เพจพิพิธภัณฑ์ แจงดราม่าทีมงานยืนยิ้มหน้ากระดูก เตี้ย มช. โดนฉะเหมือนดีใจที่เตี้ยตาย ยืนยัน ภาพทีมงานยืนยิ้ม ไม่ใช่ดีใจ แต่ภูมิใจในผลงานที่สมบูรณ์ที่สุดในช่วงการทำงาน
ยังคงเป็นประเด็นที่เหล่าคนรักสัตว์เฝ้าติดตามอย่างต่อเนื่อง สำหรับคดี เตี้ย มช. หมาเซเลบชื่อดังในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
หลังการชันสูตรรอบแรกถูกเปิดเผยออกมา จนนำมาสู่การประกอบโครงกระดูกของเตี้ย
และจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์กายวิภาคและพยาธิวิทยาทางสัตวแพทย์
คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เพื่อให้นักศึกษาและประชาชนทั่วไปได้เข้าชมและเรียนรู้ ตั้งแต่วันที่ 15
พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ทว่า ความคืบหน้าของคดีนี้ ทางเพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT ซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีในการเอาผิดผู้กระทำผิดกับเตี้ย
ออกมาเผยถึงเอกสารผลการชันสูตรรอบ 2 ที่ทางคณะสัตวแพทยศาสตร์ มช.
ทำเอกสารชี้แจงเป็นการภายใน ระบุว่า
การชันสูตรซากพบว่าหลังมีการเลาะเนื้อเยื่อ
ทำให้พบรอยแตกของกระดูกหลายชิ้นของกระดูกกะโหลกส่วนท้ายทอย
จากที่ผลชันสูตรรอบแรกอ้างว่าไม่พบการแตกของกะโหลก
ทำให้เชื่อว่าคดีนี้ทำเป็นกระบวนการ ส.ต.ท. ไม่ได้ทำคนเดียวแน่นอน
จากกระแสข่าวนี้เผยแพร่ออกไป
ทำให้เกิดดราม่าตามมาอีกระลอกในกลุ่มคนรักสัตว์บางคน
ที่ตามขุดภาพเจ้าหน้าที่ห้องพิพิธภัณฑ์ยืนยิ้มถ่ายรูปคู่กับโครงกระดูกพี่เตี้ย
พร้อมด่าทอไปยังบุคคลในภาพประมาณว่า ไม่ปลื้มกับรอยยิ้มนี้
ดูแล้วหดหู่ใจมากกว่า ไม่ใช่เวลามาภาคภูมิใจผลงาน เหมือนดีใจที่พี่เตี้ยตาย
เป็นการยิ้มที่ไม่ถูกกาลเทศะ
รวมถึงวิจารณ์กรณีที่พยายามบิดเบือนผลชันสูตรรอบแรก
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด (14 มิถุนายน 2563) ทางเพจเฟซบุ๊ก CMU Vet Ana Path Museum พิพิธภัณฑ์กายวิภาคและพยาธิวิทยาทางสัตวแพทย์ ได้ออกมาชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับประเด็นนี้ ในนามของทีมงานห้องพิพิธภัณฑ์ ไม่ใช่ในนามของสัตวแพทยศาสตร์ แบ่งเป็น 3 ข้อ ดังนี้
1. ห้องพิพิธภัณฑ์มีหน้าที่ในการจัดทำกระดูกสัตว์ รวมถึงตัวอย่างทางกายวิภาคอื่น ๆ ทุกชนิด ที่ได้รับมาจากเจ้าของ โดยพิจารณาลำดับในการทำ จากความเร่งด่วนในการใช้งาน ซึ่งเคสของพี่เตี้ย หลังเสร็จสิ้นกระบวนการชันสูตรแล้ว และได้รับความยินยอมจากผู้ดูแลเพจเตี้ย มช. ในขณะนั้น โดยสภาพที่ได้รับคือ เน่า ดังนั้น จึงควรต้องรีบทำ
2. กรณีกล่าวว่าทีมงานยิ้มตอนถ่ายรูป ขอชี้แจงว่าที่ยิ้มคือ ทีมงานไม่ใช่ยิ้มเพราะ พี่เตี้ยตาย เรายิ้มด้วยความภูมิใจที่สามารถทำกระดูกของพี่เตี้ยให้สมบูรณ์ที่สุด เพราะเราเชื่อว่าต้องมีคนจำนวนมากมาเที่ยวชมกระดูกพี่เตี้ย เราอยากบอกให้ทราบว่า กระดูกของพี่เตี้ยเป็นกระดูกสุนัขที่ต่อขึ้นมาสมบูรณ์ และดีที่สุดในบรรดากระดูกสุนัขกว่าร้อยตัวที่ทำมาตลอดเวลากว่ายี่สิบปี เพราะทีมงานรักพี่เตี้ย มช. ไม่ต่างกับคนส่วนมาก ดังนั้น อยากให้ทุกคนที่เห็นภาพถ่ายเข้าใจว่า เรายิ้มด้วยความภูมิใจในผลงานที่สมบูรณ์ที่สุดตั้งแต่ทำมา โปรดเข้าใจเราด้วย
3. กรณีกล่าวว่าเราทำกระดูกเร็วเพราะต้องการทำลายหลักฐาน โปรดใช้สมองคิดนิดหนึ่งว่า ถ้าเราต้องการทำลายหลักฐาน เผาทิ้งไปเลยไม่ดีกว่าหรือ แล้วตั้งแต่นำเข้ามาอยู่ในห้องพิพิธภัณฑ์ เราไม่เคยห้ามไม่ให้ใครเข้าชม ไม่เคยห้ามถ่ายรูป ใครอยากมาดูเชิญ ใครอยากมาทำข่าวเชิญ แล้วอย่างนี้จะเรียกว่าทำลายหลักฐานหรือ คิดให้ดี
สุดท้ายนี้ ทางพิพิธภัณฑ์ขอแจ้งให้ทราบว่าเราทำงานภายใต้หน้าที่คือ "จัดแสดงตัวอย่างทางกายวิภาคและพยาธิวิทยาให้แก่ประชาชนทั่วไป นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่สนใจ โดยยึดในหลักวิชาการที่ถูกต้อง และการทำงานด้วยความเสียสละมาโดยตลอด ทำเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่คนทั่วไป"
ดังนั้น การวิจารณ์ขอให้ท่านทำในขอบเขตที่พึงกระทำ และหากท่านวิจารณ์พาดพิงจนก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล เราจะดำเนินการฟ้องตามสิทธิ์ที่เรามี เราเองก็ได้เก็บทุกการวิจารณ์ไว้เป็นหลักฐานแล้ว