คงไม่มีสัตว์ชนิดไหนในโลกมีความสุขกับการถูกกักขังอยู่ในกรงแคบ ๆ เมย์และบินห์เยนก็เช่นกัน ชะตาชีวิตของหมีที่น่าสงสารคู่นี้ช่างเลวร้ายและน่าเวทนาอย่างยิ่ง เพราะพวกมันถูกจับมาขังอยู่ในฟาร์มดีหมีแห่งหนึ่งในเวียดนาม โดยในแต่ละวัน คนงานจะเข้ามารีดน้ำดีจากตัวหมีเพื่อเอาไปขาย กระบวนการนี้ทรมานมาก สัตว์ที่น่าสงสารต้องทนทุกข์อยู่แบบนี้ ไม่เคยได้ออกไปไหน ไม่เคยได้เห็นเดือนเห็นตะวัน และแทบไม่เคยได้ขยับตัวมาเป็นเวลานานถึง 13 ปี
เรื่องราวชีวิตที่แสนเศร้าและน่าหดหู่ของเมย์กับบินห์เยน ถูกนำมารายงานโดยเว็บไซต์เดอะโดโด้ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2561 ด้วยความที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกมีความเชื่อว่า ดีหมี นั้นมีสรรพคุณอันเป็นประโยชน์ หลาย ๆ พื้นที่จึงมักจะนิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารบำรุงกำลังและยาแผนโบราณ ความนิยมเหล่านี้ได้คร่าชีวิตสัตว์ป่าที่น่าสงสารไปมากมาย ในสมัยก่อน ดีหมีเป็นของหายาก เพราะจะต้องเข้าป่าไปล่าและฆ่าหมี ในปัจจุบัน ความต้องการดีหมีก็ยังคงสูง จนมีการจัดทำฟาร์มแบบเป็นกิจจะลักษณะ หมียังคงถูกล่ามาจากในป่าเหมือนเดิม แต่พวกมันไม่ถูกฆ่าทิ้งอีกต่อไป เพราะมีการคิดค้นวิธีรีดเอาน้ำดีจากตัวมันมาใช้ได้เรื่อย ๆ
เวียดนามเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ความต้องการดีหมีสูง ถึงแม้ว่าการทำฟาร์มดีหมีจะถูกประกาศว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2535 แต่การกวาดล้างและห้ามปรามไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยภายในฟาร์มเหล่านี้ หมีแต่ละตัวจะถูกจับมาขังอยู่ในกรงแคบ ๆ ตั้งเรียงรายอยู่ในโรงเรือน ทุก ๆ วัน คนงานจะเข้ารีดดีหมี โดยเจาะเข้าไปในร่างกายพวกมันและดูดเอาน้ำดีออกมา
กระบวนการนี้ไม่มีการฆ่าเชื้อใด ๆ และไม่ได้ทำอย่างมีเมตตา หมีต้องทุกข์ทรมานเพราะความเจ็บปวด หลายตัวติดเชื้อ บ้างเป็นแผลเรื้อรัง และบางตัวก็เป็นเนื้องอก หมีในฟาร์มจะถูกรีดน้ำดีแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งพวกมันป่วยและขาดใจตาย ซึ่งเมื่อมันตายลง เจ้าของฟาร์มก็จะหาหมีตัวใหม่มารับชะตากรรมแบบนี้ วนเวียนไปเรื่อย ๆ
ในเดือนพฤศจิกายน 2560 เจ้าหน้าที่องค์กรช่วยเหลือสัตว์โฟร์พอว์ส (Four Paws) ได้ติดตามสืบเสาะจนค้นพบฟาร์มดีหมีแห่งสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่ หมีที่ถูกกักขังอยู่ที่นี่คือ ไห่ชาน เมย์ และบินห์เยน เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือไห่ชานออกมาได้ ซึ่งสภาพของมันน่าเวทนามาก มันทั้งอ่อนล้าโรยรา และอุ้งเท้าทั้ง 4 ข้างของมัน ถูกตัดเอาไปใช้ทำยา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวมันไปดูแลที่ศูนย์พักพิงขององค์กรโฟว์พอว์สในเวียดนามแล้ว
แต่เมื่อพวกเขาจะกลับไปช่วยหมีอีก 2 ตัวที่เหลือ พวกเขาก็ถูกปฏิเสธ โดยเจ้าของฟาร์มดีหมียืนกรานไม่ยอมให้ตัวเมย์กับบินห์เยน เจ้าหน้าที่จึงต้องวิ่งเต้นทำเรื่องเพื่อช่วยเหลือชีวิตพวกมันทั้งสอง และหลังจากพวกเขาต่อสู้มาเป็นเวลานานหลายเดือน ความสำเร็จก็มาถึง
"หมีที่น่าสงสารคู่นี้ถูกกักขังในที่แคบ ไม่เคยได้พบเห็นแสงสว่างมาเป็นเวลานานถึง 13 ปี พวกมันต้องทนทุกข์ทั้งร่างกายและจิตใจ คงต้องใช้เวลานานมากกว่าจะฟื้นฟูทุกอย่างกลับคืนมาได้ แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เมย์และบินห์เยนได้เป็นอิสระในที่สุด และชีวิตใหม่ของพวกมันกำลังจะมาถึงแล้ว" องค์กรโฟร์พอว์ส กล่าว
หลังจากที่สุขภาพของเมย์และบินห์เยนฟื้นฟูขึ้น เจ้าหน้าที่ก็ปล่อยให้พวกมันได้ออกมาพบเจอกับแสงแดด ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ และได้สัมผัสผืนหญ้าเขียว ๆ ด้วยอุ้งเท้าของตัวเอง ถึงแม้ว่าพื้นที่สีเขียวในเขตศูนย์พักพิงจะไม่ได้กว้างใหญ่เท่ากับผืนป่า แต่เมื่อเทียบกับกรงแคบ ๆ ในโรงเรือนแสนหดหู่ที่เมย์และบินห์เยนพบเจอมาตลอดชีวิตแล้ว สถานที่แห่งนี้ก็เหมือนกับสวรรค์
ตอนนี้ร่างกายของเมย์และบินห์เยนยังคงไม่หายดี ต้องใช้เวลาพักฟื้นอีกนาน แต่เมื่อดูภาพถ่ายขณะที่พวกมันออกไปสัมผัสธรรมชาติ สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ พวกมันมีความสุขมากขึ้นแล้ว ขอให้แข็งแรงเร็ว ๆ และมีความสุขตลอดไปนะ
ภาพจาก FOUR PAWS
