คดีเตี้ย มช. ไม่จบง่าย ๆ ส.ต.ท. ผู้ต้องหายืนกรานปฏิเสธ พบคำให้การย้อนแย้งกับผลชันสูตร ความสูงของจักรยานยนต์ น้อยกว่าตัวสุนัข ไม่น่ากลิ้งไปให้ล้อทับได้ - แฉแชตผู้ต้องหา ตีหน้าซื่อหลอกล้วงข้อมูล ก่อนก่อเหตุ แถมบอกจะช่วยค้นหา
วันที่ 19 พฤษภาคม 2563 เฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT เผยความคืบหน้าคดีการตายของ เตี้ย มช. สุนัขในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ตอนนี้ได้เข้าแจ้งความกับผู้ต้องหาแล้วคือ ตำรวจยศ ส.ต.ท. นายหนึ่ง แต่คดีไม่ง่ายอย่างที่คิด เนื่องจากผู้ต้องหายังยืนกรานปฏิเสธ พร้อมเปิดความยากในกระบวนการสืบสวน ดังนี้...
1. อยู่ระหว่างการสอบสวนพยานบุคคลอีกหลายคนที่เป็นผู้พบเห็น ได้ยินเสียง ประกอบหลักฐานกล้องวงจรปิด
2. อยู่ระหว่างการนัดหมายสอบสวนทีมสัตวแพทย์ผู้ชันสูตร ประกอบผลชันสูตร และงานสืบสวนที่รวบรวมได้
3. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ ตรวจสอบหลักฐานคราบเลือดที่คาดว่าใช้รถจักรยานยนต์พุ่งเข้าชนอย่างแรงไว้เรียบร้อยแล้ว และเตรียมตรวจคราบเลือดในบริเวณที่ผู้ต้องหาใช้เป็นจุดก่อเหตุ
4. อยู่ระหว่างการประสานกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เพื่อตรวจสอบ และดึงข้อมูลจากเฟซบุ๊กของผู้ต้องหาที่ปิดไปแล้ว
5. WDT ร้องขอให้ประชาชนทั่วไป นักศึกษา มช. คนรักพี่เตี้ย หรือผู้ที่สนิทสนมกับพี่เตี้ย ติดต่อเข้ามาทางอินบ็อกซ์ WDT ยืนยันความประสงค์และสมัครใจเข้าร่วมให้ปากคำเป็นพยานแวดล้อม กับทาง WDT และพนักงานสอบสวน ในฐานะความคิดเห็นและตรรกะของวิญญูชน เกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้
- ท่านั่งรถของพี่เตี้ย ไม่ว่าจะเป็นท่าไหน นอนหรือยืน พี่เตี้ยก็จะรอให้รถหยุดสนิทก่อนจึงจะลง หรือต่อให้พี่เตี้ยจะกระโดดลง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะม้วนตัวเป็นก้อนกลม กลิ้งกลับเข้าไปให้ถูกล้อหลังทับหัวและท้ายร่าง 2 จุดในล้อเดียว เพราะผลชันสูตรของพี่เตี้ยมีทั้งกะโหลกแตกและช่วงล่างแตก รวมถึงกระเพาะปัสสาวะและม้ามฉีกขาด
- จำลองเหตุการณ์ลักษณะรถของผู้ก่อเหตุ เป็นข้อมูลจากบริษัทผู้ผลิต ใต้ท้องรถสูงเพียง 132 มิลลิเมตร หรือ 13.2 เซนติเมตร เมื่อเทียบกับขนาดร่างกายของพี่เตี้ยแล้ว ไม่น่าเป็นไปได้ที่จะเข้าไปใต้ท้องรถ และทิศทางการกระดอน ย้อนแย้งกับทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์แบบ 360 องศา
นี่คือความเข้มข้นของงานสืบสวน และสอบสวนที่ใกล้ความจริงเข้ามาทุกวินาที ในการกระชากหน้ากากผู้ก่อเหตุและผู้ร่วมขบวนการ อย่างไรก็ตาม มีการเผยแชตสนทนาระหว่างผู้ต้องหากับแอดมินเพจ เตี้ย มช. ซึ่งผู้ต้องหาเคยทักมาพูดคุยสอบถามหลายครั้ง ผู้ต้องหาติดตามความเคลื่อนไหวของพี่เตี้ยมาก่อนหน้านี้ รู้ว่าพี่เตี้ยอยู่ระหว่างการปรับพฤติกรรมไม่ให้ขึ้นรถไปที่ไหน ๆ
โดยผู้ต้องหา เคยส่งรูปถ่ายว่าเห็นคนพาพี่เตี้ยขึ้นรถขี่เที่ยว คล้ายกับเป็นห่วงจึงนำมาบอกแอดมิน ทางด้านแอดมินก็บอกจะรีบเอาป้ายไปติด เพื่อไม่ให้คนเรียกขึ้นรถอีก รวมถึงเข้ามาถามข้อมูลว่า พี่เตี้ยฝึกช่วงเวลาไหน บอกว่าตนจะเอาขนมไปให้ และมีการหลอกถามอายุอีกด้วย ซึ่งก็ทราบว่าอายุ 8 ขวบ กระทั่งพี่เตี้ยหายตัวไป ผู้ต้องหาก็ทักไปถามแอดมินว่าหายไปตั้งแต่เมื่อไร ถามข้อมูลจากแอดมินเพื่อเช็กว่ารู้อะไรบ้าง ดูกล้องวงจรปิดหรือยัง ทั้งที่ตัวเองเป็นคนเรียกขึ้นรถพาออกไปแท้ ๆ รวมถึงบอกว่าจะช่วยตามหาพี่เตี้ยอีกด้วย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT
ภาพจาก เฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT
ภาพจาก เฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT
ภาพจาก เฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT
ภาพจาก เฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT
2. อยู่ระหว่างการนัดหมายสอบสวนทีมสัตวแพทย์ผู้ชันสูตร ประกอบผลชันสูตร และงานสืบสวนที่รวบรวมได้
3. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ ตรวจสอบหลักฐานคราบเลือดที่คาดว่าใช้รถจักรยานยนต์พุ่งเข้าชนอย่างแรงไว้เรียบร้อยแล้ว และเตรียมตรวจคราบเลือดในบริเวณที่ผู้ต้องหาใช้เป็นจุดก่อเหตุ
4. อยู่ระหว่างการประสานกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เพื่อตรวจสอบ และดึงข้อมูลจากเฟซบุ๊กของผู้ต้องหาที่ปิดไปแล้ว
5. WDT ร้องขอให้ประชาชนทั่วไป นักศึกษา มช. คนรักพี่เตี้ย หรือผู้ที่สนิทสนมกับพี่เตี้ย ติดต่อเข้ามาทางอินบ็อกซ์ WDT ยืนยันความประสงค์และสมัครใจเข้าร่วมให้ปากคำเป็นพยานแวดล้อม กับทาง WDT และพนักงานสอบสวน ในฐานะความคิดเห็นและตรรกะของวิญญูชน เกี่ยวกับเรื่องต่อไปนี้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เตี้ย มช.
- ท่านั่งรถของพี่เตี้ย ไม่ว่าจะเป็นท่าไหน นอนหรือยืน พี่เตี้ยก็จะรอให้รถหยุดสนิทก่อนจึงจะลง หรือต่อให้พี่เตี้ยจะกระโดดลง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะม้วนตัวเป็นก้อนกลม กลิ้งกลับเข้าไปให้ถูกล้อหลังทับหัวและท้ายร่าง 2 จุดในล้อเดียว เพราะผลชันสูตรของพี่เตี้ยมีทั้งกะโหลกแตกและช่วงล่างแตก รวมถึงกระเพาะปัสสาวะและม้ามฉีกขาด
- จำลองเหตุการณ์ลักษณะรถของผู้ก่อเหตุ เป็นข้อมูลจากบริษัทผู้ผลิต ใต้ท้องรถสูงเพียง 132 มิลลิเมตร หรือ 13.2 เซนติเมตร เมื่อเทียบกับขนาดร่างกายของพี่เตี้ยแล้ว ไม่น่าเป็นไปได้ที่จะเข้าไปใต้ท้องรถ และทิศทางการกระดอน ย้อนแย้งกับทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์แบบ 360 องศา
นี่คือความเข้มข้นของงานสืบสวน และสอบสวนที่ใกล้ความจริงเข้ามาทุกวินาที ในการกระชากหน้ากากผู้ก่อเหตุและผู้ร่วมขบวนการ อย่างไรก็ตาม มีการเผยแชตสนทนาระหว่างผู้ต้องหากับแอดมินเพจ เตี้ย มช. ซึ่งผู้ต้องหาเคยทักมาพูดคุยสอบถามหลายครั้ง ผู้ต้องหาติดตามความเคลื่อนไหวของพี่เตี้ยมาก่อนหน้านี้ รู้ว่าพี่เตี้ยอยู่ระหว่างการปรับพฤติกรรมไม่ให้ขึ้นรถไปที่ไหน ๆ
โดยผู้ต้องหา เคยส่งรูปถ่ายว่าเห็นคนพาพี่เตี้ยขึ้นรถขี่เที่ยว คล้ายกับเป็นห่วงจึงนำมาบอกแอดมิน ทางด้านแอดมินก็บอกจะรีบเอาป้ายไปติด เพื่อไม่ให้คนเรียกขึ้นรถอีก รวมถึงเข้ามาถามข้อมูลว่า พี่เตี้ยฝึกช่วงเวลาไหน บอกว่าตนจะเอาขนมไปให้ และมีการหลอกถามอายุอีกด้วย ซึ่งก็ทราบว่าอายุ 8 ขวบ กระทั่งพี่เตี้ยหายตัวไป ผู้ต้องหาก็ทักไปถามแอดมินว่าหายไปตั้งแต่เมื่อไร ถามข้อมูลจากแอดมินเพื่อเช็กว่ารู้อะไรบ้าง ดูกล้องวงจรปิดหรือยัง ทั้งที่ตัวเองเป็นคนเรียกขึ้นรถพาออกไปแท้ ๆ รวมถึงบอกว่าจะช่วยตามหาพี่เตี้ยอีกด้วย
ภาพจาก เฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT
ภาพจาก เฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT
ภาพจาก เฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT
ภาพจาก เฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT
ภาพจาก เฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT