คุณป้า เลี้ยงหมากว่า 1,300 ตัว สุดสงสาร เห็นตัวไหนถูกทิ้งข้างทาง ช่วยเก็บมาดูแล แม้ตอนนี้ต้องใช้เงินมาก และต้องย้ายที่อยู่ต่อเนื่อง ยังคงเดินหน้ามอบความเมตตา ดูแลสัตว์จร
วันที่ 8 ธันวาคม 2563 สำนักข่าวเอเอฟพี เผยรายงานเรื่องราวของ นางเหวิน จุนหง หญิงชาวจีนจากเมืองฉงชิ่ง
ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ
ที่ได้เปิดบ้านให้เป็นที่อาศัยของสุนัขจำนวนกว่า 1,300 ตัว
และแมวอีกเป็นร้อยตัว ซึ่งเธอตัดสินใจรับพวกมันมาเลี้ยงดูด้วยตัวเอง
เหตุจากความสงสารบรรดาสัตว์ที่ถูกคนใจร้ายนำมาทิ้งไว้ตามข้างถนน
โดยจุดเริ่มต้นของการแบ่งปันบ้านให้สัตว์จรเหล่านี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อน ตอนที่นางเหวินเก็บสุนัขพันธุ์ปักกิ่งมาจากข้างถนน ภายหลังเจ้าของเดิมนำมาปล่อยทิ้งไว้ เธอเลี้ยงดูเจ้าตูบตัวนี้และตั้งชื่อให้ว่า เหวินจิง
อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้หยุดแค่การรับเหวินจิงมาเลี้ยงแค่ตัวเดียว ไม่ว่าครั้งไหนก็ตามที่เธอพบเห็นสุนัขจรจัดตามถนน นางเหวินก็อดไม่ได้ที่จะนำตัวมันกลับมาเลี้ยงที่บ้าน แถมเมื่อเวลาผ่านไปก็เริ่มจะมีคนที่นำเอาสัตว์เลี้ยงของตัวเอง มาทิ้งบริเวณหน้าบ้านของเธอ เพื่อให้เธอช่วยดูแลสัตว์เหล่านั้นต่อ
กระทั่งตอนนี้ ภายในบ้าน 2 ชั้นของนางเหวิน เต็มไปด้วยกรงสัตว์ที่วางซ้อนเรียงรายอยู่ทุกห้องในบ้าน โดยนอกจากสุนัข 1,300 ตัว เธอยังเผื่อแผ่ความเมตตา ในการเลี้ยงแมวไว้อีก 100 ตัว ม้า 4 ตัว ตลอดจนกระต่ายและนกอีกหลายตัวด้วยกัน
นางเหวิน เผยถึงแรงกระตุ้นที่ทำให้เธอเลือกจะเก็บสัตว์จรจัดมาเลี้ยง ชี้ว่า เธอเป็นกังวลอย่างมากเกี่ยวกับชะตากรรมที่พวกมันต้องเผชิญบนท้องถนน นับตั้งแต่เรื่องอุบัติเหตุ ไปจนถึงการถูกจับไปขายในตลาดค้าเนื้อ
"เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดูแลสุนัขเหล่านี้ค่ะ เราแต่ละคนควรให้ความเคารพต่อชีวิต โลกใบนี้ไม่ใช่ที่สำหรับมนุษย์เท่านั้น แต่ยังเป็นที่สำหรับสัตว์ทุกตัว" นางเหวิน กล่าว
อนึ่ง
ในอดีตการเลี้ยงสัตว์ถูกมองว่าเป็นงานอดิเรกของชนชั้นกลาง
จนกระทั่งเวลาผ่านไปมุมมองเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์ในจีนก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
มีคนนิยมเลี้ยงสัตว์กันมากขึ้น
แต่ถึงอย่างนั้นจีนก็ยังคงไม่มีกฎหมายคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์
ทำให้ท้ายที่สุดก็มีสัตว์เลี้ยงจำนวนไม่น้อยถูกทิ้ง
และมีสุนัขกับแมวจรในจีนจำนวนมากหลายสิบล้านตัว
ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ต่าง ๆ ในจีน ก็ยังต้องเผชิญความกดดันจากสัตว์จรจัดที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการดูแลสัตว์ต่าง ๆ เพราะนอกจากการดูแลด้านอาหาร ที่อยู่ ก็ยังมีค่ายาและวัคซีนที่ทางศูนย์ฯ ต้องรับผิดชอบด้วย
ในขณะที่ นางเหวินซึ่งเปิดบ้านให้เป็นที่อยู่ของสัตว์จำนวนมากขนาดนี้ ก็เคยเผชิญปัญหามาไม่น้อย เธอต้องขายอพาร์ตเมนต์ที่มี กู้เงินอีกร่วม 60,000 หยวน หรือราว 275,000 บาท เพื่อนำเงินมาใช้ดูแลสัตว์ในบ้าน นอกจากนี้ยังอาศัยเงินบำนาญและเงินออมที่สะสมไว้จากการทำงานก่อนหน้านี้ด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น เธอได้ย้ายที่อยู่มาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากได้รับคำร้องเรียนจากเพื่อนบ้าน ที่บังคับให้เธอต้องนำสัตว์ในบ้านย้ายออกไปหาที่อยู่ใหม่
กระทั่งปัจจุบัน เธออาศัยอยู่ในบ้าน 2 ชั้นที่ตั้งอยู่บริเวณเนินเขา มีการทำรั้วล้อมรอบบริเวณสวนของบ้าน โดยชีวิตในแต่ละวันของนางเหวินจะเริ่มตั้งแต่ตี 4 ที่เธอต้องตื่นขึ้นมาทำความสะอาดถาดใส่ของเสียจากสัตว์ ราว 20-30 ถาด จากนั้นก็จะนำข้าว 500 กิโลกรัม เนื้อ และผัก มาปรุงเพื่อทำเป็นอาหารสัตว์
ขยะที่เกิดจากสัตว์เหล่านี้จะถูกนำมาเผา
จากนั้นนางเหวินก็จะปล่อยให้สุนัขจำนวนหนึ่ง วิ่งเล่นไปรอบ ๆ บ้าน
ขณะที่พิตบูลจะถูกล่ามโซ่ไว้ที่ประตูหลังบ้าน
เพื่อให้คอยขู่คำรามและเห่าใส่คนแปลกหน้า
"บางคนบอกว่า ฉันเป็นโรคจิต" นางเหวิน กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้จะต้องเผชิญความลำบากและความไม่เข้าใจจากผู้คนมากแค่ไหน นางเหวินก็ยังเลือกที่จะเดินหน้าทำบ้านให้เป็นสวรรค์สำหรับสุนัข และจะยังคงรับสัตว์มาเลี้ยงเพิ่มเติม หากได้รับคำขอหรือพบเห็นสัตว์จรที่น่าสงสาร
ขอบคุณข้อมูลจาก AFP
โดยจุดเริ่มต้นของการแบ่งปันบ้านให้สัตว์จรเหล่านี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อน ตอนที่นางเหวินเก็บสุนัขพันธุ์ปักกิ่งมาจากข้างถนน ภายหลังเจ้าของเดิมนำมาปล่อยทิ้งไว้ เธอเลี้ยงดูเจ้าตูบตัวนี้และตั้งชื่อให้ว่า เหวินจิง
อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้หยุดแค่การรับเหวินจิงมาเลี้ยงแค่ตัวเดียว ไม่ว่าครั้งไหนก็ตามที่เธอพบเห็นสุนัขจรจัดตามถนน นางเหวินก็อดไม่ได้ที่จะนำตัวมันกลับมาเลี้ยงที่บ้าน แถมเมื่อเวลาผ่านไปก็เริ่มจะมีคนที่นำเอาสัตว์เลี้ยงของตัวเอง มาทิ้งบริเวณหน้าบ้านของเธอ เพื่อให้เธอช่วยดูแลสัตว์เหล่านั้นต่อ
กระทั่งตอนนี้ ภายในบ้าน 2 ชั้นของนางเหวิน เต็มไปด้วยกรงสัตว์ที่วางซ้อนเรียงรายอยู่ทุกห้องในบ้าน โดยนอกจากสุนัข 1,300 ตัว เธอยังเผื่อแผ่ความเมตตา ในการเลี้ยงแมวไว้อีก 100 ตัว ม้า 4 ตัว ตลอดจนกระต่ายและนกอีกหลายตัวด้วยกัน
นางเหวิน เผยถึงแรงกระตุ้นที่ทำให้เธอเลือกจะเก็บสัตว์จรจัดมาเลี้ยง ชี้ว่า เธอเป็นกังวลอย่างมากเกี่ยวกับชะตากรรมที่พวกมันต้องเผชิญบนท้องถนน นับตั้งแต่เรื่องอุบัติเหตุ ไปจนถึงการถูกจับไปขายในตลาดค้าเนื้อ
"เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดูแลสุนัขเหล่านี้ค่ะ เราแต่ละคนควรให้ความเคารพต่อชีวิต โลกใบนี้ไม่ใช่ที่สำหรับมนุษย์เท่านั้น แต่ยังเป็นที่สำหรับสัตว์ทุกตัว" นางเหวิน กล่าว
ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ต่าง ๆ ในจีน ก็ยังต้องเผชิญความกดดันจากสัตว์จรจัดที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการดูแลสัตว์ต่าง ๆ เพราะนอกจากการดูแลด้านอาหาร ที่อยู่ ก็ยังมีค่ายาและวัคซีนที่ทางศูนย์ฯ ต้องรับผิดชอบด้วย
ในขณะที่ นางเหวินซึ่งเปิดบ้านให้เป็นที่อยู่ของสัตว์จำนวนมากขนาดนี้ ก็เคยเผชิญปัญหามาไม่น้อย เธอต้องขายอพาร์ตเมนต์ที่มี กู้เงินอีกร่วม 60,000 หยวน หรือราว 275,000 บาท เพื่อนำเงินมาใช้ดูแลสัตว์ในบ้าน นอกจากนี้ยังอาศัยเงินบำนาญและเงินออมที่สะสมไว้จากการทำงานก่อนหน้านี้ด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น เธอได้ย้ายที่อยู่มาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากได้รับคำร้องเรียนจากเพื่อนบ้าน ที่บังคับให้เธอต้องนำสัตว์ในบ้านย้ายออกไปหาที่อยู่ใหม่
กระทั่งปัจจุบัน เธออาศัยอยู่ในบ้าน 2 ชั้นที่ตั้งอยู่บริเวณเนินเขา มีการทำรั้วล้อมรอบบริเวณสวนของบ้าน โดยชีวิตในแต่ละวันของนางเหวินจะเริ่มตั้งแต่ตี 4 ที่เธอต้องตื่นขึ้นมาทำความสะอาดถาดใส่ของเสียจากสัตว์ ราว 20-30 ถาด จากนั้นก็จะนำข้าว 500 กิโลกรัม เนื้อ และผัก มาปรุงเพื่อทำเป็นอาหารสัตว์
"บางคนบอกว่า ฉันเป็นโรคจิต" นางเหวิน กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้จะต้องเผชิญความลำบากและความไม่เข้าใจจากผู้คนมากแค่ไหน นางเหวินก็ยังเลือกที่จะเดินหน้าทำบ้านให้เป็นสวรรค์สำหรับสุนัข และจะยังคงรับสัตว์มาเลี้ยงเพิ่มเติม หากได้รับคำขอหรือพบเห็นสัตว์จรที่น่าสงสาร