เพราะช่วงโตเต็มวัยเป็นช่วงอายุที่ยาวนานที่สุดของสุนัข โดยสุนัขขนาดเล็กและขนาดกลางจะเริ่มโตเต็มวัยเมื่ออายุได้ 12 เดือน สุนัขขนาดใหญ่จะเริ่มโตเต็มวัยเมื่ออายุได้ 18 เดือน และสุนัขขนาดใหญ่พิเศษจะเริ่มโตเต็มวัยเมื่ออายุได้ 24 เดือน หากดูแลด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง หรือให้สารอาหารที่ไม่เพียงพอ ก็จะส่งผลระยะยาวต่อสุขภาพของสุนัข วันนี้ทางกระปุกดอทคอมก็ได้รวบรวมวิธีดูแลสุนัขโตเต็มวัยมาบอกต่อ จะได้ดูแลสุนัขได้อย่างถูกต้อง
1. เลี้ยงด้วยความปลอดภัย
ถึงแม้ความอยากรู้ของสุนัขโตเต็มวัยจะลดน้อยลงกว่าตอนที่ยังเป็นลูกสุนัข แต่ด้วยสัญชาตญาณแล้ว เมื่อเห็นวัตถุแปลกปลอมเจ้าตูบก็อดใจไม่ไหวที่จะเข้าไปดมและกัดแทะสำรวจอยู่ดี ฉะนั้นสารเคมีที่เป็นอันตรายที่ใช้ในบ้าน เช่น ยาฆ่าหญ้าหรือสารกำจัดศัตรูพืชต่าง ๆ เมื่อใช้แล้วควรจะเก็บให้มิดชิดหรือเก็บไว้ในที่ที่เจ้าตูบไม่ค่อยเข้าไปสัมผัส
2. พาออกกำลังกายทุกวัน
การออกกำลังกายทุกวันจะช่วยให้สุนัขมีสุขภาพดีทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ โดยจะช่วยให้อารมณ์แจ่มใส กล้ามเนื้อกระชับ เลือดไหลเวียนได้ดี มีกล้ามเนื้อและกระดูกที่แข็งแรง สำหรับวิธีออกกำลังกายนั้นให้พาสุนัขออกไปเดินเล่นทุกวัน หรือจะพาวิ่งเล่นตามสนามหญ้ากว้าง ๆ ก็ได้ แต่ต้องระวังเห็บหมัดด้วยนะคะ
3. หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งในวันที่ร้อนจัด
หลีกเลี่ยงการพาสุนัขไปทำกิจกรรมนอกบ้านและปล่อยสุนัขไว้ในรถในวันที่มีอากาศร้อนจัดหรือมีแดดจัด เพราะจะทำให้ร่างกายของพวกมันเกิดภาวะขาดน้ำ ผิวหนังไหม้แดด และเสี่ยงต่อการเป็นฮีทสโตรก ควรพาไปเดินเล่นหรือทำกิจกรรมตอนเช้าหรือตอนเย็นที่มีแดดอ่อน ๆ แทน
4. ชวนทำกิจกรรมที่หลากหลาย
เพื่อเป็นการเสริมสร้างทักษะทั้งร่างกายและสมอง ควรหากิจกรรมที่หลากหลายให้เจ้าตูบทำ อย่างเช่น พาไปวิ่งเล่น โยนกิ่งไม้ ดึงเชือก รับ-ส่งของ สอนให้จับมือ สอนให้นั่ง เป็นต้น ทั้งนี้ของเล่นหรือกิจกรรมต้องเหมาะสมกับขนาดและสายพันธุ์ของสุนัขด้วย
5. ควบคุมน้ำหนัก
เจ้าตูบที่มีรูปร่างอ้วนกลมอาจจะดูน่ารักน่ากอด แต่การที่ปล่อยหรือเลี้ยงให้พวกมันอ้วนนั้นถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะโรคอ้วนเป็นสาเหตุหลักของการเจ็บป่วย ก่อให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมา เช่น เกิดภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคไขข้ออักเสบ เป็นต้น ฉะนั้นควรควบคุมอาหารและพาเจ้าตูบไปออกกำลังกายบ่อย ๆ
6. รักษาสุขภาพช่องปาก
สุขภาพของเหงือกและฟันก็เป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้เหมือนกัน เพื่อป้องกันโรคในช่องปากไม่ว่าจะเป็นโรคเหงือก หินปูน และกลิ่นปาก ให้แปรงฟันให้เจ้าตูบเป็นประจำทุกวันหรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้งและหาของเล่นขัดฟันมาให้กัดเล่น ข้อควรระวังคือให้ใช้ยาสีฟันและแปรงสีฟันสำหรับสุนัขเท่านั้น เพราะยาสีฟันของคนมีส่วนประกอบที่อาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพช่องท้องได้
7. แปรงขนเป็นประจำ
สุนัขขนสั้นก็จำเป็นต้องได้รับการแปรงขนเช่นเดียวกับสุนัขที่มีขนยาว การแปรงขนนอกจากจะช่วยให้ขนไม่พันกันแล้วยังช่วยขจัดสิ่งสกปรกด้วย สำหรับแปรงที่ใช้นั้นก็ต้องเหมาะกับสุนัขด้วย เช่น แปรงขนหมู เหมาะกับสุนัขขนสั้น แปรงขนลวดเหมาะกับสุนัขที่มีขนหยิกฟู และแปรงขนหมุดจะเหมาะกับสุนัขทุกสายพันธุ์
8. หมั่นกำจัดเห็บและหมัด
นอกจากจะดูดเลือดแล้ว เห็บและหมัดยังเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคร้ายแรง เช่น โรคพยาธิในเม็ดเลือด สาเหตุของโรคมาจากเชื้อที่อาศัยเห็บเป็นพาหะ ฉะนั้นจึงควรอาบน้ำให้เจ้าตูบเป็นประจำ กำจัดเห็บหมัด รวมถึงบริเวณที่นอนและสนามหญ้าในบ้านด้วย
9. ตรวจสุขภาพประจำปี
ถึงแม้ว่าเจ้าตูบจะร่าเริง มีสุขภาพดี สามารถวิ่งเล่นได้ทั้งวัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะไม่ได้ป่วยอยู่ ในสุนัขโรคบางโรคก็ไม่แสดงอาการออกมาให้เห็นชัด ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันจึงควรพาพวกมันไปตรวจสุขภาพประจำปีอย่างละเอียด ถ้าเจอโรคจะได้รักษาได้ทัน
10. ให้กินอาหารที่มีประโยชน์
อาหารบางชนิดของคนก็เป็นอันตรายต่อเจ้าตูบ อย่างเช่น ช็อกโกแลต องุ่น และชีส เป็นต้น ทางที่ดีนั้นควรให้อาหารสำเร็จรูปสำหรับสุนัขจะดีที่สุด อาหารสำเร็จรูปสำหรับสุนัขในปัจจุบันมีหลายประเภท ทั้งแบบเม็ด แบบเปียก ซึ่งก็มีหลากหลายสูตรให้เลือก สำหรับอาหารที่ดีและเหมาะสมกับสุนัขโตเต็มวัยนั้นต้องประกอบด้วย
1. แหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพดีและมีที่มาชัดเจน เพราะสุนัขบางตัวอาจจะแพ้โปรตีนบางชนิด
2. คาร์โบไฮเดรตที่ย่อยและดูดซึมง่าย
3. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกายน้องหมา
สมาร์ทฮาร์ท โกลด์® แซลมอนมีลแอนด์ไรซ์ (SmartHeart GOLD® Salmon Meal and Rice)
มีคุณค่าสารอาหารตรงตามมาตรฐานของ AAFCO สูตรนี้จะได้แหล่งโปรตีนคุณภาพสูงชนิดเดียวจากปลาแซลมอนซึ่งอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ช่วยบำรุงสุขภาพผิวหนังและเส้นขน และช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ สำหรับแหล่งคาร์โบไฮเดรตจะได้มาจากข้าวเจ้าซึ่งสามารถดูดซึมและย่อยง่าย มีระดับของแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่เหมาะสม ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน นอกจากนั้นยังมีสารสกัดยัคค่าซึ่งจะช่วยลดกลิ่นมูล สารต้านอนุมูลอิสระจากวิตามินอีและโรสแมรี วิตามินเอ ซิงค์คีเลต ไบโอติน ช่วยบำรุงสุขภาพผิวหนังและเส้นขนให้แน่นและเงางามขึ้น และมีสารโซเดียมเฮกซะเมตาฟอสเฟตที่ช่วยลดการเกิดคราบหินปูนสำหรับสูตรสุนัขพันธุ์เล็กด้วย
สมาร์ทฮาร์ท โกลด์® แลมบ์แอนด์ไรซ์ (SmartHeart GOLD® Lamb and Rice)
เป็นสูตรที่หลีกเลี่ยงการแพ้โปรตีนจากเนื้อไก่ด้วยการใช้แหล่งโปรตีนที่มาจากเนื้อแกะ ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพเยี่ยม ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกอ่อนและข้อต่อ คาร์โบไฮเดรตจะได้มาจากข้าวเจ้าซึ่งจะย่อยและดูดซึมง่ายพร้อมกับฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์ช่วยส่งเสริมระบบย่อยอาหาร เสริมด้วยแมนแนน-โอลิโกแซคคาไรด์และเบต้า-กลูแคนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน มีวิตามินเอ ซิงค์ตีเลต ไบโอติน ช่วยบำรุงสุขภาพผิวหนังและเส้นขนให้แน่นและเงางามขึ้น และสารต้านอนุมูลอิสระ จากวิตามินอีและโรสแมรี โซเดียมเฮกซะเมตาฟอสเฟตที่ช่วยลดการเกิดคราบหินปูนสำหรับสูตรสุนัขพันธุ์เล็ก และมีสารสกัดจากต้นยัคค่าซึ่งจะช่วยลดกลิ่นมูล พร้อมรับรองคุณภาพของสารอาหารด้วยมาตรฐานจาก AAFCO
สำหรับการดูแลสุนัขโตเต็มวัยนั้นต้องดูแลในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมต่าง ๆ การดูแลเรื่องอาหาร เนื่องจากเป็นแหล่งพลังงานและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ ซึ่งสุนัขจะนำไปใช้ในการบำรุงกล้ามเนื้อ ขน และระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ฉะนั้นการเลือกอาหารจึงต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ
อาหารสุนัขสมาร์ทฮาร์ท โกลด์® สูตรใหม่ระดับซุปเปอร์พรีเมียม ทั้งสูตรสมาร์ทฮาร์ท โกลด์® แซลมอนมีลแอนด์ ไรซ์ และสูตรสมาร์ทฮาร์ท โกลด์® แลมบ์ แอนด์ ไรซ์ เป็นอาหารที่มีคุณค่าสารอาหารที่เหมาะสมกับสุนัขโตเต็มวัย มีสารอาหารครบถ้วนตามหลักโภชนาการที่สุนัขโตเต็มวัยควรจะได้รับ
จึงมั่นใจได้ว่าสุนัขของคุณจะได้รับการดูแลที่มากกว่าการดูแลเป็นพิเศษจาก สมาร์ทฮาร์ท โกลด์® ติดตามข้อมูลข่าวสารจากสมาร์ทฮาร์ท โกลด์® เพิ่มเติมได้ที่ Facebook page : SmartHeartThailand และ www.perfectcompanion.com