
ข่าวหมาปอมฯ เจ้าของร่ายยาว ยืนยันเรื่องจริง
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Rundevil Mirun, เฟซบุ๊ก Chanya Tamada
ข่าวหมาปอมฯ ถูกทำร้าย ล่าสุด เจ้าของแจงมือมืดใช้วิกซอลราดจริง เฉือนเนื้อ สุดท้ายแผลเน่าจนแพทย์ต้องตัดไข่ ด้าน ชัญญ่า ทามาดะ โต้ใส่ไข่จนเกินจริง ยันช่วยรักษาให้ถึงที่สุด
จากกรณีที่ ชัญญ่า ทามาดะ ได้โพสต์คลิปเรียกร้องให้ คุณรัน เจ้าของ น้องเจคอป สุนัขปอมเมอเรเนียน ที่อ้างว่าถูกมือมืดบุกบ้านกรีดขา ตัดไข่ ราดน้ำยาล้างห้องน้ำ ออกมาชี้แจง หลังจากที่ดาราสาวพบว่า คุณรันมีการบิดเบือนข้อมูลที่เผยแพร่ในโซเชียล อีกทั้งเมื่อเธอเดินเรื่องติดตามคดี แต่กลับไม่ได้รับการตอบกลับจากคุณรันแต่อย่างใดนั้น
ล่าสุด วันนี้ (28 สิงหาคม 2557) คุณรัน เจ้าของเฟซบุ๊ก Rundevil Mirun ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว โดยมีข้อความทั้งหมดดังนี้

"หมดแรง แขนขาอ่อนแรงไปพักไหญ่
วันนี้วุ่นวายทั้งวันตั้งแต่เช้า ทั้งตำรวจ นักข่าว เพจ พาเจคอปไปโรงพยาบาลหาหมอ ทุกอย่างทำคนเดียว รับมืออยู่คนเดียว มีสายโทรเข้ามาตลอด เลยทำไห้ไม่สามารถรับสายหรือคุยโทรศัพท์สะดวกสักเท่าไร เพราะมีเบอร์โทรมาเยอะมาก เหตุเกิดจากการที่น้องหมาโดนทำร้ายที่บ้าน วันเกิดเหตุอยู่บ้านคนเดียว
วันอังคารที่ 19 : ตื่นเช้ากำลังจะออกไปทำงาน แต่มาเจอหมาที่เราเลี้ยงไว้อยู่ในคอกบริเวณหน้าบ้าน นั่นคือเจคอปอยู่ในสภาพทรุด ตัวเปียกมอมแมม ข้าง ๆ ตัวเค้ามีกองน้ำสีเขียว และรอยเลือดปนเล็กน้อย (น้องทั้งสองตัวอยู่ในคอกรั้วสีขาวบริเวณหน้าบ้าน) หันไปเจอบริเวณใกล้ ๆ ก็เห็นมีขวดน้ำยาวิกซอลเปิดฝาวางทิ้งไว้อยู่ด้านนอกของคอกรั้วสีขาว อารมณ์ตอนนั้นตกใจมาก คิดไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมขวดวิกซอลถึงมาจมอยู่บนกองที่น้องนอนซมอยู่ และรอยเลือดที่ปนอยู่บนกองน้ำสีเขียวคืออะไร ตอนนั้นไม่ได้คิดถึงหรือสงสัยด้วยซ้ำว่ามีคนบุกเข้ามาในบ้าน คิดไปเองว่า ขวดมันหก และหมามาเลียกิน จึงรีบพาหมาทั้งสองตัวไปโรงพยาบาล เพื่อทำการล้างท้อง เพราะกลัวเค้าจะกินเข้าไป โฟกัสประเด็นไปที่การช่วยล้างท้องสุนัขทั้ง 2 ตัว (อีกตัวปกติไม่มีรอยเปียกหรืออาการเข่าทรุดแต่เพื่อความสบายใจเลยพาไปหาหมอทั้ง 2 ตัว)
ไปถึงโรงพยาบาล หมอก็ช่วยล้างท้องโดยการให้กินยาขับพิษ แต่หมอบอกขอดูอาการน้องก่อน กลัวภายในจะเป็นอะไรถ้าเกิดกินเข้าไปจริง ๆ หมอเลยให้แอดมิด รอดูอาการก่อนและบอกเราว่า ตอนเย็นค่อยมารับ เราเลยพาเจเล่กลับมาส่งที่บ้านและไปทำงานต่อ ช่วงบ่ายหมอโทรมาบอกว่า น้องปลอดภัยแล้ว ไม่น่าจะกินเข้าไปเยอะ อาจจะแค่เลีย ๆ เล่น ๆ และลงไปคลุก แต่หมอก็แจ้งมาว่า เห็นเหมือนน้องจะมีอาการบวมที่ขาหน่อยนึง อาจจะเป็นเพราะโดนน้ำยากัด ให้เรารีบพาน้องกลับมาล้างตัวอาบน้ำ ล้างน้ำยาออก
เลิกงานเราก็เลยมารับน้องกลับบ้าน มาถึงบ้านเราก็รีบล้างตัวอาบน้ำให้เค้า สิ่งที่พบว่าผิดปกติคือ เวลาจับไปที่ขาน้อง น้องจะร้องและไม่ยอมให้จับ และแสดงอาการขู่ ไม่ยอมให้จับ เราก็คิดไปเองแค่ว่า ขาน้องอาจจะอักเสบเพราะบวมจากการโดนน้ำยากัด เลยไม่กล้าทำอะไรมาก และก็ยังไม่เอะใจอะไร (นี่คือสิ่งที่เราผิดเองที่มองข้าม ละเลยในจุด ๆ นี้ เพราะคาดไม่ถึง) แต่น้องยังขยับลุกขึ้นมาเดินเหยาะ ๆ เองได้บ้าง แต่เดินแป๊บเดียว ก็นอนทรุดลงอีกเหมือนเดิม
วันที่ 20 สังเกตอีกรอบตอนเช้า แต่เพราะด้วยเรามีงานที่ต้องไปทำ เลยยังไม่ได้พาน้องไปตรวจให้ละเอียดอีกรอบ และที่บ้านไม่มีคนอยู่ตอนกลางวัน เพราะอยู่บ้านคนเดียว เลยไม่มีใครมาช่วยดูแลให้ ตกเย็น วันที่ 20 เราเลิกงานถึงบ้านก็ประมาณมืด ๆ มาสังเกตอาการเค้าก็ยังนอนซึม ไม่ลุกเดิน เราเลยอุ้มเค้าขึ้นมา แล้วเค้าก็เลยร้อง เราเลยโทรหาหมอ ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมน้องไม่เดิน และมีอาการเจ็บปวด (ลืมบอกไปว่าเราจะจับไปตรงขาเพื่อดูแต่น้องไม่ยอมและขู่ ซึ่งเราคิดว่ามันผิดปกติ เลยโทรหาหมอ หมอเลยบอกให้พรุ่งนี้มาพาให้หมอตรวจอีกที
วันที่ 21 เราพาหมาไปโรงพยาบาลเพื่อให้หมอตรวจอีกรอบตอนเช้า ก่อนที่ออกไปทำงาน ครั้งนี้ หมอไปจับดูที่ขาหน้าน้อง แล้วน้องไม่ยอมร้องและจะกัดคนที่จับ พอหมอโกนขนขาของน้องออกมา ถ้ามองด้วยตาเปล่าหรือแม้แต่จับดูก็ไม่เห็น (แต่ความจริงคือจับไม่ได้เค้าไม่ยอม) จึงเห็นเป็นรอยแผลตรงบริเวณขาหน้าด้านในทั้ง 2 ข้าง ซึ่งหมอพูดเองว่า มันคือแผลที่โดนเฉือนด้วยของมีคม ไม่ใช่น้ำยาวิกซอลกัด บริเวณที่โดนวิกซอลกัดเป็นรอยด่าง ๆ คือบริเวณอุ้งเท้า ขาล่างสุดท้อง ซึ่งรอยจะแตกต่าง รอยจะเป็นด่าง ๆ แดง ๆ เขียว ส่วนขาหน้าด้านบนทั้งสอง เป็นรอยของมีคม เหมือนโดนตัด ปาด หรือเฉือนมา
เราเลยเอะใจขึ้นมา (เพิ่งจะมาเอะใจ) ว่าจริง ๆ แล้ว มันเกิดอะไรขึ้น พอกลับมาที่บ้าน เลยดูขวดน้ำยาล้างห้องน้ำ จึงได้พบว่า แท้ที่จริงแล้ววิกซอลฝามันเปิดเองไม่ได้ เพราะเป็นฝาเป็นแบบคลิกล็อก และจุดที่วางวิกซอลเราวางไว้บริเวณด้านในติดผนังบ้าน (หมาอยู่ในคอก เอาขามาเขี่ยไปไม่ได้) และถึงจะขวดล้มหรือหก น้ำยามันก็ไม่ไหลออกมาเอง เพราะลักษณะของขวดคือ เป็นแบบต้องใช้แรงคนฉีด ฉีดใส่บนตัว หน้าขา ปาก ท้อง ขา หัวขวดมีจุกสีขาว ที่เป็นรูเล็ก ๆ สี่รู รันลองวางให้มันหก มันก็ไหลออกมาไม่ได้ ต้องใช้แรงบีบเท่านั้น ไม่มีทางไหลออกมาเอง อีกทั้ง ตรงบริเวณที่วิกซอล มันวางนอนอยู่วันที่เกิดเรื่องคือ ด้านบนของคอก แต่บริเวณที่เจอเจคอปนอนจมกองวิกซอล คือด้านหน้าของคอก และไม่มีรอยหยดตรงด้านบน ส่วนหมาอีกตัวอยู่ในคอกเดียวกัน ไม่เป็นอะไร เพราะนิสัยน้องค่อนข้างเรียบร้อย ไม่ดุ และขี้กลัว คาดว่าวันเกิดเหตุอาจจะวิ่งหนีเข้าไปในบ้านหมา
จากนั้นก็เลยเห็นไปอีกว่า มีกรรไกร (ของตัวเองเอาไว้ตัดเล็มขนหมาเวลาอาบน้ำ) ที่ปกติวางไว้บนโต๊ะหน้าบ้าน แต่ตำแหน่งที่มันมาวาง ณ ปัจจุบันคือ ด้านฝั่งคอกรั้วหมา และมาดูรอยแผล เป็นแผลเหมือนโดนกรรไกรแน่นอน เลยโทรไปถามหมอ และโครงการแนะนำไห้ไปแจ้งความก่อน แต่วันนั้นรันมีงานด่วนต้องไปทำ และลางานมาจะครึ่งวันแล้ว เลยยังไม่สะดวกไป แล้วเราก็มาพบว่า ขาหลังน้อง และบริเวณอัณฑะ มีรอยเลือดที่เริ่มซึม ๆ ออกมา (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงเพิ่งมีเลือดซึมตอนนี้)
เราเลยพาน้องไปหาหมออีก หมอเลยโกนขนขา 2 ขาหลัง ก็เจอรอยเหมือนโดนของมีคมเฉือนหรือปาดตรงขาด้านใน และตรงไข่ ก็มีรอยเฉือนด้วยของมีคม (อันนี้หมอพูดมาเอง บอกเราเอง) แผลไม่ใช่แผลใหม่ น่าจะเกิดขึ้นพร้อมกัน แต่เพิ่งมาเจอ ไข่คือมีรอยโดนเฉือนหรือปาด ไม่ได้โดนตัดฉับ (ใช้คำผิดขออภัย) เราเลยต้องรีบไปแจ้งความกับตำรวจ และได้ขอใบคำวินิจฉัยจากหมอ ว่า น้องโดนทำร้ายด้วยวิกซอลและของมีคมไปให้ตำรวจดูด้วย (หาใบจริงไม่เจอ พรุ่งนี้จะไปขอกับร้อยเวรที่รับเรื่องว่าได้ก๊อบปี้ไว้ไหม)
การรักษาต่อมาของน้องคือ การพาไปทำแผลล้างแผลทุกวัน ซึ่งทุก ๆ วันที่ไป บาดแผลของน้องจะมีการเน่าที่เกิดจากการกัดของวิกซอลที่อุ้งเท้าที่แผลเปิด รวมทั้งที่ไข่ ที่คุณหมอจะต้องรักษา โดยการตัดเนื้อที่เน่าทิ้งไป ตัดออกทุกวัน และแผลน้องแย่ลงทุกวัน เพราะโดนน้ำยากัดกินเนื้อเยื่อ เส้นเอ็น จากวันแรก ๆ ที่น้องยังลุกเดินได้บ้าง กลายเป็นเริ่มจะลุกไม่ได้เลย ขยับช่วยตัวเองไม่ได้เลย เพราะแผลโดนน้ำยากัดกินทุกวัน คุณหมอต้องช่วยโดยการตัดเนื้อที่เน่าออกทั้งขาและไข่"
ขณะที่ทางด้าน ชัญญ่า ทามาดะ ได้โพสต์ข้อความตอบกลับว่า คุณรันใช้คำไม่ถูกต้องจนทำให้เรื่องดูรุนแรงเกินจริง ซึ่งข้อความที่ชี้แจงแตกต่างจากข้อความที่แชร์วันแรกโดยสิ้นเชิง แต่ทั้งนี้เธอยังคงยินดีจะช่วยระดมทุนรักษา น้องเจคอป ต่อไป โดยมีข้อความระบุว่า
"อ่ะ.. คุณรันชี้เเจงเเล้ว ถ้าเรื่องเป็นไปตามนั้นก็ดีไป เเต่พออ่านกลับไปตั้งเเต่โพสต์เเรกที่เเชร์กัน เป็นคุณ ๆ ไม่คิดเหมือนชัญญ่าเหรอ ? คือไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะ เรื่องที่ร่ายยาววันนี้ กับเรื่องที่เเชร์วันเเรก เออ เอาจริง ถ้าเขาใช้คำผิดก็คงใช้ผิดหลายคำเลยเเหละ การพูดอะไรเวลาใส่ไข่ให้เรื่องมันดูเเรงขึ้นอย่างเช่น "ตัดไข่" หรือว่า "กรอกวิกซอล" หรือ "กินวิกซอลเข้าไป" ซึ่งสุดท้ายที่คุณรันเล่ามันก็ไม่ได้โดนตัดไข่ ? หรือ โดนกรอก เหมือนที่พูดตอนเเรก มันทำให้น่าสงสัยจริง ๆ พูดตรง ๆ คุณรันอาจจะเป็นคน พูดไม่เป็น ใช้คำไม่ถูกก็เป็นได้ เเต่เราไม่ได้มีเจตนาร้ายเลยนะ ย้ำอีกครั้งสุดท้าย ว่าอยากช่วยจริง ๆ ให้ช่วยเถอะ ไลน์มาค่ะ ชื่อเรื่องคุณ ตร. ที่รับเรื่อง เเล้วเดี๋ยวเราเข้าไป สน.กัน เรามาช่วยกันจับคนร้ายมาลงโทษ ส่วนน้องเห็นว่าไม่ต้องตัดขาทั้งหมดเเล้ว เรามาช่วยกันรักษาน้องดีกว่าค่ะ เเล้วขาดเงินอีกเท่าไร ชัญญ่าจะช่วยระดมทุนให้ค่ะ"

ล่าสุด ชัญญ่า ทามาดะ ได้โพสต์ข้อความ โดยมีข้อความระบุว่า
"ไม่ได้จะโพสต์ให้ใครโดนด่านะคะ เเต่ต้องชี้เเจงให้คนที่ตามอยู่เข้าใจ ทางฝ่ายคุณรันออกมาบอกเเล้วว่าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากชัญญ่านะคะ ข้อความตามนี้
\'คุณคะ ขอบคุณที่หวังดีค่ะ เรื่องตำรวจน้องติดต่อไปแล้ว ส่วนเรื่องหมามีคนใจดีกลุ่มหนึ่งเขาช่วยติดต่อคุณหมอที่เก่งมากจนให้เจคอปไม่โดนตัดขา ในตอนที่หลาย ๆ คนคิดว่ารันทำหรือเปล่า แต่คนใจดีกลุ่มนี้นัดหมอให้รัน บางคนไปเป็นเพื่อน ก็ขอขอบคุณจากใจจริง ตอนนี้น้องเครียดมาก คุณคงเข้าใจว่าเจ้าของหมาไหนจะต้องพาหมาหาหมอ ไหนจะต้องโดนคนบางกลุ่มรุมด่า ส่วนเรื่องจะระดมทุนช่วยเจคอปขอบคุณมาก แต่ไม่เป็นไรค่ะ ทางเรากับคุณแม่ของน้องรันเองเราพอมีจ่ายค่ะและจะรักษาเจคอปจนหายดี ส่วนเรื่องตำรวจทางเรายินดีและขอบคุณที่จะช่วยตามคนที่ทำเจคอป ขอบคุณค่ะ ยิ่งคุณโพสต์รันยิ่งโดนด่าขอบคุณอีกครั้ง\'
ชัญญ่าจะคอยตามดูห่าง ๆ นะคะ คืนนี้จะบินไปทำธุระเรื่องงานที่เกาหลี ขอทิ้งฝากเรื่องทั้งหมดไว้ที่พี่เก๋ ชลลดา กับ มูลนิธิ The voice พี่เอ็ม buddah bless นะคะ จะคงยังไม่ทิ้งเรื่อง เเต่จะคอยดูอยู่ห่าง ๆ ต่อไปค่ะ ผิดพลาดประการใด ทำไม่ถูกใจใครก็ขอโทษด้วยจริง ๆ ค่ะ สวัสดีค่ะ"

***หมายเหตุ : อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 14.49 น. วันที่ 28 สิงหาคม 2557