ช่วงเทศกาลฮาโลวีนอย่าสนุกจนเพลินจนลืมความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยง มาดู 10 ทริคดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างไรให้ปลอดภัยในช่วงเทศกาลฮาโลวีนกันค่ะ
เทศกาลฮาโลวีน (Halloween) ใกล้เข้ามาทุกที ตอนนี้หลาย ๆ คนคงเตรียมชุดและของตกแต่งบ้านเตรียมพร้อมสำหรับต้อนรับเทศกาลนี้แล้ว แต่ก็อย่าฉลองด้วยความสนุกจนลืมความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยงที่บ้านกันนะคะ เพราะเกมต่าง ๆ หรือของบางอย่างที่เรานำมาประดับตกแต่งอาจจะเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงเหล่าของเราได้ ซึ่งในวันนี้เราก็มี 10 ทริคป้องกันความปลอดภัยขั้นพื้นฐานให้กับน้องหมาและน้องแมวในช่วงเทศกาลฮาโลวีนมาฝากค่ะ
1. เก็บของหวานให้ไกลจากสัตว์เลี้ยง
ไม่ว่าจะเป็นลูกอม ขนม หรือช็อกโกแลตอย่าเอาให้น้องหมาหรือแมวกินเชียว เพราะของหวานพวกนี้เป็นอันตรายถึงชีวิตเลยนะ โดยเฉพาะสารให้ความหวานเทียมอย่าง ไซลิทอล (Xylitol) แม้จะกินเข้าไปในปริมาณไม่มากแต่ก็สามารถทำให้ชักได้ ส่วนช็อกโกแลตนอกจากจะทำให้มีอาการอาเจียน ท้องเสีย หายใจหอบถี่ หัวใจเต้นแรง หากเกิดแพ้มาก ๆ อาจถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็ได้ และแม้เคสเหล่านี้จะยังไม่เคยเกิดขึ้นกับแมว แต่ก็ควรระวังไว้ไม่ควรให้แมวกินเข้าไป อย่างน้อยก็กันไว้ดีกว่าแก้นะคะ
2. ไม่ปล่อยให้สัตว์เลี้ยงออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน
เทศกาลฮาโลวีนมักจะมีคนแต่งตัวเป็นผีหรือตัวละครต่าง ๆ นานา และผีตัวปลอมอาจจะเล่นอะไรแผลง ๆ ที่เราคาดไม่ถึงซึ่งอาจเป็นการยั่วยุให้หมา-แมวโกรธจนหน้ามืดเผลอไปกัดใครเข้า อาจจะได้รับบาดเจ็บจากกิจกรรมที่จัดขึ้น หรือเผลอวิ่งเล่นไปไกลจนโดนขโมยไปในช่วงที่คนกำลังชุลมุน ฉะนั้นขังพวกเขาไว้ในบ้านสักวันจะปลอดภัยกับสัตว์เลี้ยงมากกว่า
3. กันสัตว์เลี้ยงให้ห่างจากประตูบ้าน
ในเทศกาลฮาโลวีนแน่นอนว่าจะขาดการเล่น ทริกออร์ทรีต (Trick or Treat แปลว่า หลอกหรือเลี้ยง) ไปไม่ได้ ซึ่งเหล่าเด็ก ๆ ที่ตัวปลอมเป็นผีมาขอขนมนั้นมักจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่แปลกประหลาดมาเคาะประตูเพื่อขอขนม ซึ่งหากบังเอิญสัตว์เลี้ยงอยู่ใกล้ประตูพอดีอาจจะตกใจกับเสียงเคาะประตูและเสียงตะโกนของคนที่มาขอขนมได้ แต่ถ้าหากรู้อยู่แล้วว่าหมา-แมวขี้ตกใจง่ายควรจะหาทางป้องกันไว้เสียตั้งแต่เนิ่น ๆ
4. กักตัวแมวไว้ในบ้านก่อนถึงช่วงเทศกาล
แมวมักจะถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงเวทมนตร์ คาถา พ่อมด แม่มด โดยเฉพาะแมวดำเสี่ยงต่อการโดนแกล้งมาก ๆ เลย แต่ไม่ว่าแมวที่บ้านจะมีสีหรือลายอะไรก็ตาม หากปกติปล่อยให้แมวให้แมวออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก ก่อนถึงช่วงเทศกาลสัก 2-3 วันหรือมากกว่านี้เพื่อให้แมวคุ้นเคยและปรับตัวกับการอยู่ในบ้านตลอดช่วงเทศกาล
5. พืชอันตรายอย่าเผลอวางไว้เพ่นพล่าน
ถึงแม้ว่าพืชผักที่นำมาตกแต่งบ้านในช่วงเทศกาลฮาโลวีนอย่างฟักทองกับข้าวโพดจะไม่ใช้พืชมีพิษ แต่พืชทั้ง 2 ชนิดนี้มีผลกับระบบทางเดินอาหาร ซึ่งจะมีผลเสียกับลำไส้ถ้าหากสัตว์เลี้ยงกินเขาไปก็ในปริมาณมาก หรือถ้าหากน้องหมาเผลอกลืนฟักทองชิ้นใหญ่เข้าไปอาจจะทำให้เกิดปัญหาลำไส้อุดตันได้
6. ประดับโคมไฟไว้บนที่สูง
ฟักทองที่นำมาแกะสลักประดับด้วยเทียนข้างในหรือที่เรียกกันว่า แจ๊ก-โอ\'-แลนเทิร์น (jack-o\'-lantern) นั้นอาจเป็นอันตรายกับน้องหมาได้ เพราะเปลวไฟจากเทียนข้างในอาจจะไหม้ขนน้องหมาหากพวกเขาเดินเข้าไปใกล้ หรือบังเอิญเดินไปชนขนโคมไฟล้มและทำให้เกิดไฟไหม้ได้
7. เก็บสายไฟให้เรียบร้อย
ในช่วงวันฮาโลวีนหลาย ๆ บ้านอาจจะมีสายไฟของโคมไฟระโยงระยางเต็มไปหมด ซึ่งถ้าหากสัตว์เลี้ยงของคุณเผลอไปกัดหรือเคี้ยวเล่น อาจจะทำให้ปากเป็นแผลหรือที่ร้ายแรงกว่านั้นก็คืออาจจะโดนไฟช็อตได้ ฉะนั้นในระหว่างที่กำลังตกแต่งหรือช่วงเทศกาลก็อย่าลืมเก็บซ่อนสายไฟจากเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ให้เรียบร้อยด้วยนะคะ
8. แต่งตัวให้สนุกแต่ไม่ลืมความปลอดภัย
เทศกาลแบบนี้เจ้าของหลาย ๆ คนอาจจะอยากจับหมา-แมวที่บ้านมาแต่งตัวให้เข้าธีม ไม่ว่าจะเลือกชุดใดมาให้พวกเขาใส่ไม่ควรเลือกที่ดีไซน์สวย ๆ เพียงอย่างเดียวเท่านั้นนะคะ แต่ควรเลือกชุดที่สวมใส่สบายสามารถเคลื่อนไหวได้ง่าย ไม่รัดแน่นเกินไปจนหายใจลำบอก และปิดหน้าปิดตาปิดหูทำให้มองไม่เห็นหรือได้ยินเสียงค่ะ
9. ลองชุดให้พร้อมก่อนถึงวันงาน
จะแต่งให้หมา-แมวด้วยชุดอะไรก็ไม่มีปัญหา แต่ควรจะให้สัตว์เลี้ยงลองสวมดูก่อน ถ้าหลังจากสวมแล้วดูเหมือนว่าจะทำให้พวกเขาเครียด มีอาการแพ้ หรือแสดงพฤติกรรมแปลก ๆ ออกมา บางทีให้พวกเขาฉลองเทศกาลฮาโลวีนด้วยการสวมพร็อพเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น หมวก ผ้าคลุม หรือไม่แต่งอะไรเลยน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า
10. สวมปลอกคอระบุชื่อพร้อมที่อยู่
เทศกาลที่แสนจะคึกคักแบบนี้เจ้าของสัตว์เลี้ยงทั้งหลายอาจจะดูแลเหล่าสัตว์เลี้ยงได้ไม่ทั่วถึง พวกเขาอาจจะไปเล่นซนข้างนอกและจนลืมกลับบ้านหรือหาทางกลับบ้านไม่เจอ ฉะนั้นแล้วควรป้องกันไว้ก่อนด้วยการเขียนที่อยู่และเบอร์โทรของคุณติดไว้กับเสื้อผ้าของเจ้าตูบหรือเจ้าเหมียว เพื่อที่เวลามีคนเจอจะได้นำกลับมาคืนได้
สำหรับทริค 10 ข้อเหล่านี้ก็อย่าลืมนำไปใช้กันนะคะ จะได้ฉลองเทศกาลให้สนุกและไม่ต้องเป็นกังวลว่าสัตว์เลี้ยงของคุณจะได้รับอันตรายหรือสูญหาย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Petmd และ petinsurance