รีวิวสร้างบ้านแมวให้เชื่อมต่อกับตัวบ้านและทำที่ออกกำลังกายให้กลายเป็นอาณาจักรย่อม ๆ ของแมวเหมียว ไอเดียดี ๆ แบบนี้มีหรือที่ทาสแมวจะพลาด 
          
                    
                  
                    
          
                                  
                           
 
            ทาสแมวที่กำลังมองหาไอเดียในการทำบ้านแมวหรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า “กรงแมว” อยู่ละก็ คุณ หัวใจแก้ว สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ได้ออกแบบและลงมือทำบ้านแมวให้เชื่อมต่อตัวบ้าน 
แถมภายในยังมีชั้นปีนป่ายที่เอาไว้ให้น้องแมวได้ออกกำลังกายอย่างสนุกสนานอีกด้วย
 และที่สำคัญเจ้าของกระทู้ยังยินดีที่จะนำไอเดียดี ๆ แบบนี้ 
มาให้ทาสแมวได้ชม 
พร้อมทั้งนำไปเป็นแนวทางในการสร้างบ้านให้แมวเหมียวสุดที่รักกันค่ะ 
      
 
    [CR] ได้เลี้ยงแมวด้วยความบังเอิญ แต่..สร้างบ้านแมวด้วยความตั้งใจ (รีวิวบ้านคาเบะ) โดย คุณ หัวใจแก้ว  
 

 
 
         - สวัสดีค่ะ จากคราวที่แล้วที่แนะนำคาเบะและแม่ที่เราได้รับเลี้ยงไว้ตามกระทู้  วิถีทาสแมว"เป็นอย่างนี้นี่เอง พาเด็กๆมาแนะนำตัวค่ะ :) และได้ให้สัญญาตอนท้ายว่าจะมารีวิวบ้านคาเบะ เพราะไม่ว่าจะลงรูปในเฟซบุ๊ก ในไลน์ หรือแม้แต่เพื่อนบ้านในซอยเดียวกัน ก็จะถามตลอดเรื่องบ้านของพวกเธอ วันนี้เลยมารีวิวเผื่อจะเป็นแนวทางให้หลาย ๆ ท่านที่อยากจะทำบ้านให้เจ้านายนะคะ 
  

          - เราไม่มีแผนที่จะเลี้ยงแมวเลยค่ะ แต่เมื่อโชคชะตานำพาให้ได้เลี้ยงก็คงเหมือนหลาย ๆ ท่านที่เลี้ยงแล้วเราก็อยากให้เค้าได้อยู่ในที่ที่สบายและปลอดภัย เราเสิร์ชกูเกิลเพื่อเซฟรูปบ้านแมวไว้เยอะมาก และที่ชอบสุด ๆ ก็คือบ้านแมวของต่างประเทศที่เค้าทำทางเดินออกไปชมนกชมไม้รอบบ้าน ระหว่างนี้แม่หญิงคาเบะก็อยู่กรงเล็ก พอดีที่บ้านเราเลี้ยงชูการ์ไกลเดอร์ไว้หลายตัว นางเลยได้ไปอยู่ในกรงชูการ์ด้วย 
  
 
  
          - ผ่านไปสักพัก นางโตไวค่ะ เล่นแรงขึ้นด้วย >,< เลยต้องแยกออกมาจากพี่ชูการ์ แล้วก็ให้นางครอบครองกรงเพียงผู้เดียว แต่ไม่นานกรงก็ดูเหมือนจะเล็กลงไปอีก
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - แผนการสร้างกรงเพื่อเป็นบ้านหลังใหม่ของคาเบะจึงเกิดขึ้น โดยจะแบ่งสรรเนื้อที่บางส่วนของห้องชูการ์เพื่อต่อกรงให้คาเบะ ห้องนี้แต่เดิมเป็นที่จอดรถของบ้าน แต่พอชูการ์เยอะขึ้นเราเลยต่อเติมห้องเพื่อที่เค้าจะได้อยู่เป็นสัดเป็นส่วน โดยทางเข้าออกของห้องมีทั้งทางประตูหน้าบ้านและประตูข้างบ้าน
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - ความคิดก่อนที่จะนัดช่างเข้ามาดูหน้างานและพูดคุยคือ เราจะให้มีกรงเล็กไว้มุมสุดของห้อง ซึ่งกรงเล็กนี้จะมีประตูเพื่อออกไปสู่กรงใหญ่ที่อยู่ข้างบ้าน
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - นี่เป็นภาพข้างบ้านค่ะ ซ้ายมือจะเป็นห้องชูการ์ พื้นที่ตรงนี้ปกติด้านหลังเราเอาไว้ตากผ้า
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - และบริเวณประตูด้านข้างที่จะเข้าห้องเป็นที่นอนประจำของคุณแม่นวลตา เพราะนางจะมารอกิน รอเล่นกับคาเบะ 
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - เมื่อคิดคอนเซ็ปต์ได้ก็โทร. นัดช่างเลยค่ะ ช่างของเราเป็นช่างประจำของบ้าน เวลามีตรงไหนต้องซ่อมหรืออยากต่อเติมอะไรจะเรียกช่างคนนี้ตลอด เป็นช่างรับเหมาธรรมดาทั่วไปแต่มีประสบการณ์มากและสามารถทำทุกอย่างที่เราอยากได้ ^^ คุยกันพอเข้าใจก็วาดรูปอธิบายกันแบบนี้เลยค่ะ ไม่ต้องมีมาตรฐานหรือภาพ 3D อะไร เอาแบบที่เราและช่างเข้าใจง่าย พอสรุปเคลียร์รายละเอียดและราคา ตกลงกันได้ก็ลงมือทำเลย
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - งานเราช้าหน่อยเพราะสั่งทำช่วงคาบเกี่ยวปีใหม่ ซึ่งช่างหยุดยาว หลังปีใหม่ก็เริ่มทำเป็นรูปเป็นร่างซึ่งช่างจะส่งรูปอัพเดทให้ชมทางไลน์
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - ในภาพเป็นกรงใหญ่ ซึ่งกรงใหญ่ในส่วนของประตูหน้าบ้านเราบอกช่างให้ทำเป็นประตู 2 ชั้นค่ะ โดยชั้นนอกสุดเป็นแบบเปิด-ปิด ส่วนชั้นในเป็นแบบสไลด์ ความกว้างระหว่าง 2 ประตูประมาณ  70 เซนติเมตร ถามว่าทำไมต้อง 2 ชั้น คำตอบคือเราเลี้ยงหมาใหญ่ค่ะ เวลาปล่อยให้เค้าเดินหน้าบ้าน กลัวว่าเค้าจะไปยุ่งกับกรงแมว เลยต้องป้องกันไว้ก่อนค่ะ
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - ส่วนนี้คือกรงเล็กที่จะเอาไว้ในห้องภายในบ้านค่ะ พอกรงเสร็จเรียบร้อย เราก็อยากจะได้ชั้น (เริ่มเพิ่มโน่นเพิ่มนี่)
  
  
  
  
  
  
  
  
  


          - เดี๋ยวนี้สะดวกสบายค่ะ ทำรูป/อธิบายพร้อมส่งไลน์ จบ ^___^ คราวนี้ก็ร้องเพลงรอให้ช่างนัดมาติดตั้ง
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - มากันแล้วค่ะ ^0^
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - ครั้งแรกที่เห็นคือ โอ้ว...มันสูงสะใจมาก
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - ก่อนประกอบก็ต้องเคลียร์พื้นที่ก่อน แหะ ๆ อายจังยังไม่ได้เก็บผ้า >,< ต้นโมกข้างบ้านยังคงไว้อยู่ค่ะ เพื่อความเป็นธรรมชาติ แต่แอบลุ้นว่ามันจะรอดไหม จะโดนแดดเหมือนเดิมรึเปล่า บลา ๆ จัดการรื้ออิฐที่เคยล้อมต้นโมกไว้และอิฐบริเวณรอบ ๆ ที่รก ๆ เอาออกให้หมด
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - แม่นวลตาสำรวจใหญ่เลย
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - ปรับพื้นให้เสมอกัน
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - กรงเล็กช่างเชื่อมมาจากโรงงานเรียบร้อยแล้วจึงสามารถยกไปวางได้เลย
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - เอาเข้าทางหน้าต่างเลยจ้า
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - พื้นที่ดูคับแคบไปหน่อย ห้องรกและกรงชูการ์เยอะมาก ^^"
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - ประจำที่ 
  
 
  
          - จากนั้นก็เริ่มประกอบกรงใหญ่ ต้นโมกสูงเกะกะไปเลยต้องตัดให้สั้นลงค่ะ เวลาวางชั้นไม้จะได้ไม่ติด
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - ชั้นในเสร็จแล้ว
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - ประตูกรงด้านหน้าบ้านมี 2 ชั้น ชั้นในเป็นแบบเลื่อนไปทางขวา และที่ต้องทำ 2 ชั้นก็เพื่อป้องกันเวลาปล่อยหมาใหญ่ออกมาเดินเล่นหน้าบ้านค่ะ ^^"
  
  
  
  
  
  
  
  
  

 
 
            - และประตูชั้นนอกก็เสร็จแล้วค่ะ เป็นแบบเปิด-ปิด
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - ก่ออิฐปิดช่องว่างด้านล่าง
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - รูปนี้ถ่ายให้ดูระดับความสูงของกรงค่ะ เราให้ความสูงระดับเดียวกันกับประตูกระจกของห้อง ทำสูงกว่านี้ไม่ได้ค่ะ เพราะจะติดพัดลมระบายอากาศที่เราเจาะไว้ระบายกลิ่นภายในห้องชูการ์
  
  
  
  
  
  
  
  
  


          -  เริ่มต่อบันไดทางเดินขึ้นชั้นบน
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - แม่นวลตาตรวจงานตลอด ฮ่า ๆ
  
  
  
  
  
  
  
  
  


          - ใส่บันไดไม้ สวยจัง ชอบ ๆ ^^
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - ใส่ชั้นด้านบนฝั่งต้นโมก
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - ไม้สองชั้น 2 ระดับ
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - ไม้อะไรไม่รู้ช่างเคยบอกแต่เราจำไม่ได้ ความหนาโอเคเลยค่ะ ^^
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - แวบมาใส่ชั้นไม้ที่กรงเล็กภายในห้อง
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - ไล่เป็น 2 ระดับเหมือนกรงด้านนอก
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - ใส่มุ้งลวด ซึ่งตรงฝั่งที่ติดกับเพื่อนบ้าน เราใช้เป็นมุ้งลวดสีเงินเพราะมันจะช่วยพรางตา
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - แต่ตรงส่วนอื่นเราจะใช้มุ้งลวดสีดำค่ะ เพราะสีดำเวลามองมันจะทะลุผ่านตาไปเลยไม่มีเงาสะท้อน
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - และเพื่อป้องกันฝนสาดเราใช้แผ่นอะคริลิกใสติดตรงฝั่งกำแพง 
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - ช่างบอกติดครึ่งเดียวให้เลยกำแพงพอแล้วปล่อยให้น้ำไหลลงด้านล่าง
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - แต่ตอนหลังเราไปซื้อพลาสติกใสมาต่อให้ยาวถึงพื้นเพราะไม่อยากให้น้ำกระเด็นเข้ามาภายในกรงค่ะ
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - ติดเสร็จแล้ว
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - ส่วนด้านบนติดแค่ครึ่งเดียวป้องกันฝนสาด แต่ไม่อยากปิดหมดเพราะยังไงเราก็มีหลังคาอยู่แล้ว 
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - ติดหมดเรากลัวว่าจะทึบและทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวก แล้วจะทำให้ภายในกรงร้อนค่ะ 
  
 
  
          - ระหว่างที่ช่างทำงานของเค้า เราก็เริ่มทำงานของเรา ^^ เริ่มแต่งกรงตามจินตนาการ จริง ๆ ไม่ได้อะไรเลยค่ะ ใช้ของเดิมที่มันเคยเป็นอยู่ อิฐวงก็เอามาล้อมต้นโมกเหมือนเดิม ส่วนอิฐอันอื่นมันเหลือ ๆ จากที่เคยเอาไว้วางกระถางต้นไม้ เราก็เอามาประกอบเป็นเก้าอี้ไว้นั่งมองแมว
  
  
  
  
  
  
  
  
  


          - แล้วก็ถึงเวลาใส่ประตูแมว ซึ่งจะใส่ไม่ได้เลยถ้าเราไม่เจาะกระจก
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - ตอนแรกเป็นลูกน้องที่ร้านกระจกมาทำให้ แต่พอเห็นประตูกระจกแล้วพากันพูดว่า "พี่ผมไม่กล้าเจาะ" อ้าว >,< เพราะประตูบานเลื่อนที่จะเจาะมันเป็นประตูบานใหญ่ค่ะ เค้ากลัวเจาะแล้วจะแตกแบบควบคุมไม่ได้
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - เลยต้องรออีกวันให้เฮียเจ้าของร้านมาเอง อยากจะบอกว่าเฮียเซียนมาก ใช้อุปกรณ์คล้ายวงเวียนแต่หัวน่าจะเป็นเพชรสำหรับตัดกระจก วาดทั้งวงเล็ก วงกลาง และวงใหญ่ 3 วงในที่เดียว
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - จากนั้นก็ค่อย ๆ เคาะ ๆ ไล่จากวงกลมวงในสุด ต้องใจเย็นมาก ๆ
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - เจาะเสร็จแล้ว
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - อันนี้มองจากภายในกรงเล็ก
  
  
  
  
  
  
  
  
  

          - จากนั้นก็ติดประตูแมวได้เลยค่ะ
  
  
  
  
  
  
  
  
  

         - ติดไม่ยาก แค่เอามาประกบด้านในกับด้านนอกแล้วขันนอต 
  
 
   
 
           - สวยงาม ชอบมากเลย ^0^ ดูคลิปการใช้งานประตูแมวของเด็ก ๆ
  
  
  
  
  
  
  
  
  
 
   
 
           - ตอนแรกเราซื้อประตูแมวทั่วไปจากจตุจักร แล้วค่อยมาค้นข้อมูล ผลปรากฏว่าถ้าเราจะติดประตูแมวกับกระจกเราต้องใช้เป็นประตูรุ่นที่ติดกระจกได้ >"< เลยเสียเงินอีกรอบ *_*  เราใช้ยี่ห้อนี้ค่ะ จากเว็บไซต์ doorforpet ราคา 1,400 บาท
  
  
  
  
  
  
  
  
  
 
   
 
           - ซื้อมาใช้แล้วไม่ผิดหวังเลยค่ะ สวยงาม วัสดุดี แถมมีอะไหล่ และรับประกันตั้ง 3 ปี (ไม่ใช่หน้าม้านะคะแต่มันดีเลยบอกต่อค่ะ)
  
  
  
  
  
  
  
  
  
 
   
 
           - เมื่อกรงเสร็จก็เริ่มตกแต่ง ^0^ กรงใหญ่ด้านนอกแต่เดิมพื้นปูด้วยแผ่นอิฐแดง ซึ่งฝุ่น ขี้ดิน และสิ่งสกปรกติดง่าย เราเลยเลือกหาแผ่นปูพื้นไม้สำเร็จรูปโดยเลือกที่เป็นไม้จริงค่ะ เราว่ามันสวยกว่าไม้เทียมนะ
  
  
  
  
  
  
  
  
  
 
   
 
           - แผ่นปูนี้เราซื้อจากโฮมโปรค่ะ ราคาประมาณ 120 บาท
  
  
  
  
  
  
  
  
  
 
   
 
           - อีกเหตุผลหนึ่งที่เลือกใช้แผ่นปูพื้นเพราะเราต้องรดน้ำต้นโมกอยู่ ถ้าไม่ปูพื้นยกระดับ น้ำที่รดต้นไม้มันก็จะไหลนองพื้น ซึ่งกว่าน้ำจะซึมลงด้านล่างก็ใช้เวลา ทำให้พื้นเลอะเทอะไปอีก ปูแบบนี้เป็นทางออกที่สุดยอดมากค่ะ
  
  
  
  
  
  
  
  
  
 
   
 
   
 
           - ภาพรวมของกรงทั้ง 2 เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ จะเหลือก็แต่ตกแต่งกรงตามจินตนาการ ฮ่า ๆ
  
  
  
  
  
  
  
  
  
 
   
 
           - ครั้งแรกที่ปล่อยเด็กออกสำรวจบ้านใหม่ แม่ลูกได้ใกล้ชิดกันครั้งแรก ดูแล้วสุขใจจังเลย ^^
  
  
  
  
  
  
  
  
  
 
   
 
           - เล่นกันสนุกสนาน ที่สูง ๆ พวกนางจะชอบกันมาก
  
  
  
  
  
  
  
  
  
 
   
 
           - และเมื่อพี่ใหญ่ออกมาเดินหน้าบ้าน ฮ่า ๆ จ้องน้องตาเขม็งเลยนะ แต่ทำอะไรไม่ได้หรอกจ้ะ แม่ป้องกันไว้หมดแล้ว ประตู 2 ชั้น สุดยอด ^^
  
  
  
  
  
  
  
  
  
 
   
 
           - มาดูบ้าน ณ ปัจจุบันกันค่ะ ตอนนี้ไม่ได้ตกแต่งอะไรเพิ่มแล้ว เพราะรู้สึกกรงจะเริ่มรก ^^" ภาพเยอะมาก ชมกันยาว ๆ เลยนะคะ ^^
  
  
  
  
  
  
  
  
  
 
   
 
           - ภาพนี้มองจากหน้าบ้านค่ะ กรงใหญ่จะอยู่ริมสุดติดกำแพงฝั่งเพื่อนบ้านเลย เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับประตูอีกชั้น อย่างที่เคยบอกค่ะ เวลาปล่อยหมาใหญ่ออกมาหน้าบ้านเราก็สไลด์ประตูปิด
  
  
  
  
  
  
  
  
  
 
   
 
           - เจ้าของบ้านมาแล้ว ด.ญ.คาเบะ ผู้มีใบหน้าโหดตลอดกาล ฮ่า ๆ 
    
 
     
 
           - ถ้ามองจากหน้าบ้านไปหลังบ้าน จะเห็นต้นไทรในกระถาง 3 ต้น ซึ่งเราซื้อมาวางบังตา เนื่องจากด้านหลังเป็นที่ตากผ้าและลานซักล้างค่ะ 
    
 
     
 
           - เดินวกกลับมาประตูฝั่งหลังบ้านหรือฝั่งที่ติดกับประตูห้องชูการ์ 
    
 
     
 
           - จริง ๆ กล่องพวกนี้อยู่ในกรงค่ะ เอาไว้เก็บพวกของเล่น แล้วก็พวกยา ขนม และของใช้ต่าง ๆ แต่กรงเริ่มของเยอะเลยต้องเอาออกมาไว้นอกกรง ^^" 
    
 
     
 
           - เสบียงค่ะ ถังใส่ข้าว ยิ่งโตเด็ก ๆ ยิ่งกินเก่งมาก 
    
 
     
 
           - มุมกำแพงเอาไว้ปลูกต้นไม้กับพักต้นไม้ค่ะ อย่างต้นไผ่เงินที่เพิ่งสลับเอาออกมาไว้ข้างนอก เพราะพวกนางกินและกัดเล่นจนเริ่มโกร๋น >8< เข้าบ้านกันดีกว่าค่ะ 
    
 
     
 
   
 
   
 
           - ถ้าคุณมีห้องแมว คุณจะมีความสุขกับการแต่งห้องเชื่อสิ เหมือนอย่างเรา ^0^
    
    
    
    
    
    
    
    
 
     
 
           - ตอนแรกพื้นปูนตรงนี้มันเลอะสีตอนช่างทำงาน เราไม่อยากเอาสีมาทาใหม่ เพราะกลัวกรงเหม็น เลยไปเดินโฮมโปร โห ! พวกหญ้าเทียมเค้าไม่แบ่งขายเป็นขนาดที่เราต้องการด้วยนะคะ เค้าขายเป็นผืนใหญ่เลย แต่สายตาเราดี สอดส่องจนไปเจอพวกเศษหญ้าที่เหลือ คงเป็นเศษท้ายม้วน ขนาดพอดีกับที่เราต้องการ ราคาก็ถูกด้วย 600 กว่าบาทเอง เลิศมาก โชคดีจัง ^0^ 
    
 
     
 
           - ช่องที่เหลือจากการปูพื้นสำเร็จรูป เราก็เอาหญ้าเทียมมาใส่ แต่เลือกเป็นแผ่นหญ้าเทียมสำเร็จรูปเอามาตัดให้พอดีช่อง 
    
 
     
 
           - เพราะอย่างที่บอกว่า พื้นตรงนี้ต้องปูยกระดับให้สูง เพื่อเวลารดน้ำต้นไม้ น้ำจะได้ไหลลงไปด้านล่างไม่เลอะพื้น 
    
 
     
 
           - หมอนแมวอันใหญ่ ตอนแรกหวังว่าพวกเธอคงชอบ คงจะมานอนบนตัวแมวนุ่ม ๆ สรุปเธอไม่สนใจค่ะ >?< สุดท้ายคือเราเอาไว้หนุนหัวเวลานอนเล่นกับพวกเธอ 
    
 
     
 
           - นี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่เราทำแล้ว...แล้วแมวไม่สนใจ T_T อุปกรณ์ทำเปลหาได้ในร้านทุกอย่าง 20 บาทค่ะ ยกเว้นเชือกปอที่เราซื้อในโฮมโปรราคาเมตรละ 15 บาท 
    
 
     
 
           - เสียใจเจ้านายไม่ชอบ ฮือ >*< 
    
 
     
 
           - เก้าอี้อิฐต่อเอาไว้ สรุป…ไม่ได้นั่งค่ะ นั่งพื้นซะส่วนใหญ่ ส่วนต้นไผ่เงินที่เห็นใบแน่น ๆ สวยงาม เป็นเพราะเราเพิ่งซื้อต้นใหม่มาเปลี่ยน สลับเอาต้นเก่าที่โดนกระทำซะบอบช้ำไปรักษาตัวที่นอกกรงก่อน ฮ่า ๆ 
    
 
     
 
           - พื้นที่ทางเดินระหว่างประตูด้านนอกกับประตูสไลด์ด้านใน เราใช้สำหรับวางห้องน้ำแมวค่ะ 
    
 
     
 
           - ตรงข้ามกับห้องน้ำ เราวางน้ำพุ ถามว่าทำไมต้องวางตรงนี้ ก็เพราะตรงนี้ใกล้กับปลั๊กไฟที่อยู่นอกกรงค่ะ จะได้ไม่ต้องต่อสายให้ยาวและยุ่งยาก 
    
 
     
 
            - เตรียมขึ้นชั้น 2 กันค่ะ ม้านั่งอันนี้ซื้อมาจากร้านไทวัสดุ ตัวละ 145 บาท ที่เอามาวางตรงจุดนี้ เพราะเราเห็นว่าช่างทำขั้นบันไดขั้นสุดท้ายสูงไปหน่อย เอามาวางแล้วรู้สึกว่า พวกเธอขึ้น-ลงได้สะดวกกว่า
    
    
    
    
    
    
    
    
    
 
     
 
           - มาข้างบนมั้ยคะ 
    
 
     
 
           - ขึ้นมาจนสุดก็เจอชั้นไม้ 2 ระดับ 
    
 
     
 
   
 
           - ชั้นบนสุดนี้พวกนางจะชอบมาก แมวชอบที่สูง ๆ จริง ๆ ด้วย 
    
 
     
 
           - ถัดลงมาเจอชั้นอีก 1 ชั้น จัดวางคนละสเต็ป เพิ่มพื้นที่ในการวิ่งไล่จับ 
    
 
     
 
           - พอเหนื่อยก็แวะพักทานน้ำ ^^
    
    
    
    
    
    
    
    
    
 
     
 
           - ตุ๊กตากับของเล่นมีอยู่ทั่วไป สลับสับเปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อย ๆ 
    
 
     
 
           - เข้ามาดูกรงเล็กภายในบ้านกันดีกว่า
    
    
    
    
    
    
    
    
    
 
     
 
           - ขนาดไม่ใหญ่มาก จริง ๆ คือเอาไว้เป็นที่นอนตอนกลางคืน หรือเวลากรงข้างนอกฝนตกน้ำสาด เค้าก็วิ่งเข้ามาอยู่ในบ้านได้ค่ะ 
    
 
     
 
           - วันนี้ช่างมาติดแผ่นไม้แทนตะแกรงเหล็กแล้วค่ะ ^^ หน้าไม้กว้างเด็ก ๆ คงชอบ ^0^ 
    
 
     
 
           - นี่ไงนอนสบาย ๆ ฮ่า ๆ 
    
 
     
 
   
 
           - หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย และเป็นไกด์ไลน์ให้กับเพื่อน ๆ ที่สนใจอยากสร้างบ้านให้เจ้านายนะคะ
    
    
    
    
    
    
    
    
    
 
     
 
           - รูปเยอะและกระทู้ยาวมาก ฮ่า ๆ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามตั้งแต่ต้นจนจบนะคะ ^^
    
    
    
    
    
    
    
    
    
 
    **ลืมแจ้งขนาดกรงค่ะ**
    
    
    
    
    
    
    
    
    
 
             - กรงใหญ่กว้าง 2.1 เมตร ยาว 2.3 เมตร สูง 2.15 เมตร  
    
    
    
    
    
    
    
    
    
 
             - ส่วนกรงเล็กกว้าง 1 เมตร ยาว 1 เมตร สูง 1.3 เมตร
    
    
    
    
    
    
    
    
    
 
    **ค่าใช้จ่ายทุกอย่างซึ่งรวมค่าตกแต่งแล้ว อยู่ที่ประมาณไม่เกิน 35,000 บาทค่ะ**
    
    
    
    
    
    
    
    
    
 
    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ หัวใจแก้ว สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก kabecat 
    
 
   
          
        










