อาหารแบบเปียกดีต่อสุขภาพแมวอย่างไร
เพราะในอาหารเปียกมีคุณประโยชน์จากสารอาหารที่จำเป็นต่อแมวหลากหลายชนิด มีความน่ากินกว่าอาหารเม็ด และมีปริมาณน้ำสูงกว่าอาหารเม็ด ทำให้แมวได้รับน้ำเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนิ่ว โรคไต หรือโรคที่เกี่ยวกับระบบขับถ่าย โดยเฉพาะแมวที่กินน้ำน้อย บวกกับกลิ่นหอม ๆ ที่โดนใจ และมีรสชาติให้เลือกหลากหลาย จึงเป็นตัวช่วยกระตุ้นให้แมวกินอาหารได้มากขึ้นนั่นเอง
สารอาหารใดบ้างที่แมวต้องการ
1. โปรตีน
เนื่องจากแมวเป็นสัตว์กินเนื้อ มีความเป็นนักล่า โปรตีนที่ได้จากอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เช่น ไก่ และปลาต่าง ๆ อย่างปลาทูน่า จึงถือเป็นสารอาหารสำคัญอันดับต้น ๆ มีกรดอะมิโนจำเป็นต่อร่างกาย ช่วยเสริมสร้างอวัยวะและเนื้อเยื่อ บำรุงกระดูก กล้ามเนื้อ ผิวหนัง และขน ให้แข็งแรงขึ้น
2. ไขมัน
3. คาร์โบไฮเดรต
4. น้ำ
ในแต่ละวันแมวมักจะได้รับน้ำเข้าสู่ร่างกายน้อยกว่าที่คิด ทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบขับถ่าย โดยเฉพาะการเป็นนิ่ว น้ำจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับร่างกายแมวที่จะเข้าไปช่วยขับถ่ายกำจัดของเสียหรือสารพิษ เพิ่มการเผาผลาญสารอาหาร รักษาอุณหภูมิในร่างกายให้คงที่ และดูดซึมสารอาหารอย่างเหมาะสม
5. วิตามิน
นอกจากนี้แมวจำเป็นต้องได้รับวิตามินต่าง ๆ ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อช่วยบำรุงให้แมวแข็งแรงและมีสุขภาพดี ซึ่งส่วนใหญ่มักจะได้มาจากการสังเคราะห์จากวัตถุดิบในอาหาร ยกตัวอย่างเช่น
-
วิตามิน A : ช่วยบำรุงสายตาและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
-
วิตามิน D : ช่วยปรับสมดุล รักษาแคลเซียมและฟอสฟอรัสในร่างกาย
-
วิตามิน B1 : ช่วยเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต กระตุ้นการเจริญเติบโตและการทำงานของระบบประสาท
-
วิตามิน B2 : ช่วยเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน เป็นพลังงาน ทำให้ร่างกายนำออกซิเจนไปใช้ได้
-
วิตามิน B3 : ช่วยบำรุงระบบประสาท ระบบทางเดินอาหาร และผิวหนัง ให้แข็งแรง
- วิตามิน B6 : ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันและเม็ดเลือดแดง
6. แร่ธาตุ
แร่ธาตุมีส่วนช่วยในการสร้างเอนไซม์ ปรับสมดุล pH ความเป็นกรด-ด่างในร่างกาย ดูดซึมสารอาหาร และเคลื่อนย้ายออกซิเจน ซึ่งแร่ธาตุที่จำเป็น ได้แก่
-
เหล็ก : พบในตับ ปลา เนื้อไม่ติดมัน ธัญพืช และพืชตระกูลถั่ว
-
แคลเซียม : พบในไข่ ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม กระดูก และพืชตระกูลถั่ว
-
แมกนีเซียม : พบในจมูกข้าวสาลี ธัญพืช ถั่วเหลือง นม และปลา
-
ทอรีน : พบในเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อแกะ เนื้อไก่ ตับ ปลาทูน่า ไข่ หอย สาหร่ายทะเล และนม
-
พรีไบโอติก : พบมากในผักและผลไม้ เช่น เมล็ดธัญพืช แอปเปิล กล้วย หน่อไม้ฝรั่ง หอมหัวใหญ่ กระเทียม เป็นต้น
วิธีเลือกซื้ออาหารแมวแบบเปียก
ทาสหลายคนมักจะกุมขมับทุกครั้งที่ต้องเปลี่ยนอาหาร หรือแม้แต่ทาสมือใหม่ก็ต้องปวดหัวไม่น้อยที่ต้องซื้ออาหารเปียกสำหรับแมว เลือกแบบไหนดี สูตรไหนถึงจะเหมาะกับเจ้านาย อาจเริ่มต้นได้ดังนี้
-
มองหาสูตรอาหารที่ตรงกับช่วงอายุ สุขภาพ หรือไลฟ์สไตล์ของแมว ซึ่งส่วนใหญ่จะระบุไว้บนผลิตภัณฑ์อยู่แล้ว
-
เมื่อได้สูตรที่ต้องการแล้วก็อ่านฉลากให้เข้าใจ ดูวัตถุดิบและส่วนประกอบสำคัญ ๆ โดยเฉพาะประเภทของเนื้อสัตว์ หากจะให้ดีควรเป็นเนื้อปลาหรือเนื้อไก่
-
ตามมาด้วยการดูที่สัดส่วนและคุณค่าทางโภชนาการ ว่าเพียงพอกับความต้องการของร่างกายและมีสารอาหารครบถ้วนหรือไม่ เช่น โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และแร่ธาตุ
นอกจากเรื่องของสูตรและส่วนผสมของอาหารที่ต้องคำนึงเป็นพิเศษแล้ว การเลือกแบรนด์ที่ได้มาตรฐานและเป็นที่นิยมในวงกว้าง ก็เสมือนเป็นการการันตีคุณภาพและความน่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่งด้วย
1. เน็กโกะ (Nekko)
ภาพจาก Nekko
แบรนด์อาหารแมวแบบเปียกเกรดพรีเมียมที่ดีต่อใจทั้งคนทั้งเหมียว โดดเด่นเรื่องสารอาหารครบถ้วน คุณภาพครบครัน มีประโยชน์ต่อสุขภาพเจ้าตัวเล็กโดยตรง ผลิตจากปลาทูน่าเนื้อขาวแท้และเนื้อไก่สดคุณภาพดี ไร้สีสังเคราะห์และวัตถุกันเสีย อุดมไปด้วย กลูโคซามีน บำรุงกระดูกและข้อต่อ สารสกัดจากยัคคา (yucca) ช่วยกำจัดเชื้อโรคในลำไส้ และน้ำมันคริลล์ บำรุงขนพร้อมต้านอนุมูลอิสระ และยังมีสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นกับน้องแมว อย่าง ทอรีน พรีไบโอติก และวิตามินอี ทำให้แมวอิ่มอร่อยได้อย่างสบายใจ ร่างกายสดใสแข็งแรง โชว์ขนสวยเงางาม มีออร่า และสุขภาพดีได้ทุกวัน
โดยสูตรแนะนำสำหรับแมวอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป คือ เน็กโกะ โกลด์ (Nekko Gold) มีให้เลือกทั้งแบบซอง 70 กรัม (6 รสชาติ) และแบบกระป๋อง 85 กรัม (8 รสชาติ) ได่แก่
- ปลาทูน่าในน้ำเกรวี่
- ปลาทูน่าหน้าหอยเชลล์ในน้ำเกรวี่
- ปลาทูน่าหน้าปลาแซลมอนในน้ำเกรวี่
- ปลาทูน่าหน้าเนื้อไก่ในเยลลี่
- ปลาทูน่าหน้าปลาค็อดในเยลลี่
- ปลาทูน่าหน้าปลาโออบแห้งในเยลลี่
นอกจากนี้อาหารแมวแบบเปียก Nekko ยังมีสูตรอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Nekko Kitten ที่เป็นเนื้อมูส เนียนละเอียด เหมาะสำหรับลูกแมวอายุ 1 เดือนขึ้นไป Nekko Senior 7+ ที่มีเนื้อปลาทูน่าชิ้นเล็ก ๆ เคี้ยวง่าย เหมาะสำหรับแมวสูงอายุ 7 ปีขึ้นไป ทั้งยังมีท็อปปิ้งให้เลือกหลากหลาย เช่น ปลาข้าวสาร ปลาทรายแดง ปูอัด ซีฟู้ด ชีส สาหร่าย และไข่ตุ๋น เป็นต้น เรียกว่าตอบโจทย์ความอร่อย มีให้เลือกหลายสูตร เจ้าเหมียวอร่อยได้ไม่ซ้ำ แถมยังมาพร้อมด้วยคุณภาพสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ครบถ้วนแบบเน้น ๆ จริง ๆ บอกเลยต้องหามาลอง !!!
2. มีโอ (Me-O)
ภาพจาก perfectcompanion.com
อาหารแมวแบบเปียก มีโอ ดีไลท์ สูตรปลาทูน่าและไก่ฉีกในเยลลี่ ขนาด 70 กรัม เหมาะสำหรับแมวโต 1 ปีขึ้นไป ผลิตจากเนื้อปลาทูน่าแท้ มีทอรีนช่วยบำรุงสายตา ไบโอตินและสังกะสี ช่วยบำรุงขนและผิวหนัง และยังมีวิตามินซี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบคุ้มกันอีกด้วย เนื้อสัมผัสนุ่ม แน่น มีความชุ่มฉ่ำจากน้ำเกรวี่
3. โรยัล คานิน (Royal Canin)
ภาพจาก royalcanin
4. เพียวริน่า เฟลิกซ์ (Purina Felix)
ภาพจาก purinaone.co.th
5. วิสกัส (Whiskas)
ภาพจาก whiskas.co.th
เรียกได้ว่าอาหารแมวแต่ละสูตรได้รับการคิดค้นและคัดสรรวัตถุดิบมาอย่างพิถีพิถันสุด ๆ สมกับเป็นแบรนด์อาหารแมวเกรดพรีเมียมจริง ๆ หากใครอยากให้เจ้าเหมียวของตัวเองขนสวยเงางาม สุขภาพแข็งแรง อยู่อย่างแฮปปี้กับทาสไปได้นาน ๆ ก็อย่าลืมพิจารณารายละเอียดต่าง ๆ ให้ครบถ้วน แล้วเลือกสูตรที่ใช่ให้เหมาะกับแมวของตัวเองกันนะคะ