เผยค่าดูแลสุนัขท่าแร่ สูงถึงวันละ 50,000 บาท

          สัตวแพทย์เร่งคัดแยก-รักษาสุนัขท่าแร่ที่ป่วยและบาดเจ็บ ด้านกรมปศุสัตว์ เผยจำนวนสุนัขมาก ดันค่าใช้จ่ายพุ่ง 5 หมื่นบาท/วัน ขณะที่ยอดบริจาค 21 ล้านบาท เหลือ 14 ล้านบาท

          จากกรณีที่เจ้าหน้าที่บุกเข้าจับกุมกระบวนการค้าสุนัขข้ามชาติที่ ตำบลท่าแร่ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร และได้นำสุนัขของกลางกว่า 2,000 ตัวขนย้ายไปพักฟื้นที่ด่านกักกันสัตว์บุรีรัยม์นั้น เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา สพ.ธีรพงศ์ ยืนยงโอฬาร สัตวแพทย์ชำนาญการ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตอนนี้ทีมสัตวแพทย์จากกรมปศุสัตว์ได้ระดมเจ้าหน้าที่เร่งคัดแยกสุนัขที่บาดเจ็บและมีอาการท้องร่วงออกจากกัน ทั้งนี้ได้เริ่มมีการทยอยนำสุนัขมารักษาตามอาการเบื้องต้นแล้ว และจะฉีดวัคซีนสุนัขทั้งหมดแบบปูพรม หลังจากนั้นจะเริ่มคัดแยกเพศ สำหรับทำหมัน ส่วนสุนัขท้องแก่ได้แยกไว้ต่างหากแล้ว ซึ่งสุนัขเหล่านี้จะต้องอยู่ในการดูแลของด่านกักสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ต่อไป จนกว่าจะมีผู้นำไปเลี้ยง  เนื่องจากกระบวนการทางกฎหมาย ศาลไม่ได้นำของกลาง มาพิจารณาด้วย


          ด้านนาย ธานินทร์ จุฑาทิพย์ชาติกุล ปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า อาหารเม็ดที่มีอยู่สามารถเลี้ยงสุนัขได้เพียง 1 สัปดาห์ จึงอยากขอรับบริจาค ผ่านมูลนิธิสัตวแพทย์ เพื่อให้ทางมูลนิธิ เป็นผู้ดูแลเงินกองทุน โดยตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงปัจจุบัน มีสุนัขของกลางที่ถูกยึดได้กว่า 2,600 ตัว ส่วนหนึ่งยังอยู่ในความดูแลของด่านกักกันสัตว์นครพนม จุดนี้มียอดเงินบริจาครวม 21,000,000 บาท ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ขณะนี้เหลือเงินบริจาคอีก 14,000,000 บาท

          ขณะที่ นายชูศักดิ์ พงษ์พานิช หัวหน้าด่านกักกันสัตว์นครพนม บอกว่า ตอนนี้จำนวนสุนัขมากขึ้นจำเป็นต้องเบิกเงินกองทุนมาใช้จ่ายวันละ 5 หมื่นบาท และให้คณะกรรมการบริหารจัดการกองทุนคอยตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินเพื่อความโปร่งใสอีกด้วย


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
 


[17 มกราคม] ศาลตัดสินใจจำคุกเจ้าของหมาท่าแร่ 8 เดือน

[16 มกราคม] เร่งช่วยลูกสุนัขท่าแร่ ถูกเหยียบตาย เหตุพื้นที่แออัด
เรียบเรียงข้อมูลโดยระปุกดอทคอม

           เจ้าหน้าที่เร่งขนย้ายสุนัขออกจาก ต.ท่าแร่ เนื่องจากพื้นที่แออัด และสุนัขจำนวนมากเกิดอาการเครียด ด้านสัตวแพทย์ เผย มีลูกหมาเพิ่งคลอดใหม่จำนวนมากส่วนหนึ่งถูกเหยียบตาย ส่วนหนึ่งไม่ได้กินนม เตรียมย้ายลูกสุนัขเข้าคอกอนุบาลแล้ว ขณะที่บรรดาชาวบ้านต่างแห่มาขอลูกสุนัขไปเลี้ยง

           หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมแก๊งค้าสุนัขที่ ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร และทำการยึดสุนัขหลายพันตัวที่คอกพักสุนัข รวมถึงสุนัข 800 ตัวที่กำลังถูกส่งไปขายในประเทศเพื่อนบ้านตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

          ล่าสุดวานนี้ (15 กุมภาพันธ์) เจ้าหน้าที่กว่า 30 นาย ได้เร่งเคลื่อนย้ายสุนัขออกจากคอกสุนัขเป็นวันที่สอง เพื่อส่งต่อไปยังด่านกักกันสัตว์ จ.บุรีรัมย์ เนื่องจากสุนัขตอนนี้อยู่สิ่งแวดล้อมที่แออัด และอยู่ในภาวะเครียด บางตัวไม่ยอมกินอาหาร บางตัวก็ล้มป่วย ทั้งนี้บรรดาชาวบ้านที่ทราบข่าว ก็พากันมาขอสุนัขเพื่อนำไปเลี้ยง โดยมีสัตวแพทย์คอยเช็คสุขภาพและฉีดยาให้ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ได้จดชื่อคนที่ขอนำไปเลี้ยง และรูปพรรณสัณฐานของสุนัขไว้ พร้อมกำชับว่า นำสุนัขไปได้แต่ต้องนำไปเลี้ยงเท่านั้น และห้ามนำไปขาย หรือทารุณเด็ดขาด

         นอกจากนี้ ยังมีเจ้าของสุนัขมาตามหาสุนัขที่หายไปด้วย เช่น นายภิญโญ เพชรรัตน์ อายุ 52 ปี พร้อมลูกชาย ได้ตามหาเจ้าชลสุนัขพันธุ์ไทยเพศเมียสีดำ ที่ถูกแก๊งค้าสุนัขคล้องบ่วง ไปกลางดึกเมื่อกลางเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และทันทีที่นายภิญโญ ทราบข่าวจึงเดินทางมาดู แต่ก็ต้องผิดหวังกลับไป เพราะไม่เจอเจ้าชลสุนัขแสนรัก ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ให้เลือกสุนัขตัวใหม่ไปเลี้ยง แต่นายภิญโญก็ปฏิเสธ

          ด้านนายวิศุทธิ์  เอื้อกิ่งเพชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสกลนคร พร้อมเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสุนัขอย่างใกล้ชิด โดยกล่าวว่า ขณะนี้ได้ใช้สายยางฉีดน้ำเพื่อบรรเทาอาการเครียดของสุนัข และคัดแยกสุนัขที่ไม่แข็งแรงออกจากกลุ่ม พร้อมฉีดยาบำรุงให้ แต่ปัญหาที่พบในขณะนี้คือมีลูกสุนัขเพิ่งคลอดจำนวนมาก ส่วนหนึ่งตายเพราะถูกเหยียบ รวมไปถึงไม่สามารถเดินไปหาแม่เพื่อกินนมได้ เพราะพื้นที่แออัด ทางเจ้าหน้าที่จึงเร่งเข้าไปช่วยเหลือ เพื่อให้ลูกสุนัขอยู่ในพื้นที่คอกอนุบาลที่เตรียมไว้


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

 


[14 มกราคม] ปศุสัตว์เผยสุนัขเหยื่อเปิบเครียด ทยอยตายเรื่อย ๆ


เรียบเรียงข้อมูลโดยระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

          ปศุสัตว์ จ.สกลนคร เผย สุนัขกว่า 4,000 ตัว ทยอยตายเรื่อย ๆ หลังเกิดอาการเครียด และอ่อนเพลียไม่ได้รับอาหาร-น้ำระหว่างขนย้ายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

          สืบเนื่องจากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย บุกเข้าตรวจจับแก๊งค้าสุนัขได้ขณะ เตรียมส่งข้ามแม่น้ำโขงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ในพื้นที่บ้านโนนสำราญ หมู่ 8 ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร โดยพบสุนัขกว่า 4,000 ตัว อีกทั้ง ยังพบโรงชำแหละ และซากสุนัข พร้อมทั้งพบสมุดบัญชีมีเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านนั้น

          ล่าสุด วานนี้ (13 มกราคม) นางวิตยา ประสงค์วัฒนา รอง ผวจ.สกลนคร, นายปราโมทย์ ศรีธรณ์ ปศุสัตว์จังหวัดสกลนคร และนายวิศุทธิ์ เอื้อกิ่งเพชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ ได้นำเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ลงพื้นที่เข้าตรวจดูอาการสุนัขด้วยสายตาและประเมินสุขภาพเบื้องต้น พบว่า สุนัขจำนวนมากมีอาการอ่อนเพลีย เนื่องจากมีการงดให้อาหารและน้ำจากการเตรียมขนย้าย

          ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ จึงยกกรงที่สุนัขถูกจับขัง ระบายสุนัขเข้าไปอยู่ในคอกใหญ่และส่วนหนึ่งนำไปไว้ในกรงเปล่า เพื่อไม่ให้แออัดมากจนเกินไป อย่างไรก็ตาม พบว่าสุนัขส่วนใหญ่ยังแข็งแรง และจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น ทำให้สุนัขไม่เครียด

          ต่อมา นายวิศุทธิ์ได้นำอาหารเลี้ยงสุนัขที่มีผู้บริจาคจำนวนหนึ่งที่มีผู้บริจาคผ่านจังหวัด นำไปเลี้ยงสุนัขระหว่างรอการสั่งจากศาลจังหวัดสกลนคร ก็พบว่า ขณะนี้สุนัขเริ่มมีอาการเครียดแล้ว ส่งเสียงเห่า บางตัวซึมเซา ไม่กินอาหาร ต้องเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องหาอาหารมาดูแลต่อไปตอนนี้ก็เปิดรับบริจาคเพิ่มอยู่ซึ่งคาดว่าอาหารสุนัขที่มีอยู่น่าจะอยู่ได้เพียง 2 วันเท่านั้นหากไม่มีการบริจาคเพิ่มเติม

          นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำสุนัขที่อยู่ในกรงเหล็กออกไปปล่อยให้อยู่ในคอกที่กว้างขวาง สะดวกสบาย ทำให้สุนัขมีโอกาสออกกำลังกาย และส่วนหนึ่งยังมีอาการอิดโรยเพราะถูกขังอยู่ในกรงหลายชั่วโมง ซึ่งจากการสังเกตพบว่ามีสุนัขอ่อนเพลียและตายแล้ว 5 ตัว เนื่องจากมีการทับกัน


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



[13 มกราคม] จับอีก! ทลายคอกสุนัขท่าแร่หลายพันตัว เตรียมขึ้นโต๊ะตรุษจีน


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

          อีกแล้ว! เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมรถบรรทุกขน สุนัข 800 ตัว เตรียมส่งขายทำเมนูตรุษจีน โยงต้นตอพบสุนัขถูกขังอีกหลายพันตัว อัดแน่นอยู่ในกรง นอกจากนี้ยังพบโรงชำแหละ และซากสุนัข พร้อมทั้งพบสมุดบัญชีมีเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้าน ขณะที่เตรียมคุมตัว 11 คนงานส่งฟ้องศาลวันนี้ (13 ม.ค.)

          วานนี้ (12 มกราคม) เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย บุกเข้าตรวจค้นคอกพักสุนัข ในพื้นที่บ้านโนนสำราญ หมู่ 8 ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร และเมื่อไปถึงในจุดดังกล่าว พบสุนัขนับพันตัวถูกขังอยู่ในกรงเตรียมนำส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่คนงานประมาณ 7-8 คนวิ่งหนีการจับกุมกันจ้าละหวั่น

          จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ในโรงเก็บมุงสังกะสีขนาดใหญ่ มีสุนัขถูกขังไว้ประมาณ 3,000 ตัว โดยสภาพสุนัขบางตัวก็มีบาดแผล บางตัวก็มีน้ำตาไหล บางตัวก็เกิดอาการหวาดกลัว สร้างความหดหู่ให้กับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถจับกุมคนงานได้รวมทั้งหมด 11 คน โดยทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพรับจ้างขนสุนัขเท่านั้น

          นอกจากนี้ ยังพบคอกสุนัขในพื้นที่ห่างกันเพียง 50 เมตร เป็นกระต๊อบไม่มีเลขที่ ข้างในมีสุนัขถูกขังไว้ในคอกกว่า  1,500 ตัว  จากการตรวจค้นในกระต๊อบดังกล่าวพบกระเป๋าเดินทาง สมุดบัญชีซื้อขายสุนัข ซึ่งมีวงเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาทเลยทีเดียว

          จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังสำรวจโดยรอบยังพบคอกสุนัขถูกขังอีก 800 ตัว และพบพื้นที่สำหรับชำแหละเนื้อสุนัข, ซากสุนัข รวมถึงรถกระบะที่ใช้ลักลอบบรรทุกสุนัข ซึ่งทางนายไกรราศ แก้วดี ปลัดจังหวัดสกลนคร ได้สั่งการให้นายอำเภอเมืองสกลนคร และเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสกลนคร เข้าตรวจสอบเพื่อกักกันและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป



          ด้านพลตำรวจตรี พลศักดิ์ บรรจงศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดสกลนคร กล่าวว่า จากการจับกุมดังกล่าวในครั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ มีการจับกุมขบวนการลักลอบค้าสุนัขบริเวณชายแดน จ.นครพนม โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมนายปรีชา อุตถะศรี อายุ 37 ปี พร้อมรถบรรทุกสุนัขประมาณ 60 กรง มีสุนัขรวมทั้งหมดประมาณ 800 ตัว เตรียมเตรียมลำเลียงขนส่งลงเรือจอดเทียบริมตลิ่ง ส่งขายส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งนายปรีชารับสารภาพว่า เป็นออร์เดอร์ที่นำไปปรุงอาหารในเมนูช่วงตรุษจีน

          ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จึงมีการสืบเนื่องและขยายผลว่า บ้านโนนสำราญ ต.ท่าแร่ แห่งนี้เป็นพื้นที่กักขังสุนัข และเมื่อเข้าไปตรวจสอบก็ต้องตกตะลึง เพราะไม่คิดว่าจะสุนัขจำนวนมากเช่นนี้ บางตัวบาดเจ็บร้องครวญคราง บางตัวถูกยัดอัดเข้าไปในกรงเพื่อเตรียมเคลื่อนย้ายส่งขาย ตนจึงได้สั่งกานให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้ขยายผลและจับกุมผู้กระทำผิด รวมถึงเจ้าของคอกสุนัขในโทษที่หนักที่สุด เนื่องจากเป็นการทรมานสุนัข และเป็นการกระทำเย้ยกฎหมาย เพราะเจ้าหน้าที่เพิ่งจับกุมแก๊งค้าสุนัขเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งห่างจากที่แห่งนี้เพียง 5 กิโลเมตรเท่านั้น

          ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุดในวันนี้ (13 มกราคม) เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวคนงาน 11 คนไปสอบสวน เพื่อหาเจ้าของนายทุนแล้ว พร้อมกับแจ้งข้อหาเคลื่อนย้ายนำสัตว์ออกนอกเขต ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ และการทรมานสัตว์ เป็นความผิดทางอาญา ซึ่งจะสามารถทำสำนวนคดี ส่งฟ้องศาลได้ภายในวันนี้

          ด้านนายปราโมทย์ ศรีธรณ์ ปศุสัตว์จังหวัดสกลนคร ได้สั่งการให้นายวิศุทธิ์ เอื้อกิ่งเพชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ นำเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือสุนัขแล้ว โดยจากการประเมินสุขภาพของสุนัขเบื้องต้น พบว่าสุนัขมีอาการอ่อนเพลีย เพราะไม่ได้ทานน้ำและอาหาร แต่สุนัขส่วนใหญ่ยังคงแข็งแรงอยู่ เนื่องจากในช่วงนี้สภาพอากาศค่อนข้างหนาวเย็นทำให้สุนัขไม่เครียด ส่วนจะนำสุนัขไปไว้ที่ไหนนั้น ต้องรอคำสั่งของศาลก่อนว่าจะให้ส่งของกลางคือสุนัขทั้งหมดไปให้ปศุสัตว์ดูแลหรือไม่








อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก