เจ้าของธุรกิจเช่าหมา ร่ายยาวแจงปมดราม่าทารุณสัตว์ ชี้มีคนของร้านประกบตลอด ขณะที่ เก๋ ชลลดา ไม่ต่อต้าน แต่หวั่นคนทำธุรกิจบางรายขาดความรับผิดชอบ ถือเป็นเรื่องใหม่ในไทย
เรียกได้ว่ากำลังเป็นดราม่าของกลุ่มคนรักสุนัขที่ออกมาแสดงความเห็นเรื่อง "ธุรกิจเช่าหมา" กันอย่างมากมาย แถมเจ้าของธุรกิจก็ปะทะคารมกับเหล่าชาวเน็ตแบบถึงพริกถึงขิง กลายเป็นดราม่าเรื่องใหม่ ที่คนไทยหลายคนสงสัยว่าธุรกิจเช่าหมาแบบนี้ก็มีด้วยเหรอ !! [อ่านข่าว ดราม่าธุรกิจให้เช่าน้องหมา หวั่น ไม่ได้รับความรักที่แท้จริง ฝั่งหนุน ซัดอย่ามโน]
อย่างไรก็ดี ล่าสุดวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ก็ได้สอบถามไปยัง คุณฟิวส์ เจ้าของธุรกิจเช่าหมาที่กำลังเป็นประเด็น โดยคุณฟิวส์เผยว่า ตนเองเปิดฟาร์มสุนัขและคาเฟ่สุนัขมานาน 2 ปีแล้ว ส่วนไอเดียเช่าสุนัขนั้นได้มาจากประเทศญี่ปุ่น แคนาดา อเมริกา ที่มีการให้เช่าสุนัขออกไปนอกสถานที่ และทำกิจกรรม อาทิ งานแต่งงาน งานวันเกิด วันละ 8 ชั่วโมง หรือเช่าเพื่อทดลองเลี้ยง เพราะบางคนอยากเลี้ยงแต่ไม่มั่นใจว่าจะรับมือกับพฤติกรรมของสุนัขได้ไหม ตรงนี้ตนเองมองว่าจะเป็นการแก้ปัญหาการเลี้ยงสุนัขไม่ไหว เพราะแต่ละพันธุ์วิธีเลี้ยงดูก็ไม่เหมือนกัน และหากเลี้ยงไม่ไหวก็ปล่อยให้กลายเป็นสุนัขเร่ร่อนและสุนัขจรจัดที่เห็นเป็นข่าวปรากฏอยู่มากในขณะนี้
คุณฟิวส์ กล่าวต่อว่า อยากจะทำความเข้าใจให้กลุ่มคนรักหมาได้ทราบกันว่าการเช่าหมา ไม่ใช่เอาสายจูงส่งให้มือคนเช่าแล้วก็จบไป มันไม่มีทางเป็นไปได้ หมาราคาตัวละ 8 แสน จะส่งให้ใครเช่าก็ต้องดูถึงความรักและความรับผิดชอบ และข้อจำกัดของทางร้านก็เยอะ สถานที่ที่จะพาหมาไปเป็นอย่างไร และที่สำคัญจะมีคนของทางร้านไปอยู่ด้วยตลอด เพราะหมาจะเชื่อฟังคนของทางร้าน หากเช่าข้ามคืน ตอนเช้าคนของทางร้านก็จะไปดูต่อ ไม่ใช่ว่า เช่าให้หมา จ่ายเงินจบแบบที่เข้าใจกัน
สำหรับดราม่าในอินเทอร์เน็ต คุณฟิวส์ กล่าวว่า ตนรับทราบ แต่ถามมาดีตนก็ตอบดี ส่วนคนที่ถามไม่น่ารัก ตนก็ตอบไปแบบนั้น เพราะไม่ใช่คนพูดจาอ่อนหวานอะไรอยู่แล้ว ส่วนหากมีคนเลียนแบบธุรกิจก็ยินดี เพราะถือว่ามีคนสนใจ และตนก็อยากมีเพื่อนทำธุรกิจเหมือน ๆ กัน
ขณะที่ เก๋ ชลลดา เมฆราตรี ดาราชื่อดังผู้ก่อตั้งมูลนิธิเดอะวอยซ์ เสียงจากเรา ก็โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องนี้บนเฟซบุ๊ก Chollada Mekratri เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ระบุว่า..
และให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเรื่องเล่าเช้านี้ เผยว่า ไม่ได้กีดกันธุรกิจดังกล่าว เพราะตามกฎหมายไม่ได้ระบุเอาไว้ว่าห้ามทำกิจการประเภทนี้ แต่อยากจะถามว่า หากคนเช่าเอาไปอยู่แบบทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ จะทำอย่างไร หมาตายจะเอาผิดที่ใคร คนเช่าขณะนั้นหรือเจ้าของกิจการ ตรงนี้ก็ต้องว่าไปตามเหตุผล ซึ่งการเปลี่ยนสถานที่มีผลต่อสภาพจิตใจของหมา อีกทั้งเรื่องธุรกิจดังกล่าวเป็นเรื่องใหม่ของคนไทย หากร้านนี้มีมาตรฐานและร้านอื่นไม่มีมาตรฐานล่ะจะทำอย่างไร ตรงนี้ก็ต้องดูถึงจิตสำนึกและพื้นฐานของคนไทย ที่ส่วนตัวตนอยากจะถามว่า คนไทยมีจิตสำนึกและมีความรับผิดชอบที่จะทำธุรกิจนี้อย่างมีมาตรฐานแล้วหรือเปล่า
ภาพและข้อมูลจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้, เฟซบุ๊ก Chollada Mekratri
