x close

กุ้งการ์ตูน สีสันแห่งโลกทะเลในตู้ใส



กุ้งการ์ตูน


เพาะเลี้ยง "กุ้งการ์ตูน" สีสันแห่งโลกทะเลในตู้ใส (เทคโนโลยีชาวบ้าน)

โดย อุราณี ทับทอง
คอลัมน์ เทคโนฯ สัตว์เลี้ยง

          หลังจาก นีโม่...ปลาเล็กหัวใจโต๊ โต (Finding Nemo) ภาพยนตร์เรื่องดังออกฉาย ไม่เพียงได้สร้างกระแสให้ "ปลาการ์ตูน" กลายเป็นปลาทะเลสวยงามสุดฮิต แต่ยังสร้างแรงผลักให้เกิดการเพาะพันธุ์ปลาการ์ตูนเชิงพาณิชย์ได้สำเร็จ สามารถป้อนปลาตัวน้อยออกสู่ตลาดโดยไม่จำเป็นต้องรุกรานธรรมชาติอีกต่อไป

          ก้าวแรกของความสำเร็จจากการเพาะขยายพันธุ์ปลาการ์ตูน เกิดเป็นก้าวที่สองของ คุณนพดล เสนาหาญ แห่งเซเว่นซีส์มารีนฟาร์ม ที่สามารถเพาะพันธุ์สัตว์ทะเลสวยงามอีกชนิดได้สำเร็จเป็นรายแรกของไทย นั่นคือ "กุ้งการ์ตูน" ซึ่งมีสีสันสวยงาม และได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้หลงใหลโลกทะเลจำลองในตู้กระจก โดยไม่จำเป็นต้องไปเสาะหากุ้งการ์ตูนธรรมชาติที่นับวันจะยิ่งลดจำนวนลงอีกเช่นกัน

          "การเพาะปลาการ์ตูนเป็นผลจากที่ทางฟาร์มก็ได้เข้าอบรมมาจาก สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา ทางอาจารย์ก็ได้ถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีให้ทางฟาร์มมาขยายต่อ ซึ่งสำเร็จมาได้ 2 ปีแล้ว จากนั้นเราก็ได้ศึกษากุ้งการ์ตูน พบว่า มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบอันดามันภูเก็ต ยาวไปถึงอินโดนีเซีย แปซิฟิก แต่ปัจจุบันใกล้สูญพันธุ์และมีจำนวนน้อยมากในธรรมชาติ บวกกับการจับมาของชาวประมงที่เพื่อนำมาขายในตลาดนัดสวนจตุจักร ทำให้กุ้งการ์ตูนในธรรมชาติลดน้อยลง จึงทดลองนำเข้ามาเพาะพันธุ์ ป้องกันการสูญพันธุ์ จนสามารถเพาะพันธุ์ได้สำเร็จ เมื่อปี 2550" คุณนพดล บอก

          กุ้งการ์ตูน มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า Harlequin Shrimp เป็นกุ้งทะเลขนาดเล็กที่มีลวดลาย ลักษณะลำตัวมีเปลือกแข็ง สีขาว แต้มด้วยลายจุดสีฟ้า สีน้ำตาล มีขนาดลำตัวยาว 10-15 เซนติเมตร กุ้งการ์ตูนที่พบในปัจจุบันมีสองสายพันธุ์ คือสายพันธุ์ Elegans และ สายพันธุ์ Pieta ซึ่งมีลักษณะไม่แตกต่างกันมากนัก สามารถนำมาเลี้ยงรวมกันได้ ในประเทศไทยจะพบกุ้งการ์ตูนมากทางทะเลอันดามัน และบริเวณหมู่เกาะพีพี มักอาศัยอยู่เป็นคู่ตามซอกโพรงปะการังหรือซอกโขดหิน

          "พฤติกรรมของกุ้งการ์ตูน มีความดุร้ายกับกุ้งด้วยกัน เนื่องจากมีความหวงถิ่นและค่อนข้างสันโดษ บางท่านให้ฉายาว่าเป็นคู่รักแห่งอันดามัน เนื่องจากจับคู่เดียว จะจับคู่ใหม่ต่อเมื่ออีกฝ่ายตายไปเท่านั้น ผู้เลี้ยงจะเห็นได้ชัดว่าชอบจับคู่อยู่ด้วยกัน จะไม่ค่อยแยกกันอยู่ จะแยกกันอยู่บ้างตอนกินอาหารแล้วก็จะกลับมาอยู่ใกล้กันอีก ทำให้ดูน่ารักมาก และกุ้งการ์ตูนจะไม่ค่อยทำร้ายสัตว์ทะเลตัวอื่นๆ ในตู้เดียวกัน แต่กุ้งตามธรรมชาติจะมีนิสัยดุร้ายมาก บางท่านซื้อจากตลาดนัดสวนจตุจักรแล้วพบปัญหาตายภายในวันเดียว เนื่องจากพบปัญหากุ้งกัดกันเอง และหากไม่สามารถจับคู่ด้วยกันได้จริงๆ ก็จะกัดกันตาย การนำมาเพาะพันธุ์สามารถลดความดุร้ายตามธรรมชาติของกุ้งได้ ตอนนี้เป็นรุ่นที่สองแล้ว คาดว่าประมาณ 5 รุ่น และลดความดุร้ายได้อย่างสิ้นเชิง เพราะจากการเพาะพันธุ์รุ่นสอง กุ้งการ์ตูนก็สามารถอยู่รวมกันได้แล้ว และสามารถเลี้ยงรวมกับปลาทะเลชนิดอื่นได้ด้วย ยกเว้นปลาทะเลกินเนื้อ เช่น ปลาเก๋า ปลาซัคเกอร์ ปลาวัวมงกุฎ ที่กินกุ้งเป็นอาหารโดยตรง"

          คุณนพดล บอกต่อว่า อาหารกุ้งการ์ตูนกินมี ปลาดาวเหยื่อ ปลาดาวทราย ปลิงทะเล และเม่นทะเล แต่อันดับหนึ่งที่กุ้งการ์ตูนชอบมากที่สุดก็คือ ปลาดาวเหยื่อ เวลาให้ปลาดาวเป็นอาหารกุ้งการ์ตูน ต้องตัดปลาดาวเป็นท่อนเล็กๆ จากตู้เลี้ยงปลาดาวมาใส่ตู้เลี้ยงกุ้งการ์ตูน ให้ครั้งละท่อนเท่านั้น เพื่อป้องกันน้ำเสีย หรือให้ปลาดาวเป็นตัว 1 ตัว ต่อ 1 สัปดาห์ แต่จากการจัดแสดงให้ความรู้ที่ผ่านมา คุณนพดลเห็นได้ว่าหลายท่านสงสารปลาดาว เขาจึงเริ่มผลิตอาหารสำเร็จมาทดแทน โดยนำดาวทะเล ปลิงทะเล เม่นทะเล ที่ประมงไม่ได้ใช้งานนำมาสกัดเป็นอาหารสำเร็จแช่แข็งสำหรับกุ้งการ์ตูนโดยเฉพาะ ซึ่งอยู่ในระหว่างการทดลองใช้ภายในฟาร์ม

          "การเลี้ยงกุ้งการ์ตูนโดยทั่วไปไม่ยาก สำหรับผู้ที่มีความรู้เรื่องการเลี้ยงสัตว์ทะเลสวยงาม เพราะตัวเต็มวัยจะสามารถกินอาหารได้ง่าย แต่การเพาะพันธุ์กุ้งการ์ตูนต้องยอมรับว่ายากกว่าปลาการ์ตูนมาก เนื่องจากการอนุบาลกุ้งวัยอ่อนต้องอาศัยแพลงตอนหลายชนิดที่ไม่สามารถมองเห็น ด้วยตาเปล่า แพลงตอนพืชและแพลงตอนสัตว์เหล่านั้นต้องให้ในปริมาณที่ต่างกัน ทั้งยังต้องดูแลรายละเอียดเป็นชั่วโมงต่อชั่วโมง เมื่อเกิดปัญหาต้องรีบแก้ไขทันที ต่างกับปลาการ์ตูนที่สามารถแก้ปัญหาวันต่อวันได้ คล้ายการดูแลเด็กอ่อนวัยแบเบาะ"

          คุณนพดล ให้ความรู้เรื่องการเพาะพันธุ์พอสังเขปว่า กุ้งการ์ตูนวัยเจริญพันธุ์สามารถผสมพันธุ์และมีลูกกุ้งได้ คือวัย 7 เดือน ถึง 1 ปี ขึ้นไป แต่จากประสบการณ์พบว่า กุ้งอายุ 1 ปี 2 เดือน จะให้ลูกกุ้งมากถึง 1,000 ตัว ขึ้นไป แต่ถ้า 7 เดือน จะให้แค่ 200 ตัวโดยประมาณ ยิ่งจำนวนปีมากขึ้นก็จะให้ลูกมากขึ้น บางตัวได้ลูกถึง 3,000 ตัว แต่เปอร์เซ็นต์รอดมีเพียง 5% เฉลี่ย 50 ตัว ต่อ 1 ครอก ต่อ 1 เดือน

          ในวัยเจริญพันธุ์นี้ กุ้งการ์ตูนจะมีขนาดราว 1 นิ้ว สามารถสังเกตเพศได้จากขนาดตัวเมียจะมีลักษณะตัวใหญ่กว่าตัวผู้ หรือให้สังเกตจากสีของกุ้งการ์ตูนที่เปลี่ยนไป สีที่เปลือกของตัวผู้จะแลดูขาวสะอาด หรือออกสีเหลือง แต่จะไม่มีสีน้ำเงินที่จุด ส่วนตัวเมียจะมีสีน้ำเงินเป็นจุดชัดเจน และมีไข่ในตัวให้เห็น เมื่อตัวเมียและตัวผู้สามารถจับคู่ผสมกันได้ลูกกุ้งวัยอ่อนออกมาแล้ว จะต้องนำลูกกุ้งไปอนุบาลโดยให้อาหารด้วยแพลงตอนพืช 4 ชนิด คือ ไอโซไครซีส นานโนโครร็อปซิส คลอเรลลา และคิชีโตเซอรอส ควบคู่กับโรติเฟอร์ ซึ่งเป็นแพลงตอนสัตว์ ตั้งแต่ระยะแรกเกิดจนถึงวัย 5 วัน เมื่อกุ้งการ์ตูนอายุย่างเข้าวันที่ 6 จึงให้อาร์ทีเมียหรือไรทะเลไปจนถึงอายุ 45 วัน จากนั้นกุ้งการ์ตูนที่มีขนาดโตขึ้นนี้ จึงให้ปลาดาวเหยื่อเป็นอาหาร

          "ก่อนหน้านี้ ผมก็เป็นแค่นักเลี้ยงปลาทั่วไปที่ชอบเลี้ยงปลาทะเล แต่แรกๆ เลี้ยงแล้วมักจะตายบ่อยๆ รู้สึกสงสารมัน ก็เลิกเลี้ยงไปพักใหญ่จนมาเจอหนังสือเล่มนึง ซึ่งสอนว่าให้เลี้ยงน้ำทะเลให้เป็นก่อน ก็เลยเริ่มศึกษาและเรียนรู้ว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลี้ยงปลาทะเลก็คือน้ำในตู้ เราต้องเพาะแบคทีเรียในน้ำเพื่อมาบำบัดน้ำเสียให้น้ำทะเลสะอาดทุกวัน การเลี้ยงสัตว์ทะเลทั้งหลายทุกสายพันธุ์ให้ดีคือการใช้น้ำที่มีคุณภาพ หากสามารถควบคุมระบบน้ำได้ ทำให้การเลี้ยงปลาทะเลปลอดภัยจากโรค สุขภาพดี และปราศจากปัญหาที่มารบกวนตู้ปลา สมมติว่า หากเราเติมน้ำแบบใช้เกลือสังเคราะห์ผสมเตรียมหมักน้ำไว้ 2 วัน แล้วเติมน้ำใหม่ ก็ต้องตรวจดูค่า pH ของน้ำ ความเค็ม และอุณหภูมิก่อน แล้วจึงปล่อยกุ้งการ์ตูนลงไป กุ้งการ์ตูนจะมีปัญหาทันทีที่เราเปลี่ยนน้ำใหม่ ดังนั้น เราต้องค่อยๆ เติมน้ำที่ผสมกับน้ำเกลือสังเคราะห์ลงไป โดยประมาณ 10-20% และให้ตรวจดูคุณภาพของน้ำที่จะทำให้กุ้งการ์ตูนช็อคทันที ถ้าน้ำที่เติมไม่มีคุณภาพที่ดีจะทำให้กุ้งการ์ตูนตายทั้งหมด" คุณนพดล บอกถึงหัวใจสำคัญในการเลี้ยงสัตว์ทะเล

          แต่เพื่อให้การเลี้ยงสัตว์ ทะเลง่ายขึ้นสำหรับผู้เริ่มต้น คุณนพดลและทีมงานเซเว่นซีส์มารีนฟาร์ม จึงเพิ่มบริการจัดตู้ปลาร่วมกับการจำหน่ายกุ้งและปลาการ์ตูนที่เพาะพันธุ์ได้ แต่ยังคงมุ่งมั่นในการเพาะขยายพันธุ์สัตว์ทะเลสวยงามชนิดอื่นๆ ต่อไป ส่วนกุ้งการ์ตูนที่จำหน่ายในปัจจุบัน เป็นกุ้งโตเต็มวัย คืออายุ 7 เดือน และ 1 ปี 2 เดือน ขนาด 1-1.5 นิ้ว สนนราคาอยู่ที่ตัวละ 100-1,500 บาท

          สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อขอความรู้กับคุณนพดลได้ ที่เลขที่ 16/49 หมู่ที่ 7 ถนนบางขุนเทียนชายทะเล แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ 10150 โทร.(02) 453-6134 หรือ (089) 201-9618 (089) 118-2827 และ (081) 810-8002

คำแนะนำในการดูแลน้ำทะเลในตู้เลี้ยง

          1. ในระหว่างที่น้ำทะเลระเหยไปส่วนหนึ่ง ส่วนที่ระเหยไปคือ น้ำจืด ความเค็มแร่ธาตุยังคงอยู่ ให้เติมน้ำจืดแทนส่วนที่หายไป (น้ำจืดที่เติมเป็นน้ำ RO หรือน้ำประปาที่ทิ้งไว้ 3 วัน)

          2. เปลี่ยนน้ำทะเลทุกๆ 1 เดือน 20% วิธีเปลี่ยนน้ำทะเลมีให้เลือก 2 วิธี

               - ใช้เกลือวิทยาศาสตร์ผสมน้ำจืด (น้ำ RO หรือน้ำประปาทิ้งไว้ 3 วัน) และวัดความเค็ม 30 ppt

               - ใช้น้ำทะเลธรรมชาติที่มีขายอยู่ตามร้านปลาทะเล อย่าลืมตรวจสอบวัดความเค็มด้วย

          3. ตรวจสอบคุณภาพน้ำทะเล มีอุปกรณ์วัดค่า NO2 (ไนไตรต์) ที่เป็นอันตรายต่อปลาการ์ตูน การตรวจสอบคุณภาพน้ำทะเล ควรจะตรวจสอบสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

          สำหรับผู้สนใจเลี้ยงปลาการ์ตูนเพาะ (ส้มขาว) และกุ้งการ์ตูนเพาะขนาดเล็ก มีคำแนะนำในการจัดตั้งตู้ปลาทะเลขนาดเล็ก ดังนี้

          1. หาสถานที่ตั้งตู้ปลาขนาดเล็ก เนื้อที่ประมาณ 12x12 นิ้ว ทำความสะอาดตู้ปลาให้สะอาด

          2. ติดตั้งระบบกรองพื้นทราย แล้วจึงเทหินประดับลงตู้

          3. ผสมน้ำทะเล วิธีผสมน้ำทะเล เทเกลือวิทยาศาสตร์ผสมน้ำ RO หรือน้ำประปาที่เป่าออกซิเจนไว้ 2-3 วัน ความเค็มน้ำทะเลที่ใช้เลี้ยงปลาทะเล มีหน่วยความเค็มประมาณ 28-32 ppt ความเค็มที่ใช้เลี้ยงปลาการ์ตูนเพาะใช้ความเค็ม 30 ppt

          4. เทน้ำทะเลลงตู้ โดยใช้ขันใบเล็กวางเหนือหินประดับตู้ แล้วค่อยๆ เทน้ำอย่างช้าๆ ลงขัน เพื่อไม่ให้น้ำทะเลขุ่น เทน้ำทะเลระดับให้ต่ำกว่าขอบตู้ปลา 1.5 นิ้ว เผื่อใส่ปะการังเทียม

          5. เปิดระบบกรองน้ำแล้วใส่แบคทีเรียที่เตรียมไว้ เปิดระบบกรองทิ้งไว้ พร้อมแช่ถุงปลาการ์ตูน 2-3 ชั่วโมง หลังจากนั้นกรอกน้ำเข้าออกถุงอย่างช้าๆ แล้วค่อยปล่อยปลา





ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก วิกิพีเดีย




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กุ้งการ์ตูน สีสันแห่งโลกทะเลในตู้ใส อัปเดตล่าสุด 28 สิงหาคม 2552 เวลา 23:27:26 8,415 อ่าน
TOP