x close

ทำความรู้จัก ปลาทอง ปลามงคลสวยงาม เลี้ยงง่าย แถมโตไว

          ทำความรู้จัก ปลาทอง ปลาสวยงามที่คนนิยมเลี้ยง เพราะเชื่อว่าเป็นปลามงคล มีสายพันธุ์ไหนน่าเลี้ยงและมีวิธีเลี้ยงปลาทองอย่างไร ตามไปดูกันเลย

ปลาทอง

          ปลาทอง เป็นอีกหนึ่งปลาสวยงามที่หลายคนนิยมเลี้ยง เพราะนอกจากจะมีสีสันสวยงามแล้ว ยังมีความเชื่อว่าเป็นปลามงคลด้วย สำหรับคนที่สนใจอยากเลี้ยงปลาทอง วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปทำความรู้จักปลาชนิดนี้ให้มากขึ้นกัน

ประวัติของปลาทอง


          เดิมปลาทองมีลักษณะคล้ายกับปลาไน ไม่ได้สวยงามเหมือนในปัจจุบัน กระทั่งประมาณปี ค.ศ. 1243-1343 ชาวจีนเริ่มนิยมนำปลาทองมาเลี้ยงในบ่อน้ำบริเวณบ้านมากขึ้น ก่อนจะนำไปสู่การเพาะพันธุ์เพื่อค้าขายและเกิดเป็นสายพันธุ์ปลาทองที่มีความสวยงามมากขึ้น และเป็นที่นิยมเลี้ยงไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น อเมริกา อังกฤษ รวมถึงในประเทศไทย

          เนื่องจากคำว่าปลาทองในภาษาจีนคือคำว่า "หยู" ซึ่งพ้องกับคำว่า "อุดมสมบูรณ์" ทำให้มีความเชื่อเกี่ยวกับปลาทองว่า เป็นปลามงคล หากเลี้ยงแล้วจะช่วยเสริมฮวงจุ้ยด้านโชคลาภการเงินนั่นเอง

ลักษณะปลาทอง

ปลาทอง

          ปลาทอง มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Goldfish มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน ปัจจุบันมีมากกว่า 200 ชนิด ลักษณะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ จุดเด่นที่ทำให้ปลาทองแต่ละสายพันธุ์แตกต่างกัน ได้แก่ ส่วนตัว ตา ครีบหลัง ครีบก้น และครีบหาง มีทั้งหางเดี่ยว หางเป็นพวง และหางคู่ มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10-15 ปี

สายพันธุ์ปลาทองที่นิยมเลี้ยง


          ถึงแม้ว่าปลาทองจะมีสายพันธุ์ที่หลากหลายมาก แต่ก็จะมีเพียงบางสายพันธุ์เท่านั้นที่คนไทยนิยมเลี้ยงและจัดประกวดกัน ดังต่อไปนี้


1. ปลาทองหัวสิงห์ญี่ปุ่น (Ranchu)

          ปลาทองหัวสิงห์ญี่ปุ่น สายพันธุ์ปลาทองที่พัฒนาโดยชาวญี่ปุ่น และได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มปลาทองพันธุ์หัวสิงห์ จุดเด่นอยู่ที่ห้ววุ้นละเอียดหนา ลำตัวสั้น หลังโค้งมน ครีบหางสั้น และครีบก้นเป็นคู่มีขนาดเท่ากัน

2. ปลาทองหัวสิงห์ลูกผสม (Hybrid Lionhead)


          สายพันธุ์ปลาทองที่มีการเพาะพันธุ์ในประเทศไทย ลักษณะเด่นคือ มีหัววุ้นขนาดปานกลาง สันหลังโค้งมน และมีครีบหางสั้นกว่าเมื่อเทียบกับปลาทองหัวสิงห์จีน

3. ปลาทองหัวสิงห์สยาม (Siamese Lionhead)


          ปลาทองหัวสิงห์สยาม มีอีกชื่อเรียกว่า หัวสิงห์ตามิด มีต้นกำเนิดในประเทศไทย มีลักษณะคล้ายกับหัวสิงห์ญี่ปุ่น จุดเด่นคือ มีวุ้นปกคลุมบริเวณหัวหนาแน่นจนมองไม่เห็นตา ลำตัวคล้ายหัวสิงห์ญี่ปุ่น โดยมีจุดเด่นคือ ลำตัวและครีบจะมีสีดำสนิท ไม่มีสีอื่นแซม

4. ปลาทองออรันดาหัววุ้น (Dutch Lionhead)


          ปลาทองออรันดาหัววุ้น เกิดจากการเพาะพันธุ์ได้ในประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก มีลักษณะเด่นคือ มีหัววุ้นสีเหลืองส้มคล้ายสายพันธุ์หัวสิงห์ แต่มีขนาดเล็กกว่า ลำตัวใหญ่สีขาว-เงิน มีครีบครบทุกส่วน และมีหางยาวสวยงาม  

5. ปลาทองริวคิน (Ryukin)


          ปลาทองริวคิน เป็นปลาที่ได้รับความนิยมเลี้ยงทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น มีจุดเด่นที่หางยาวเป็นพวงสวยงาม ลำตัวกลมสั้น มีสีแดงสลับขาว บางชนิดอาจมีมากถึง 5 สี

          นอกจากนี้ยังมีปลาทองสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมอีก เช่น ปลาทองตาโปน, ปลาทองหัวสิงห์จีน, ปลาทองหัวสิงห์ตากลับ, ปลาทองหัวสิงห์ตาลูกโป่ง และปลาทองเกล็ดแก้ว เป็นต้น

วิธีเลี้ยงปลาทอง

ปลาทอง

          การเลี้ยงปลาทองส่วนใหญ่จะเลี้ยงในตู้กระจกใส แต่หากจะเลี้ยงในบ่อน้ำ เช่น บ่อซีเมนต์ ควรจัดให้อยู่ในบริเวณที่มีแสงสว่าง ไม่จ้าจนเกินไป หรือาจจะใช้ตาข่ายช่วยพรางแสงและความร้อนประมาณ 60%

          น้ำที่ใช้ควรเป็นน้ำสะอาดไม่มีคลอรีน หากใช้น้ำประปาควรวางน้ำทิ้งไว้ให้คลอรีนระเหยก่อนนำปลามาปล่อย หรือใช้เครื่องกรองน้ำ ใช้สารเคมีโซเดียมไธโอซัลเฟตละลายลงในน้ำ เพื่อช่วยลดคลอรีนก็ได้ และรักษาอุณหภูมิน้ำให้อยู่ที่ประมาณ 28-35 องศาเซลเซียส ที่สำคัญไม่ว่าจะเลี้ยงในตู้ปลาหรือบ่อน้ำ ควรมีระบบช่วยหมุนเวียนน้ำ เช่น น้ำพุ น้ำตก เครื่องกรองน้ำ เพื่อช่วยเติมออกซิเจน

          ทั้งนี้ ก่อนปล่อยปลาทองลงในน้ำที่เตรียมไว้ ควรแช่ถุงลงในตู้เลี้ยงปลาประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้อุณหภูมิของน้ำในถุงกับในอ่างถ่ายเทเข้าหากันจนใกล้เคียงกัน แล้วค่อยปล่อยปลาลงไป

          การเลี้ยงปลาทอง ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ใส่ใจกับภาชนะเลี้ยง สภาพน้ำ การให้อาหาร และหมั่นสังเกตเจ้าปลาตัวโปรดของคุณอย่างสม่ำเสมอ ก็จะได้ปลาทองสวย ๆ ไว้เชยชมไปนาน ๆ แล้ว

ขอบคุณข้อมูลจาก : home.kku.ac.th, fisheries.go.th และ petmd.com  

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ทำความรู้จัก ปลาทอง ปลามงคลสวยงาม เลี้ยงง่าย แถมโตไว อัปเดตล่าสุด 13 มีนาคม 2566 เวลา 08:22:39 357,126 อ่าน
TOP