มาดูสิ่งที่คนรักสุนัขต้องใส่ใจกันเป็นพิเศษเมื่อหน้าฝนย่างเข้ามา เพื่อสร้างเกราะป้องกันให้กับน้องหมาที่คุณรัก
แม้น้องหมาจะเป็นสัตว์แต่เขาก็ไม่ได้ทนอากาศได้ทุกสภาวะหรอก ยิ่งฤดูกาลที่มีฝนโปรยมาด้วยแล้วยิ่งสำคัญใหญ่ เพราะมันส่งผลกับสุขภาพร่างกายและจิตใจของพวกเขาโดยตรง งั้นมาดูวิธีดูแลและปรับพฤติกรรมของน้องหมาให้เข้ากับสภาพอากาศ จากเว็บไซต์ visihow กันหน่อยดีกว่าเพื่อให้น้องหมาของคุณมีร่างกายที่แข็งแรงและจิตใจเบิกบานตลอดหน้าฝน เป็นสุนัขที่น่ารักของคุณตลอดไปกันเถอะค่ะ
1. อย่าปล่อยให้น้องหมาขนเปียกชุ่มตลอดเวลา
ไม่ต้องบรรยายเลยว่าน้องหมาซน ๆ เนี่ย ขนเปียกน้ำวันละกี่หนกันเชียว คุณเจ้าของทั้งหลายต้องหาผ้าขนหนูมาเช็ดให้เขาบ่อยกว่าฤดูกาลอื่นหน่อยนะคะ หรือจะใช้ไดร์เป่าผมเบอร์เบาสุดเพื่อเป่าขนให้แห้งหลังเดินเล่น จะได้ไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียตัวการก่อหวัดร้าย ๆ และถ้าหากการจับน้องหมาอาบน้ำในหน้าฝนมันยุ่งยาก แนะนำให้ลองใช้ไดร์แชมพูฉีดแทนจะง่ายกว่า
2. ป้องกันอุ้งเท้าน้อย ๆ ด้วยรองเท้ากันฝน
ขนาดคนยังรณรงค์ให้ล้างมือกันเลย แล้วนับภาษาอะไรกับน้องหมาที่ต้องใช้อุ้งเท้าที่บอบบางทั้ง 4 เหยียบย่ำไปในทุก ๆ ที่ ดูแล้วอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาที่น้องหมาต้องใช้อุ้งเท้าเดิน แต่ในหน้าฝนมันไม่ธรรมดาอย่างที่คิดนะสิ เพราะบรรดาเชื้อแบคทีเรียจากน้ำฝนที่เข้าไปแทรกซึมอยู่ในซอกอุ้งเท้า เป็นพาหะนำโรคตัวยงที่ทำให้เกิดการติดเชื้อได้โดยตรง ฉะนั้นควรจะหารองเท้ากันฝนสำหรับสุนัขมาสวมให้เขาเพื่อป้องกันน้ำฝน โคลน และเศษขยะอื่น ๆ หรือหมั่นเช็ดทำความสะอาด ตัดแต่งขนที่รกรุงรังโดยเฉพาะพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์, อัฟกัน ฮาวนด์, ชิสุ และไอริช เซ็ตเตอร์ ให้ปราศจากเชื้อโรคจากอุ้งเท้าน้องหมาด่วน ๆ ค่ะ
3. ดูแลเรื่องความชื้นในที่นอนน้องหมา
ในหน้าฝนน้องหมาก็มีความจำเป็นที่จะต้องออกไปรีแล็กซ์ร่างกายนอกตัวบ้านบ้าง ซึ่งกลับเข้ามาพร้อมกับขนเปียกซกเต็มไปด้วยคราบน้ำสกปรก แถมยังพุ่งตรงไปยังที่นอนเลยทำให้ที่นอนและสิ่งของอื่น ๆ เปียกชื้นตามไปด้วย เท่ากับว่าเปิดประตูเชิญเชื้อโรคให้เข้ามาหาโดยตรงเลยนะเนี่ย ดังนั้นเราต้องพาเขาไปอาบน้ำและเช็ดขนให้แห้งหลังจากการเล่นซนข้างนอก เปลี่ยนที่นอนให้บ่อยกว่าฤดูอื่น และทำความสะอาดอุปกรณ์น้องหมาเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย
4. ป้องกันรูหูไม่ให้เป็นรูเชื้อโรค
เมื่อพูดถึงฤดูฝนความชื้นเป็นหนึ่งสิ่งที่เราจะเมินเฉยไม่ได้ เพราะมันก่อให้เกิดเชื้อโรคต่าง ๆ รวมถึงเชื้อราที่ยากจะแก้ไข น้องหมาที่ต้องระวังเรื่องความชื้นเป็นพิเศษก็คือ ดัชชุน, ลาบราดอร์, และบาสเซ็ตฮาวด์ เมื่อขี้หูและความชื้นมาเจอกันจะยิ่งทำให้การติดเชื้อมันง่ายเข้าไปใหญ่ แนะนำให้เช็ดทำความสะอาด หลังจากออกไปเดินเล่นนอกบ้าน ส่วนน้องหมาที่ขนยาวหน่อย อยากให้คุณเจ้าของหาหนังยางมารัดขนเพื่อเปิดหูให้อากาศพัดพาความชื้นออกมาบ้าง
5. พาน้องหมามาเดินเล่นในบ้านแทนไปก่อน
ฝนมาใคร ๆ ก็ต้องหลบเข้าร่มไม่เว้นแม้แต่น้องหมา กิจกรรมที่เคยเดินเล่นยืดเส้นยืดสายนอกบ้านจำเป็นที่จะต้องลดลงบ้าง ไม่ควรพาน้องหมาไปตากอากาศชื้นแฉะบ่อย ไม่เช่นนั้นทั้งเราและน้องหมาอาจจะต้องไปนั่งสบตาซึ้ง ๆ กับคุณหมอก็เป็นได้ ให้พาเขาเดินเล่นอยู่ภายในบ้านหรือสวนหย่อมแทนไปก่อน แต่ถ้าใครที่อยู่คอนโดหรืออพาร์ทเม้นท์ก็พาเขาเดินขึ้นลงบันไดแทนเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงก็ได้ค่ะ
6. เพิ่มเส้นใยในอาหารรักษาระบบขับถ่าย
ดูเหมือนอาหารการกินไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับฝนฟ้า แต่น้องหมามักจะเกิดอาการแพ้อาหารบ่อยในช่วงฤดูฝนนี่แหละ ปรับเปลี่ยนส่วนผสมอาหารบางอย่างให้มีกากใยเส้นของผักและผลไม้มากขึ้น ควบคุมปริมาณการกินให้บาลานซ์กับการขยับเขยื้อนร่างกายในแต่ละวัน วิธีนี้จะช่วยให้ระบบขับถ่ายน้องหมาเป็นปกติแม้จะไม่ได้ออกเดินบ่อยเท่าฤดูกาลอื่น
7. ระวังโรคผิวหนังอย่างดี ก็ไม่มีอารมณ์ร้าย
ไม่ว่าคนหรือสัตว์เมื่อมีอาการเจ็บป่วยจะทำให้อารมณ์ไม่คงที่ ถ้าน้องหมาของคุณมีอารมณ์เกรี้ยวกราดผิดปกติขอให้เดาได้เลยว่าเขาเจ็บป่วยอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอาการติดเชื้อทางผิวหนัง ที่จะสังเกตเห็นได้จากการเลียที่ผิดปกติ รอยขีดข่วน อาการคัน และมีกลิ่นหูรุนแรง สาเหตุมาจากเชื้อราและแบคทีเรียเข้าไปสะสมอยู่ในร่องชั้นผิวหนัง ซึ่งน้องหมาพันธุ์บ็อกเซอร์ และปั๊กมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อมากกว่าเพื่อนต่างสายพันธ์ุของเขา เพราะด้วยร่องผิวหนังที่ลึกมากกว่าพันธุ์อื่น หากเกิดเคสนี้ขึ้นอยากให้ปรึกษากับสัตวแพทย์โดยตรงจะดีกว่า
คุณเจ้าของน้องหมาทั้งหลายอย่าเผลอนอนสบาย จนลืมมาดูแลเจ้าตูบตาแป๋วในช่วงหน้าฝน ขอให้ทำตามคำแนะนำง่าย ๆ ที่เราเอามาฝากกันดีกว่าการไปพบสัตวแพทย์เยอะเลย