รวมสายพันธุ์แมวขนยาว สำหรับทาสแมวที่อยากเลี้ยงแมวขนฟูปุกปุยนุ่มนิ่ม น่ารักจนเห็นแล้วอยากอุ้มมากอด
ถึงแม้ว่าแมวขนยาวจะขึ้นชื่อในเรื่องของการดูแลยากและขนร่วงติดตามเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเจ้าของจำเป็นต้องคอยดูแลขนให้เจ้าเหมียวมากกว่าแมวขนสั้น แต่หากพูดกันถึงในเรื่องของความสวยงามแล้ว คงต้องยอมรับเลยว่าแมวขนยาวนั้นทั้งสง่างามและขนนุ่มฟูน่ากอดจริง ๆ และสำหรับใครที่หลงใหลในเสน่ห์ของแมวที่มีขนยาวสลวย วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับแมวขนยาวสายพันธุ์ต่าง ๆ กัน
ลักษณะแมวขนยาว
แมวขนยาวส่วใหญ่จะเป็นสายพันธุ์แมวที่มีถิ่นกำเนิดในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็น ทำให้มีขนยาวและหนาเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย โดยสิ่งที่แมวขนยาวแตกต่างจากแมวขนสั้นก็คือการดูแลขน ที่เจ้าของจะต้องเอาใจใส่มากกว่าแมวขนสั้น เช่น การแปรงขน ตัดเล็มขน อีกทั้งแมวขนยาวยังมีโอกาสที่จะติดเห็บหมัดได้ง่ายกว่าอีกด้วย นอกจากนี้ก็มักจะพบปัญหาก้อนขนในแมวขนยาวได้บ่อยกว่า โดยถ้าหากพบว่าน้องแมวไอออกมาเป็นก้อนขนมากกว่าสัปดาห์ละครั้ง แนะนำให้พาไปพบสัตวแพทย์
วิธีดูแลแมวขนยาว
ถึงแม้ว่าแมวขนยาวจะสามารถดูแลขนตัวเองได้ตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่เจ้าของก็ควรช่วยดูแลด้วยเพื่อลดปัญหาขนพันกัน ซึ่งอาจทำให้ผิวหนังของน้องแมวระคายเคืองหรือติดเชื้อได้ โดยแนะนำให้เริ่มแปรงขนตั้งแต่ยังเป็นลูกแมว เนื่องจากแมวจะทำความเคยชินกับการถูกแปรงขนได้ง่ายกว่าตอนโตเต็มวัย แต่ควรพยายามแปรงให้เสร็จเร็ว ๆ เพราะอย่างที่รู้กันดีว่าแมวไม่ค่อยจะยอมอยู่นิ่ง ๆ ให้แปรงขนพวกมันนานนัก โดยอาจซื้อชุดอุปกรณ์สำหรับดูแลขนแมวมาใช้ ซึ่งมักจะมีเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อช่วยให้สะดวกต่อการแปรงขนและแก้ปัญหาขนพันกันเป็นก้อนได้ง่ายขึ้น และอย่าลืมแปรงขนในบริเวณที่เข้าถึงยากอย่างเช่นข้อพับหรือใต้ท้องด้วยล่ะ
สายพันธุ์แมวขนยาว
1. ไซบีเรียน (Siberian)
สายพันธุ์แมวป่าดั้งเดิมของประเทศรัสเซีย มาพร้อมกับขนที่หนาถึง 3 ชั้น ประกอบด้วย ขนอ่อน ขนชั้นใน และขนชั้นนอก ไว้ปกป้องตัวเองจากความหนาวเย็น และจะมีการผลัดขนเพื่อให้ขนบางและสั้นลงในช่วงฤดูร้อน นอกจากนี้ยังมีสีและลวดลายที่แตกต่างกันไป ส่วนในเรื่องของนิสัยก็ต้องบอกเลยว่ามีความขี้เล่น ซุกซน ตามสัญชาตญาณของแมวป่า ฉะนั้นหากคิดจะเลี้ยงก็ต้องหมั่นดูแลขนและมีเวลาเล่นกับพวกมันด้วย
2. เปอร์เซีย (Persian)
สายพันธุ์แมวที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดี เพราะเป็นแมวที่นอกจากจะมีขนนุ่มฟูจนทำให้หลายคนหลงรักแล้ว ยังเป็นแมวที่มีมาดท่าทางการเดินสวยงาม อีกทั้งยังเป็นมิตรเข้ากับคนได้ง่าย ปนกับความน่ารักซุกซน แต่อย่างไรก็ดี ควรหมั่นแปรงขนอยู่เสมอ เพื่อให้ขนเรียงตัวสวย ไม่พันกันหรือจับตัวเป็นก้อน
3. เมนคูน (Maine Coon)
หนึ่งในสายพันธุ์แมวที่มีต้นกำเนิดในประเทศสหรัฐอเมริกา มาพร้อมกับขนยาว หนา แน่น แถมมีอุ้งเท้าใหญ่ และหางฟู ๆ เอาไว้ต่อสู้กับอากาศหนาว ๆ อีกทั้งยังมีขนถึง 2 ชั้นด้วยกัน ฉะนั้นสำหรับคนที่คิดจะเลี้ยงละก็ควรหมั่นแปรงขนให้วันละครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ขนพันกัน และยังช่วยให้ขนมีความนุ่มมากขึ้นด้วย
4. แร็กดอลล์ (Ragdoll)
แมวขนปุกปุยที่เกิดจากการผสมระหว่างแมวเบอร์แมนและแมวเปอร์เซีย มาพร้อมความน่านักและจุดเด่นไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะตาสีฟ้าสดใสและแต้มสีบริเวณใบหน้า ดูราวกับตุ๊กตายังไงยังงั้น อีกทั้งยังมีนิสัยเป็นมิตร รักสงบ เข้ากับคนได้ดีทั้งเจ้าของ เด็กเล็ก คนแปลกหน้า และสัตว์อื่น ๆ ด้วย
5. เบอร์แมน (Birman)
สายพันธุ์แมวที่มีต้นกำเนิดไม่ชัดเจนนัก แต่สันนิษฐานกันว่าเป็นการผสมพันธุ์ระหว่างแมวพื้นเมืองของฝรั่งเศสและแมววิเชียรมาศของไทย ดังนั้นนอกจากจะมีสีที่คล้ายกับแมวไทยแล้ว บริเวณอุ้งเท้าทั้ง 4 ข้างยังมีสีขาวคล้ายกับใส่ถุงเท้าอยู่ แถมมีนิสัยน่ารัก เรียบร้อย ไม่ค่อยซุกซน แต่ก็เป็นแมวที่ค่อนข้างขี้อ้อนและติดเจ้าของพอสมควร ส่วนการดูแลขนนั้นแนะนำว่าควรแปรงด้วยที่แปรงขนจากโลหะอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง จะช่วยให้ขนนุ่มฟูน่ากอดสุด ๆ
6. รากามัฟฟิน (Ragamuffin)
แมวที่มีตัวขนาดใหญ่ สามารถพบได้หลากหลายสี ตั้งแต่สีขาวและดำ ไปจนถึงสีน้ำตาลช็อกโกแลต และสีน้ำตาลอ่อนแบบสีของอบเชย รวมทั้งมีลวดลายที่หลากหลาย รากามัฟฟินเป็นแมวที่มีนิสัยค่อนข้างเรียบร้อยและอ่อนโยน สามารถเข้ากับเด็กและสัตว์อื่น ๆ อย่างเช่นสุนัขได้ดี แต่ถ้าปล่อยให้เล่นกับเด็ก ๆ ต้องระวังหน่อย เพราะแมวพันธุ์นี้ไม่ค่อยชอบให้เล่นด้วยแรง ๆ อย่างการดึงหางหรือลำตัว เป็นต้น
7. โซมาลี (Somali)
แมวโซมาลีจะมีเลือดผสมของแมวอะบิสซิเนียน ทำให้มีลักษณะบางอย่างคล้ายกัน โดยทั่วไปจะมีขนหนา ยาว และนุ่ม พร้อมใบหน้าแคบคล้ายแมวเปอร์เซีย นัยน์ตากลมรี มีจุดแต้มที่ใบหู แมวพันธุ์นี้ค่อนข้างมีพลังเหลือล้น สามารถวิ่งเล่นได้ทั้งวัน เข้ากับสัตว์อื่น ๆ ได้ดี และชอบเล่นกับเจ้าของมาก
8. นอร์วีเจียน ฟอเรสต์ (Norwegian Forest Cat)
แมวขนาดใหญที่มีต้นกำเนิดในสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นเดียวกับเมนคูน แต่มีขนหนาแน่นและอุ้งเท้าใหญ่กว่า ที่สำคัญอาจมีอายุยืนได้ถึง 20 ปี และแม้จะมีความเป็นแมวป่า ทว่ากลับเป็นแมวที่มีนิสัยค่อนข้างอ่อนโยน ชอบวิ่งเล่นสำรวจไปรอบ ๆ บ้าน มักจะผูกพันกับเจ้าของ อีกทั้งส่วนใหญ่พวกมันจะสามารถสนุกได้ด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องเอาใจใส่มากนัก
9. เทอร์คิช แองโกร่า (Turkish Angora)
แมวพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดที่ประเทศตุรกี ในช่วงศตวรรษที่ 15 เป็นแมวขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ ขนยาวสลวย สามารถมีขนได้หลากหลายสี และมีลายได้หลายแบบ แต่ที่โดดเด่นที่สุดมักจะเป็นสีขาวล้วน หูตั้ง ตากลมรี ขาด้านหลังสูงกว่าขาหน้า มีนิสัยค่อนข้างเงียบ แต่ก็ขี้เล่น น่ารัก และซื่อสัตย์ ชอบใช้เวลาอยู่กับเจ้าของ
10. หิมาลายัน (Himalayan)
แมวพันธุ์นี้เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างเปอร์เซียและวิเชียรมาศ มีรูปร่างหน้าตาและขนยาวเหมือนแมวเปอร์เซีย แต่มีแต้มสีแบบแมววิเชียรมาศ นัยน์ตากลมสีน้ำเงินหรือฟ้า หูและจมูกสั้น ที่หูจะมีขนยาวห้อยย้อยลงมา มีนิสัยน่ารักและขี้เล่น ชอบใช้เวลาอยู่กับคน พวกมันไม่ค่อยต้องการสิ่งใดมากไปกว่าความรักความเอาใจใส่จากเจ้าของ
หลังจากที่ได้รู้จักกับแมวขนยาวทั้ง 10 สายพันธุ์กันไปแล้ว ใครที่รู้สึกถูกชะตากับเจ้าเหมียวพันธุ์ไหนเป็นพิเศษก็หามาเลี้ยงกันได้เลย และอย่าลืมให้ความรักความเอาใจใส่น้องแมวกันให้ดี ๆ ด้วยนะคะ