เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ผู้ที่เลี้ยงสุนัขอาจจะเคยรู้จักชื่อโรค เชอร์รี่ อาย (Cherry eye) กันมาบ้างแล้ว แต่สำหรับคนที่รู้จักแค่ชื่อ หรือได้ยินแบบผ่าน ๆ หูก็น่าจะทำความรู้จักกับโรคนี้เอาไว้หน่อยก็ดี จะได้หาทางป้องกันเอาไว้ล่วงหน้า และในกรณีที่โรคนี้เกิดขึ้นกับสุนัขของคุณก็จะได้หาทางวิธีรักษาได้อย่างทันท่วงทียังไงล่ะ
โรคเชอร์รี่ อาย คืออะไร
โรคเชอร์รี่ อาย คือ การที่ต่อมน้ำตาซึ่งอยู่ใต้หนังตาชั้นที่สามของสุนัข เกิดการขยายใหญ่ขึ้น และโผล่ยื่นออกมาจากดวงตาของสุนัข ซึ่งส่วนมากจะพบโรคนี้จากสุนัขพันธุ์บูลด็อก ชิวาวา บีเกิ้ล และบาสเซ็ต ฮาวน์ ส่วนสาเหตุของโรคนี้ก็เกิดจากเนื้อเยื่อที่ใช้ยึดต่อมน้ำตาน้อยกว่าปกติ หรือเกิดจากเนื้อเยื่อบริเวณรอบ ๆ ต่อมนี้ไม่แข็งแรงนั่นเอง
อาการของโรคเชอร์รี่ อาย
อาการของโรคนี้สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน โดยคุณจะพบก้อนสีแดงอยู่ที่บริเวณหัวตาของสุนัข ซึ่งสามารถพบได้ทั้งสองข้างของตาสุนัข และมีน้ำตาหรือขี้ตาไหลออกมามากผิดปกติ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาก็จะทำให้สุนัขของคุณเกิดอาการคัน และระคายเคืองตา ซึ่งสุนัขของคุณก็จะเกาหรือขยี้ตาจนกระจกตาขุ่น และเกิดการอักเสบได้ในที่สุด
วิธีการรักษาโรคเชอร์รี่ อาย
1. ยา
เนื่องจากการผ่าตัดอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียง ดังนั้นการใช้ยาจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับเจ้าของที่ไม่อยากให้สุนัขผ่าตัด โดยสัตวแพทย์จะแนะนำให้สุนัขกินยาปฏิชีวนะ และยาแก้อักเสบเพื่อใช้ในการรักษาอาการเบื้องต้น ซึ่งการรักษาด้วยยานั้นเป็นการรักษาที่ให้ผลในระยะสั้น ๆ เท่านั้น และมีโอกาสที่จะเกิดโรคนี้ได้สูงมาก
2. ผ่าตัด
หากอยากจะรักษาให้ได้ผลจริง ๆ การผ่าตัดก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ซึ่งการผ่าตัดแบ่งออกเป็น 2 วิธีคือ การตัดต่อมเนื้อเยื่อออกไป และการผ่าตัด เพื่อขยับต่อมกลับเข้าไปที่ตำแหน่งเดิม ซึ่งทั้งสองวิธีนี้ก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป กล่าวคือ วิธีแรกนั้นจะสามารถรักษาโรคเชอร์รี่ อายได้อย่างถาวร แต่สุนัขก็อาจจะเกิดอาการตาแห้ง และต้องหยอดน้ำตาเทียมบ่อย ๆ ส่วนวิธีที่สองนั้น หลังการผ่าตัดอาจจะไม่ต้องหยอดน้ำตาเทียมก็จริง แต่สุนัขก็อาจจะกลับมาเป็นได้อีก ทั้งนี้การรักษาก็ควรขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของสัตวแพทย์ด้วยนะคะ
ถึงแม้โรคเชอร์รี่ อายจะไม่ใช่โรคอันตรายร้ายแรงอะไร แต่หากพบว่าสุนัขของคุณป่วยเป็นโรคนี้จริง ๆ ก็ควรจะพาสุนัขไปเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด เพราะหากสุนัขของคุณไม่ได้รับการรักษา หรือรักษาผิดวิธีก็อาจจะเกิดอันตรายต่อกระจกตา และระบบประสาทตาได้ ดังนั้นเจ้าของสุนัขทุกท่านก็อย่าลืมใส่ใจ และดูแลสุนัขของคุณอย่างใกล้ชิดด้วยนะคะ
รวมเรื่องสัตว์เลี้ยง ทั้ง สุนัข แมว ปลา ฯลฯ พร้อมวิธีดูแลสัตว์เลี้ยง คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ