รู้จัก สุนัขอเมริกันบูลลี่ หมาหน้าดุแต่ใจดี ขี้เล่น อ่อนโยน ไปทำความรู้จักสุนัขสายพันธุ์นี้ให้มากขึ้นก่อนตัดสินใจเลี้ยงกัน
หน้าตาอาจจจะดูคล้ายกับสุนัขพิตบูล แต่จริง ๆ แล้วสุนัขพันธุ์นี้มีชื่อว่าสุนัขอเมริกันบูลลี่ หน้าตาเหมือนจะดุ แต่จริง ๆ แล้วหากได้รับการฝึกอย่างถูกต้องก็เป็นสุนัขอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่มีความน่ารักไม่เบาเลย ใครที่กำลังสงสัยว่าจริง ๆ พวกมันดุไหม เลี้ยงยากหรือเปล่า วันนี้มีข้อมูลมาฝากค่ะ
ประวัติสุนัขอเมริกันบูลลี่
อเมริกันบูลลี่ (American Bully) เป็นสุนัขสายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐอเมริกา ประมาณช่วงปี 1990 พัฒนาจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างบูลด็อก (Bulldog) และเทอร์เรียหลายสายพันธุ์ เช่น อเมริกันพิตบูล กับอเมริกัน สแตฟฟอร์ดเชียร์ เทอเรียร์ เพื่อสร้างสายพันธุ์สุนัขที่มีความแข็งแรงแต่มีนิสัยที่อ่อนโยนกว่า กระทั่งในปี 2004 The American Bully Kennel Club (ABKC) ได้มีการกำหนดลักษณะมาตรฐานและมีการขึ้นทะเบียนสายพันธุ์อย่างเป็นทางการ
ลักษณะสุนัขอเมริกันบูลลี่
สุนัขอเมริกันบูลลี่หัวใหญ่กว้าง หูสั้น อกกว้าง ลำตัวเห็นกล้ามเนื้อชัดเจน ขนสั้นเป็นมันเรียบ มีทั้งสีน้ำตาล ดำ เหลืองอมน้ำตาล น้ำตาลอมแดง และขาว มีความคล่องแคล่ว แข็งแรง พลังเยอะ อายุเฉลี่ยประมาณ 8-15 ปี แบ่งประเภทตามขนาดและน้ำหนักดังนี้
- Pocket : ความสูง 33-43 เซนติเมตร น้ำหนัก 14-20 กิโลกรัม
- Classic : ความสูง 43-48 เซนติเมตร น้ำหนัก 18-29 กิโลกรัม
- Standard : ความสูง 46-51 เซนติเมตร น้ำหนัก 23-38 กิโลกรัม
- XL : ความสูงตั้งแต่ 51 เซนติเมตรเป็นต้นไป น้ำหนักมากกว่า 38 กิโลกรัม
นิสัยสุนัขอเมริกันบูลลี่
สุนัขอเมริกันบูลลี่ เป็นสุนัขที่มีความอ่อนโยน น่ารัก ร่าเริง กระตือรือร้น ชอบการผจญภัย มีความซื่อสัตย์ กล้าหาญ เชื่อฟัง รักและปกป้องเจ้าของ นอกจากนี้ยังสามารถเข้ากับคนได้ง่ายหากมีการฝึกอย่างถูกต้อง
วิธีเลี้ยงสุนัขอเมริกันบูลลี่
การเลี้ยงอเมริกันบูลลี่ควรเลี้ยงในบ้านที่มีพื้นที่ให้วิ่งเล่นออกกำลังกาย หรือมีเวลาในการพาไปเดินเล่นและทำกิจกรรมต่าง ๆ อีกทั้งควรฝึกให้สุนัขคุ้นเคยกับการเข้าสังคมตั้งแต่ช่วงที่ยังเป็นลูกสุนัข ก็จะช่วยให้เข้ากับคนได้ง่ายและลดความก้าวร้าวลง ส่วนอาหารก็ควรเลือกสูตรอาหารที่มีโภชนาการเหมาะกับแต่ละช่วงวัยและมีสารอาหารในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยให้อาหารวันละ 2 ครั้ง ให้ขนมได้บ้างเป็นครั้งคราว เช่น ให้ขนมเป็นรางวัลในการฝึกพฤติกรรมต่าง ๆ เป็นต้น นอกจากนี้ควรหมั่นแปรงขนเป็นประจำ และอาบน้ำเมื่อสุนัขมีกลิ่นหรือสกปรก แต่ไม่ควรอาบน้ำบ่อยเกินไปเพราะอาจทำให้ผิวแห้งได้
ทั้งนี้ ควรพาไปตรวจสุขภาพประจำปีพร้อมฉีดวัคซีนตามโปรแกรมที่สัตวแพทย์แนะนำ และหมั่นสังเกตอาการโรคที่ควรระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ โรคข้อสะโพกเสื่อม โรคข้ออักเสบ โรคผื่นผิวหนัง โรคหัวใจ ท้องอืด ภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ และโรคที่เกี่ยวกับดวงตา เป็นต้น
สุนัขอเมริกันบูลลี่เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยง เพราะเป็นสุนัขที่ได้รับการพัฒนาให้มีลักษณะและนิสัยที่อ่อนโยนและเป็นมิตรกับคนมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่กำลังจะเลี้ยงก็ควรมีเวลาดูแลพวกมันอย่างเต็มที่และฝึกนิสัยให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันพฤติกรรมก้าวร้าวด้วยนะคะ