เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้
ชาวบ้านแห่ร่วมงานวิวาห์ควายไทย ที่วัดโพธิ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้านคณะจัดงาน เผยว่า ต้องการสืบสานอนุรักษ์สายพันธุ์ควายไทย โดยอาศัยช่วงวันตรุษจีน และวันวาเลนไทน์ ซึ่งถือเป็นฤกษ์ดีในงานจัดงาน
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ผ่านมา นายวิทยา บุรณศิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี, นายเรวัต อัมพวานนท์ นายอำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, นายสุชาติ การลึกสม อายุ 43 ปี นายก อบต.บ้านโพธิ์ และนายกสมาคมผู้บำรุงพันธุ์โคกระบือ จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยนายอิทธิพันธ์ ขาวละมัย ร่วมกันจัดงานวิวาห์ให้กับควายไทย เพื่อสืบสานอนุรักษ์สายพันธุ์ควายไทย ต้อนรับวันแห่งความรัก วันวาเลนไทน์ ที่วัดโพธิ์ ม.4 ต.บ้านแพน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา
โดยพิธีแต่งงานในครั้งนี้เริ่มต้นเมื่อเวลา 09.39 น. ขบวนขันหมากฝ่ายเจ้าบ่าวคือ ใหญ่ เชียงยืน อายุ 23 ปี สูงใหญ่ มีความยาว 2 เมตร เดินทางมาจากจังหวัดลพบุรี มีนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี เป็นเถ้าแก่ ส่วนฝ่ายเจ้าสาว ชื่อทองกวาว อายุ 8 ปี น้ำหนักประมาณ 600 กก. เป็นควายที่เคยตกลูกมาแล้ว 2 ตัว มีนายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา อดีต รมต.กระทรวงสาธารณสุข คอยต้อนรับ ซึ่งจะมีขบวนแห่ขันหมาก มีสินสอดประมาณ 9.9 หมื่นบาท มีคนร่วมขบวนแห่ประมาณ 100 คน เคลื่อนขบวนสินสอด ของหมั้น เข้าสู่บริเวณงาน
จากนั้น นายเรวัต อัมพวานนท์ นายอำเภอเสนา (นายทะเบียน) ตรวจสอบเอกสาร สพ.๑ ทะเบียนสัตว์พาหนะ (ตั๋วรูปพรรณกระบือ) เลี้ยงอาหารกระบือ ทั้งเจ้าบ่าว เจ้าสาว และเพื่อนกระบือ เมื่อมาถึงที่บ้านเจ้าสาว ก็ต้องผ่านประตูเงินประตูทอง เสร็จแล้วก็ทำพิธีรับขวัญ โดยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ ทำการพรมน้ำพระพุทธมนต์ ก่อนส่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอซึ่งตั้งอยู่ที่ฟาร์มโคพันธุ์น้ำเชี่ยวฟาร์ม และชูวิทย์ฟาร์ม เลขที่ 3/2 ม.1 ต.บ้านโพธิ์ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้ ดร.สุรชัย ศรีบุบผา จากวิทยาลัยนาฏศิลป์ลพบุรี พร้อมคณะ ซึ่งเป็นผู้เตรียมชุดเจ้าสาว เปิดเผยว่า เคยตัดชุดให้ช้างที่งานสมเด็จพระนารายณ์อยู่แล้ว ครั้งนี้ได้เตรียมผ้าโขมพัสตร์ ซึ่งเป็นผ้าไทยโบราณ ลายดอก มาเป็นชุดคลุมที่ตัว และจะประดับส่วนหัวและเขาด้วยดอกไม้ ส่วนควายใหญ่เชิงยืนนั้นลำตัวยาวประมาณ 2.50 เมตร ก็จะตกแต่งลักษณะเป็นผ้าขาวม้า
ทางด้าน นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า สถานการณ์ในปัจจุบันประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม นิยมรับประทานเนื้อโค-กระบือ ทำให้ราคาในประเทศเวียดนามกิโลกรัมละ 350 บาท ในไทยราคา 250 บาท จึงมีพ่อค้านำโคกระบือไทยออกไปขายตกวันละ 1,000 ตัว คาดว่าถ้าปล่อยให้นำออกประเทศจำนวนมาก โค-กระบือจะสูญพันธุ์ ลูกหลานคงเห็นแต่รูป จึงอยากวิงวอนให้ทางปศุสัตว์ห้ามนำโค-กระบือตัวเมียออกนอกประเทศ ทางชมรมจึงได้รวมตัวจัดการประกวดโคกระบือขึ้นเพื่ออนุรักษ์ให้เลี้ยงโคกระบือ ซึ่งถือได้ว่าเป็นธุรกิจทางการเกษตรสร้างรายได้อีกทาง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
