x close

เจ้าของหมาปอม โพสต์แจงทุกประเด็นตั้งแต่วันเกิดเรื่อง ยันไม่ได้โกหก


เจ้าของหมาปอม โพสต์แจงทุกประเด็นตั้งแต่วันเกิดเรื่อง ยันไม่ได้โกหก
เจ้าของหมาปอม โพสต์แจงทุกประเด็นตั้งแต่วันเกิดเรื่อง ยันไม่ได้โกหก

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Rundevil Mirun

            เจ้าของหมาปอมโดนทำร้าย โพสต์แจงทุกประเด็นตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง ยันไม่ได้โกหก วอนอย่านำมาตรฐานของตัวเองมาตัดสินคนอื่น เผยที่ไม่ได้ออกมาพูดก่อนหน้านี้ เพราะตำรวจแนะนำเนื่องจากเป็นคดีความที่คนสนใจ

            กลายเป็นดราม่าคนรักสุนัขเรื่องยาวที่ใครหลาย ๆ คนให้ความสนใจเป็นอย่างมากในขณะนี้ เกี่ยวข้องกับอาการของ "น้องเจคอป" สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน ที่ถูกคนร้ายใช้ของมีคมกรีดขา เฉือนไข่ และราดน้ำยาล้างห้องน้ำ จนน้องเจคอปได้รับบาดเจ็บสาหัสและอาจต้องตัดขาทิ้ง ซึ่งหลังจากที่มีการแชร์เรื่องราวดังกล่าวออกไป ก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำอันโหดร้าย แต่ในขณะเดียวกันดาราสาวผู้รักสุนัขอย่าง ชัญญ่า ทามาดะ ก็ได้ตั้งข้อสงสัยในเรื่องนี้ จนกลายเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างมากมาย ซึ่งเจ้าของสุนัขก็ออกมาอธิบายเพียงว่าไม่ต้องการเงินรักษาและเงียบหายไประยะหนึ่ง...

            จนกระทั่งล่าสุด (1 กันยายน 2557) ที่เฟซบุ๊กของ Rundevil Mirun ก็ได้เล่าเรื่องราวแบบละเอียดยิบให้ได้อ่านกัน พร้อมชี้แจงทุกข้อสงสัยให้กระจ่าง สรุปใจความได้ว่า เธอดูแลและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองมาตลอด และรีบนำเจคอปไปหาหมอทันทีที่รู้ว่าโดนทำร้าย จึงไม่ได้มาตั้งสเตตัสหรือบอกใครว่าหมาโดนทำร้ายตั้งแต่วันแรก เพราะตอนนั้นแค่สันนิษฐานและก็มัวแต่ยุ่งในการรักษา

            หลังจากนั้นเมื่อทราบเห็นว่าเจคอปถูกของมีคมกรีดที่ขา จึงฉุกคิดได้ว่าน่าจะมีคนเข้ามาทำร้าย เลยแจ้งความไว้กับตำรวจ เนื่องจากกลัวว่าคนร้ายจะเข้ามาทำร้ายอีก ดีไม่ดีอาจจะเข้ามาทำร้ายตนด้วยซ้ำ เลยปรึกษาผ่านพี่ ๆ เพื่อน ๆ ผ่านเฟซบุ๊ก จนกลายเป็นกระแสอย่างที่เห็น ซึ่งตอนนั้นมีแต่กระแสความช่วยเหลือ มีแต่คนมาแนะนำว่าควรจะทำอย่างไร แนะนำหมอที่ดีที่สุดให้กับเจคอป

            ทั้งนี้เจ้าของเจคอปมองว่า อาการบาดเจ็บของเจคอปสำคัญกว่าที่จะมานั่งพิมพ์ข้อความชี้แจงข้อเท็จจริงแบบสละสลวย กลายเป็นถูกจับผิดในเรื่องต่าง ๆ ทั้งรักหมาแต่ไม่เอาหมามานอนด้วย หรือทำร้ายหมาเพื่อประชดใครตามที่เข้าใจ ส่วนเรื่องที่ไม่ขอรับความช่วยเหลือนั้น เป็นเพราะว่าที่บ้านยังพอมีกำลังดูแลในตรงนี้ เลยอยากช่วยตัวเองก่อน

            ในส่วนเรื่องคดีความก็คืบหน้าไปมากแล้ว และทุกอย่างก็เข้าสู่กระบวนการขั้นตอนตามกฎหมายที่ถูกต้องและชัดเจน ซึ่งทางตำรวจก็แนะนำมาว่าเธอไม่ควรที่จะตอบโต้อะไรในตอนนี้เพราะคดีความกำลังเป็นที่น่าสนใจของใครหลาย ๆ คน อาจจะมีการนำข้อความไปตีเป็นประเด็นใหม่ได้

 
สำหรับข้อความทั้งหมดมีดังต่อไปนี้..

เจ้าของหมาปอม โพสต์แจงทุกประเด็นตั้งแต่วันเกิดเรื่อง ยันไม่ได้โกหก

คดีความ

            ขอชี้แจงเรื่องราวบางส่วน ที่ตอนนี้กลายเป็นประเด็นที่หลาย ๆ คนตั้งคำถามและโจมตีแบบผิด ๆ เพราะการสื่อสารที่ผิดพลาดไม่ตรงกัน

            1. เรื่องน้องเจคอป รันดูแลแก้ไขปัญหาด้วยตนเองมาตลอด เริ่มต้นด้วยการรีบพาเจคอปไปรักษากับคุณหมอที่โรงพยาบาลสัตว์นวมินทร์ ตั้งแต่วันแรกที่เจอน้องนอนทรุดอยู่ในคอกหน้าบ้านในสภาพเปียกโชกด้วยวิกซอล ไปขอให้คุณหมอช่วยทำการรีบล้างท้อง เพราะเข้าใจว่าน้องอาจจะโดนให้กินวิกซอล ไม่เคยคิดและคาดไม่ถึง ว่าน้องยังจะโดนทำร้ายแบบอื่นด้วย เพราะวันแรกก็ไม่ได้สังเกตและเห็นแผล ด้วยอารมณ์ตกใจรีบมุ่งเน้นไปที่การล้างท้องช่วยชีวิต

            อีกอย่างตัวน้องก็เปียกมอมขนตัวขนขาก็หนา (ขนปอมมี 2 ชั้น) ก็ไม่เห็นแผลจริง ๆ คุณหมอก็ไม่เห็นแผล รันก็ไม่เห็นแผลเช่นกัน ที่วันแรกไม่ได้พูดถึงประเด็นหรือโวยวายว่ามีคนร้ายเข้ามาทำร้ายหมาขึ้นหน้าเฟซบุ๊ก เพราะรันคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องสันนิษฐาน และยังนึกไม่ถึงว่าใครจะเข้ามาเอาน้ำยามาราดตัวหมา มีแค่การคิดเองในใจและพูดคุยตั้งข้อสงสัยกับเพื่อนที่สนิทเท่านั้น (ผิดไหมที่ไม่โพสต์โวยวายลงในเฟซส่วนตัว เป็นคนที่ไม่ค่อยติดใจ เอาเรื่องเอาความกับใคร นี่คือจุดอ่อนที่กลายมาเป็นข้อเสีย)

            จนวันต่อมาเริ่มสังเกตว่าน้องไม่ค่อยจะลุกเดินหรือลุกเดินได้บ้างแค่นิดเดียว แล้วก็ล้มลงเอาแต่นอนและเริ่มสังเกตว่าขาหน้าของน้องมีอาการแดง ๆ บวมช้ำ เวลาลุกก็ยกขาหน้าห้อย ๆ แสดงอาการเจ็บเมื่อเอามือไปจับขา (วันแรกเลย น้องโดนให้ยาซึม เพราะน้องไม่ยอมให้คุณหมอทำการรักษา ตอนเอามือไปจับขา น้องเลยไม่แสดงอาการเจ็บปวด แค่นอนนิ่ง ๆ)

            วันต่อมาจึงได้พาน้องไปตรวจร่างกายซ้ำ แจ้งคุณหมอไปว่า ขาหน้าของน้องแดงบวม เมื่อคุณหมอตรวจและทำการโกนขนขาออก จึงได้เจอบาดแผลที่เหมือนโดนกรีดด้วยของมีคม เป็นแผลยาวที่ขาด้านหน้า ส่วนอัณฑะและขาหลัง มาเจออีกทีวันที่พาน้องมาล้างแผลขาด้านหน้า เจอตอนโกนขนออกเท่านั้นตอนนั้น

            ส่วนอัณฑะที่เจอคือ เจอรอยกรีดเฉือนเป็นแผลด้วยของมีคม จนเมื่อได้มีการนำน้องมาทำแผลรักษาในวันต่อ ๆ มา ทั้งขาและไข่ เกิดอาการเน่าและมีเนื้อตาย คุณหมอจึงต้องรักษาด้วยการตัดเนื้อตายที่ขา รวมทั้งไข่ออก และต้องตัดเนื้อตายที่ขาและไข่ ออกทุกวัน ๆ เพราะคาดว่าน้ำยาวิกซอลคงกัดเนื้อเน่า เลยต้องตัดเนื้อเน่าทิ้งไป ตัดออกทุกวัน ๆ จนลึกถึงเส้นเอ็น และกล้ามเนื้อ

            2. หลังจากเห็นแผลน้องที่โดนกรีดด้วยของมีคม รันจึงได้ฉุกคิดแล้วว่า ต้องมีคนใจร้ายจงใจเข้ามาทำร้ายหมาแน่นอน (เพราะเคยมีเหตุการณ์เก่า ๆ ที่หมาเคยได้รับบาดเจ็บ แต่ตอนนั้นไม่ได้ติดใจเอาความใคร เพราะไม่มีหลักฐานเลยคิดว่าคงเป็นอุบัติเหตุ) แต่พอมาเจอแบบนี้อีกรอบรันเลยไม่ยอมอีกต่อไปแล้ว จึงได้โทรไปคุยกับทางโครงการ เพื่อขอดูกล้องวงจรปิด

            ป.ล. ที่บ้านไม่มีกล้องวงจรปิด (ที่โครงการมีกล้องแค่ตรงป้อมยาม บริเวณรถเข้า-ออก) รวมถึงได้มีการสอบถาม รปภ. ทุกอย่าง แต่ไม่ได้ความคืบหน้าอะไร เจ้าหน้าที่โครงการเลยแนะนำให้ รันไปแจ้งความไว้ก่อน เพราะเกรงจะเกิดเหตุอันตรายกับเรา ซึ่งขณะนั้น รปภ. ที่มาตรวจตราก็แจ้งเราว่า บ้านข้าง ๆ เราถัดไปอีก 2 หลัง เค้ามีกล้องติดหน้าบ้าน แต่ไม่แน่ใจว่าจะส่องถึงบ้านรันไหม รันเลยโทรไปขอให้เจ้าหน้าที่โครงการตามเรื่องให้ เพื่อขอเจ้าของบ้านหลังนั้นดูกล้อง ส่วนรันก็ได้ไปแจ้งความไว้กับตำรวจ ในข้อหาบุกรุกยามวิกาลและทำร้ายร่างกายสัตว์เลี้ยง เพราะเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัย ซึ่งต่อมา เจ้าหน้าที่โครงการโทรมาแจ้งรันว่า บ้านหลังที่มีกล้องไม่สามารถให้ดูกล้องวงจรปิดได้ อาจจะไม่สะดวกหรืออะไรก็ตามแต่

            รันเลยมุ่งเน้นมาที่การรักษาเจคอป รันพาน้องไปรักษาแผลตามอาการที่โรงพยาบาลนวมินทร์ทุกวัน แต่บาดแผลของน้องไม่ดีขึ้น ขาและไข่มีเนื้อเน่าเนื้อตายที่ต้องตัดออกทุกวัน จนรันเป็นกังวล เลยได้ปรึกษาเพื่อน ทั้งเพื่อนในเฟซ และเพื่อนสนิท จนรันตัดสินใจพาน้อง ไปหาหมอ ที่โรงบาลพยาบาลเกษตรศาสตร์และคุณหมอที่นี่ วินิจฉัยออกมาว่า จำเป็นต้องตัดขา ทั้งสอง 2 ข้าง ของน้องทิ้ง เพื่อรักษาชีวิต ส่วนอีก 2 ขาหลัง รอดูอาการทำแผลไปก่อน ซึ่งคุณหมอบอกเปอร์เซ็นต์ที่จะต้องตัดตามขาหน้ามีสูง แต่รันตัดสินใจไม่แอดมิดน้อง ทั้ง ๆ ที่ทางโรงพยาบาลจองกรงให้น้องแล้ว เพื่อเตรียมแอดมิด เตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการผ่าตัดให้เร็วที่สุด

            แต่รันยังทำใจไม่ได้ที่จะให้น้องโดนตัดขา เลยพาน้องกลับมาบ้าน และโพสต์ระบาย ให้เพื่อนในเฟซในไลน์ฟัง เผื่อมีคนรู้จักหมอเก่ง ๆ จนกระทั่ง มีเพื่อนในไลน์ที่หวังดีดึงรันเข้าไปในกลุ่มคนรักสุนัขกลุ่มหนึ่ง โดยรันหวังแค่ว่า อยากให้แนะนำคุณหมอที่เก่ง ๆ ให้ เท่านั้น เพราะตอนนี้เวลามีไม่มากแล้ว

            ขณะเดียวกัน ก็ได้มีเพื่อนอีกคน ได้โทรติดต่อกับทาง WDT และให้รันโทรเองด้วยเพื่อเล่าเรื่องและวันรุ่งขึ้น ฝ่ายกฎหมายของ WDT ก็ได้โทรมาสอบถาม ว่าตำรวจมาดูบ้านรันหรือยัง รันก็บอกว่ายัง WDT จึงประสานและรับปากว่าจะดำเนินการเรื่องติดตามคดีให้ โดยทาง WDT ได้โทรประสานงานกับทางตำรวจ สน.โคกคราม ที่รันเคยไปแจ้งความไว้ เพื่อให้ตำรวจมาลงพื้นที่ และตำรวจก็มาลงพื้นที่ในวันนั้นเลย จนเป็นเรื่องโด่งดังขึ้นมา

            รันต้องขอขอบคุณการช่วยเหลือที่ฉับไวของ WDT ด้วย เพราะตำรวจก็ประสานงานเกี่ยวกับคดีกับ WDT อยู่ตลอด

            ส่วนรัน มุ่งเน้นไปที่การหาหมอรักษาขาเจคอป โดยที่ได้รับคำปรึกษา จากพี่ ๆ ในกรุ๊ปคนรักสุนัขในไลน์ นัดคิวกับ อ.หมอกัมปนาท ให้ และในช่วงเวลาเดียวกัน ก็มีเพื่อนในกรุ๊ปไลน์ (คุณเมล์) ที่ได้รับรู้เรื่องราวและเกิดความสงสารเจคอป และหวังดีกับน้องเจคอปจริง ๆ จึงนำเรื่องราว ไปแชร์ต่อในโซเชียล รวมถึงแชร์ไปยังสื่อต่าง ๆ จนมีสื่อเข้ามาติดต่อ ข้อมูลที่ถูกแชร์ เป็นความจริง ไม่ได้โกหกหรือบิดเบือน เพียงแต่ปัญหาคือ การที่คุณเมล์กับเราไม่ได้มีการพูดคุย สอบถามกันก่อน ถึงรายละเอียด จึงทำให้คำพูด รวมไปถึงรายละเอียด ที่ถูกแชร์ ผิดเพี้ยนไป จนก่อให้เกิดปัญหา และเป็นประเด็นใหญ่ในเวลาต่อมา ซึ่งเรื่องนี้เรายืนยันว่าเราไม่ได้โกหก คุณเมล์ก็ไม่ได้โกหก เพียงแต่เราไม่ได้คุยกันถึงรายละเอียดมาก่อน เลยเกิดความผิดพลาดในการสื่อสารจนคนเข้าใจผิดไปต่าง ๆ นานา ซึ่งในที่นี้เราก็ต้องขอโทษ ทุก ๆ คน ทุก ๆ ฝ่ายด้วย รวมถึงทุก ๆ คนที่เข้ามาเพราะอยากจะช่วยเหลือน้องเป็นห่วงน้องจริง ๆ แต่เกิดความเข้าใจผิด เพราะการสื่อสารไม่ตรงกัน

            3. การบอกเล่า การโพสต์ข้อความของรัน หรือแม้แต่การแจ้งความ เป็นการเล่าสรุปในเหตุการณ์ที่หลังจากเกิดเรื่องขึ้นแล้ว คือน้องถูกกระทำทารุณ มีการกรีดตัดขา เฉือนไข่ และนอนแช่วิกซอล รันโพสต์ระบายอารมณ์ โกรธ โมโห รวมถึงต้องการคำปรึกษาให้เพื่อน ให้พี่น้องในเฟซ ไม่กี่ร้อยคนรับรู้เท่านั้น ฉะนั้นคำพูด การเรียบเรียงอาจจะไม่ได้ปะติดปะต่อ สละสลวย เพราะขณะนั้น ไม่ได้คิดว่าจะมานั่งพิมพ์หรืออธิบายข้อเท็จจริง แบบหลักการให้ใครฟัง และเรื่องที่ถกเถียงกันไปมาว่า สรุปหมอที่โรงพยาบาลสัตว์นวมินทร์เป็นคนตัดไข่ หรือคนร้ายเป็นคนตัดไข่ จริง ๆ แล้วคือ หมอบอกว่าเพราะถูกของมีคมเฉือนจนอักเสบ และเกิดการเน่า มีเนื้อตาย คุณหมอจึงต้องค่อย ๆ ตัด เนื้อตายออก รวมไปถึงขาของน้องด้วย แค่นี้คนก็มาว่ารันแล้วว่าพูดไม่เหมือนหมอ

            4. เรื่องคดีตามหาคนร้าย รันไม่เคยนิ่งเฉย หรือไม่ยอมให้ตำรวจมาช่วยสืบคดี แต่มีเพื่อนที่โทรแจ้ง WDT และ WDT ก็ประสานตำรวจเข้าสืบสวนทันที เรื่องคดีตั้งแต่ก่อนที่จะดังขึ้นมา รันจึงคุยแต่กับ WDT และตำรวจมาตลอด ไม่ได้คุยเรื่องคดี กับฝ่ายอื่น เรื่องคดีรันเลยยกให้เป็นหน้าที่ของ WDT และตำรวจในการสืบหาคนร้าย และWDT เขาก็ทำหน้าที่อย่างเป็นกลางที่สุดแล้ว ทางตำรวจก็ทำหน้าที่ของตำรวจ ส่วนหน้าที่ของรันคือการมุ่งเน้นรักษาเจคอป พยายามทำและหาหนทางทุกอย่างเพื่อ ที่จะรักษาเจคอปอย่างเดียวเท่านั้น

            5. คนเราเลี้ยงหมา รักหมาแตกต่างกันทั้งวิธีการและความคิด การที่รันไม่ได้เอาหมานอนด้วย ไม่หมายความว่า ไม่รักหมา บางครั้งบางที รันอาจจะบกพร่อง ในหน้าที่ หรืออาจจะไม่ได้ดูแลเค้าได้ดีที่สุด แต่รันก็รักเค้ามากที่สุด รันไม่มีวันทำร้ายน้องหมาของตัวเองอย่างแน่นอน กล้าสาบาน สิ่งใดที่ ถ้าหลาย ๆ คน คิดว่ารันน่าจะทำได้ดีกว่านี้เพื่อน้องหมา แนะนำรันมาได้เลยนะคะ รันพร้อมที่จะนำไปปรับปรุงดูแลแก้ไขหลาย ๆ สิ่ง ให้ดีขึ้น รันไม่ใช่โรคจิตวิปริต ไม่ได้เป็นคนสองบุคลิก ไม่ได้ทำร้ายหมาเพราะประชดใครใด ๆ คนพูดก็มโนกันไปต่าง ๆ นานา คนที่เข้าใจและหวังดีจริง ๆ  ก็เข้ามาให้กำลังใจก็มีเยอะ ขอบคุณมาก ๆ นะคะ ขอบคุณจริง ๆ

            ป.ล. อย่าเอามาตรฐานความรักแบบของตน มาตัดสินคนอื่นเลยค่ะ

            6. เรื่องของการไม่รับความช่วยเหลือ ก่อนอื่นรันก็ต้องขอขอบคุณทุก ๆ คน ทุก ๆ ฝ่ายที่หวังดีและเข้ามาให้ความช่วยเหลือน้องเจคอป รันยินดีรับฟัง และยอมรับความช่วยเหลือคือเรื่องคำแนะนำ ตลอดจนการให้ช่วยหาคุณหมอที่เก่ง ๆ ที่รันต้องการความช่วยเหลือ คือเรื่องแบบนี้ แต่ในเรื่องของค่าใช้จ่าย รันและครอบครัว เล็งเห็นว่า เรายังพอมีความสามารถที่จะดูแลน้องได้ เลยอยากจะรักษาน้องเอง เพราะยังมีน้องหมาน้องแมวอีกมากมายที่ไม่ได้มีโอกาส รอความช่วยเหลืออยู่ แต่ยังไงรันก็ต้องขอบคุณทุก ๆ คนมาก ๆ รันรู้และเข้าใจว่าทุกคนที่เข้ามาเพราะรักและเป็นห่วงเจคอปจริงๆ
       
            อีกอย่างรันอยากจะอยู่ดูแล และรักษาเค้าแบบใกล้ชิดให้ดีที่สุด ไม่อยากให้เค้าจากเราไปไหน รันจะทำทุกอย่างทุกวิถีทาง เพื่อที่จะให้เจคอปหายและปลอดภัย ซึ่งรันก็พยายาม หาข้อมูลจนได้รับข้อมูลและคำแนะนำ มาจากหลาย ๆ คน ว่ามีคุณหมอท่านไหนที่เก่ง ๆ ในด้านไหนบ้าง โดยรันจะพาน้องเจคอปไปรับการรักษากับคุณหมอเฉพาะทางที่เก่งเฉพาะด้าน ทุก ๆ ที่ ทุก ๆ โรงพยาบาล ทั้งคุณหมอทูที่เก่งเรื่องการยิงเลเซอร์รักษาบาดแผล อ.หมอกัมปนาท ที่เก่งเรื่องกระดูกและเส้นเอ็น รันจะทำทุกอย่างเพื่อให้น้องปลอดภัยและหายจากบาดแผลที่เจ็บป่วย และทรมานแบบนี้ให้เร็วที่สุด

            ตั้งแต่เกิดเรื่องมีคนแนะนำให้ปรึกษาหลายองค์กรมาก แต่มีแต่ WDT ที่ยื่นมือมาช่วยเหลือทั้งทางด้านกฎหมายและติดตามคดี ร้องขอให้ ตร. ลงมาตรวจสอบพื้นที่ ซึ่งตำรวจก็ได้เข้ามาตรวจสอบและติดตามคดี ตั้งแต่ก่อนที่จะมีนักข่าวเข้ามา รันเห็นว่าทุกอย่างได้เข้าสู่กระบวนการกฎหมายอย่างถูกต้องแล้ว รันจึงวางใจในเรื่องคดี มุ่งเน้นไปที่รักษาน้องเจคอป

            ย้ำนะคะว่า "ทุกอย่างได้เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายอย่างถูกต้องแล้ว" ตั้งแต่ก่อนที่จะมีนักข่าวเข้ามาทำข่าว และที่บางทีรันไม่ได้ตอบโต้อะไร หรือออกมาพูดอะไร เพราะที่ผ่านมารันได้มีการพูดคุยและปรึกษากับทาง WDT และตำรวจมาตลอด ซึ่งทั้งสองฝั่ง แนะนำว่ารันไม่ควรจะพิมพ์ตอบโต้อะไรตอนนี้ เนื่องจากตอนนี้คดีนี้ค่อนข้างได้รับความสนใจจากหลาย ๆ คน มีทั้งกลุ่มคนที่เข้ามาให้กำลังใจ และมีทั้งกลุ่มคน ที่ไม่ทำอะไร ที่มาคอยแต่จ้องจะมาจับผิดในคำพูดเพื่อเอาไปเป็นประเด็นใหม่ ๆ (ตลกดี) ซึ่งมันจะทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำงานกันได้ยากขึ้น รันเลยมาโฟกัสที่การดูแลรักษาน้องเจคอป ทุ่มเททำทุกอย่าง ทำทุกทางเพื่อที่จะให้น้องปลอดภัยและหายดี ส่วนเรื่องตามจับคนร้ายมาดำเนินคดี ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดีกว่า

            และขณะนี้ ตำรวจทุกท่าน รวมทั้งร้อยเวรเจ้าของคดี ยืนยันว่า คดี อยู่ในระหว่างการสอบสวน สืบทราบพยานหลักฐาน ยังไม่มีการสิ้นสุดของคดีใด ๆ ทั้งสิ้น



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เจ้าของหมาปอม โพสต์แจงทุกประเด็นตั้งแต่วันเกิดเรื่อง ยันไม่ได้โกหก อัปเดตล่าสุด 2 กันยายน 2557 เวลา 14:15:08 3,761 อ่าน
TOP