวงของลูกตาทั้งหมด แล้วรีบพาไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด
หากระยะทางค่อนข้างไกลจากโรงพยาบาลสัตว์หรือคลินิกให้นำน้ำแข็งมาประคบไว้ข้างนอกผ้าเย็นร่วมด้วย แต่ต้องระวังอย่าให้เย็นเกินไปเนื่องจากอาจทำให้เกิดเนื้อตายได้ ควรเอาน้ำแข็งออกเป็นระยะ ๆ โดยกะประมาณให้อุณหภูมิที่ผ้าเมื่อใช้มือจับดู เย็นพอ ๆ กับน้ำเย็นในตู้เย็น ห้าม! เอาน้ำแข็งประคบดวงตาโดยตรงเด็ดขาด เพราะนั่นจะยิ่งเป็นการทำให้ลูกตาของสุนัขเสียหายและยิ่งเพิ่มโอกาสที่สุนัขของเราจะตาบอดสนิท ส่วนกรณีที่ลูกตาเสียหายมาก เช่น ลูกตาแตก มีการติดเชื้อที่ไม่สามารถควบคุมได้ สัตวแพทย์อาจพิจารณาควักลูกตาออก ซึ่งต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไปนะคะ
เมื่อสุนัขได้รับการรักษาจากสัตวแพทย์แล้ว หากสุนัขมียากินจะต้องป้อนให้ครบและตรงเวลา ที่สำคัญคือต้องพาสุนัขไปทำแผลที่โรงพยาบาลสัตว์หรือคลินิกทุกวัน ห้ามละเลยโดยเด็ดขาด แผลจะได้หายเร็ว และสุนัขของเราก็จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
