วิธีเก็บอาหารสัตว์เลี้ยง เก็บยังไงให้อาหารคงความสดใหม่ มีกลิ่นหอม ไม่เสียเร็ว พร้อมวิธีป้องกันมดขึ้นอาหาร สัตว์เลี้ยงอย่างเจ้าเหมียวหรือเจ้าตูบนั้นก็เป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัว ซึ่งเราก็ควรใส่ใจและให้ความสำคัญในเรื่องของอาหารสัตว์เลี้ยงไม่แพ้อาหารของเราเอง แต่หลายคนอาจเคยเจอปัญหาอาหารหมดอายุเร็ว เกิดรา หรือมีมดมาไต่สร้างความรำคาญ วันนี้เราจึงจะมาแนะนำวิธีเก็บอาหารสัตว์เลี้ยงให้คงความสดใหม่ หอม อร่อย พร้อมทั้งวิธีป้องกันมดและแมลงอื่น ๆ ไม่ให้มารบกวนกัน การให้สัตว์เลี้ยงกินอาหารหมดอายุอาจส่งผลให้มีอาการท้องเสีย อาเจียน และป่วยได้ เพราะฉะนั้นก่อนซื้ออาหารจึงควรเช็กวันหมดอายุก่อน เพื่อพิจารณาดูว่าจะกินหมดทันหรือไม่ และไม่ควรซื้อตุนไว้ครั้งละมาก ๆ แล้วเก็บไว้จนเก่า ควรทยอยซื้อใหม่ทุก ๆ 4-6 สัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเปียกหรืออาหารเม็ด เพื่อที่สัตว์เลี้ยงจะได้กินอาหารที่มีความสดใหม่อยู่เสมอ โดยทั่วไปแล้วอาหารสัตว์เลี้ยงแต่ละประเภทจะมีวิธีการเก็บรักษาที่แตกต่างกัน ซึ่งมีคำแนะนำในการเก็บดังต่อไปนี้ เก็บอาหารที่เหลือไว้ในบรรจุภัณฑ์เดิม แล้วปิดด้วยพลาสติกสุญญากาศ หรือจะเก็บในภาชนะสุญญากาศก็ได้ พร้อมกับนำไปแช่ในตู้เย็น อย่าวางทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องนานเกิน 1-2 ชั่วโมง ป้องกันไม่ให้แบคทีเรียเจริญเติบโต หลังนำอาหารออกจากตู้เย็น นำไปอุ่นด้วยไมโครเวฟ 5-10 วินาที แล้วลองแตะอาหารดูก่อนว่าร้อนเกินไปหรือไม่ก่อนให้สัตว์เลี้ยงกิน เก็บอาหารไว้ในบรรจุภัณฑ์เดิม ม้วนปากถุงอาหารลง รีดอากาศออกให้เหลือน้อยที่สุด แล้วปิดซิปล็อกหรือหนีบด้วยคลิป นำถุงอาหารเก็บในภาชนะที่มิดชิดหรือสุญญากาศ เพื่อลดการสัมผัสกับอากาศและป้องกันแมลงมารบกวน เก็บอาหารไว้ในที่แห้งและเย็น ปราศจากความร้อนและความชื้น เพื่อคงความสดใหม่และกลิ่นอาหารเอาไว้ อาหารที่ยังไม่เปิดกระป๋องสามารถเก็บไว้ได้นานหลายปีเมื่อเก็บไว้ในที่แห้งและเย็น อาหารที่เปิดแล้วสามารถทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องได้ไม่เกิน 4 ชั่วโมง อาหารที่เปิดแล้วควรเก็บไว้ในตู้เย็น สามารถอยู่ได้ไม่เกิน 7 วัน หากให้สัตว์เลี้ยงแล้วกินไม่หมดภายใน 7 วัน ให้นำไปแช่แข็ง อย่าให้อาหารแช่แข็งที่ซื้อมาละลายก่อนเก็บเข้าช่องแช่แข็ง เก็บอาหารที่เหลือไว้ในตู้เย็น หรือทำตามคำแนะนำที่ระบุไว้บนฉลาก อาหารแช่แข็งที่นำมาละลายแล้วให้เก็บไว้ในช่องแช่เย็นปกติ ไม่ควรนำกลับไปแช่แข็งซ้ำ และนำมากินภายในเวลาที่ระบุไว้บนฉลากสินค้า ไม่ควรทิ้งอาหารสดไว้ที่อุณหภูมิห้องนานกว่า 1-2 ชั่วโมง ควรหมั่นทำความสะอาดชามหรือภาชนะสำหรับใส่น้ำและอาหารของสัตว์เลี้ยงทุกวัน โดยใช้น้ำอุ่นและสบู่ทำความสะอาดชาม หลังจากนั้นผึ่งให้แห้งก่อนนำไปใส่อาหาร ในห้องหรือบริเวณที่ให้อาหารสัตว์เลี้ยงควรจะมีความสะอาด ไม่ปล่อยให้รกหรือสกปรก หมั่นดูดฝุ่น เช็ดคราบที่เลอะเทอะ และทำความสะอาดบริเวณนั้น ๆ เป็นประจำ เพื่อกำจัดสิ่งที่อาจล่อให้มีมดเข้ามา แนะนำให้วางสูงจากพื้น ใช้ขาตั้งวางถ้วยอาหาร ใช้ภาชนะใส่อาหารแบบยกสูง หรืออาจมีแผงกั้นอาหารหกด้วย เพื่อลดโอกาสที่อาหารจะหกเลอะพื้น แถมยังช่วยป้องกันไม่ให้มดและสัตว์ไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ มารบกวนอีกด้วย สามารถทำผงโรยหรือน้ำยาสเปรย์พ่นไล่มดที่ปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยงด้วยตัวเองได้ ดังเช่นต่อไปนี้ โรยด้วยน้ำตาลไอซิ่งผสมเบกกิ้งโซดา โดยน้ำตาลไอซิ่งเป็นเหยื่อล่อให้มดออกมา และเบกกิ้งโซดาจะเป็นตัวช่วยกำจัดมด พ่นบริเวณที่วางอาหารสัตว์ด้วยน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชูผสมกับน้ำ กลิ่นของส่วนผสมทั้ง 2 อย่างนี้จะช่วยป้องกันมดไม่ให้มาเข้าใกล้ได้ ป้องกันมดด้วยน้ำมันหอมระเหย เช่น เปปเปอร์มินต์ กลิ่นเลมอน โดยนำน้ำมันหอมระเหยหยดลงในฟ็อกกี้ใส่น้ำประมาณ 5-10 หยอด แล้วนำไปพ่นบริเวณใกล้กับที่วางอาหารสัตว์ ในการสร้างที่กั้นมดนั้นสามารถทำได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการแปะเทปกาวสองหน้าล้อมรอบบริเวณที่ให้อาหารสัตว์เลี้ยง หรืออาจใช้วาสลีนทารอบ ๆ ชามให้อาหารก็ได้ แต่ถ้าพบว่าสัตว์เลี้ยงชอบเลียกินวาสลีนที่ทาไว้ก็ควรเลี่ยงวิธีนี้ เพราะถึงแม้จะไม่เป็นพิษกับสัตว์เลี้ยง แต่ถ้ากินเข้าไปมาก ๆ ก็อาจทำให้ท้องเสียได้ ใครที่กำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับการเก็บรักษาอาหารสัตว์เลี้ยง แนะนำให้ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้กันดู น่าจะช่วยให้อาหารของสัตว์เลี้ยงคงคุณภาพดีอยู่เสมอ ให้น้องหมาน้องแมวได้กินกันอย่างเอร็ดอร่อย 10 แบรนด์อาหารแมวเกรดซูเปอร์พรีเมียม มีประโยชน์ช่วยบำรุงสุขภาพเหมียว 15 ยี่ห้ออาหารสุนัข ดีต่อสุขภาพ สารอาหารครบถ้วน ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง 6 อาหารบาร์ฟแมว เพิ่มความอิ่มอร่อยให้เจ้าเหมียว แถมมีสุขภาพดี ขอบคุณข้อมูลจาก : petmd.com, cats.com, petmd.com, neaterpets.com
แสดงความคิดเห็น