เพจทูนหัวของบ่าวเปิดแล้ว เจ้าของชี้แจงทุกประเด็น

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เพจทูนหัวของบ่าว

             ทูนหัวของบ่าว คัมแบ็ค เพจทูนหัวของบ่าว ของคุณนัชญ์ ประสพสิน กลับมาเปิดแล้ว พร้อมคำชี้แจง หลังปิดเพจเพราะมีประเด็นดราม่าคนรักแมว 

             ทำเอาคนรักแมวหลายต่อหลายคนเศร้าไปเลยทีเดียว เมื่อเพจทูนหัวของบ่าว ที่ชาวเฟซบุ๊กจำนวนมากตามฟอลโล เพราะถูกอกถูกใจความน่ารักของเจ้าแมวทั้ง 5 ตัว ของคุณนัชญ์ ประสพสิน อันได้แก่ เสือโคร่ง เสือสมิง เสือชีตาร์ แม่มะลิ และอโศก ได้ปิดเพจไปเมื่อคืนวันที่ 9 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา เนื่องจากมีกระแสดราม่าจากกระทู้พันทิปถาโถมเข้ามาอย่างหนัก โดยบางคนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเลี้ยงแมวแบบผิด ๆ ของคุณนัชญ์ บางคนก็เตือนเรื่องการพาแมวออกงานที่ค่อนข้างมากเกินไป บางคนก็ว่าแรงถึงขนาดหาว่าคุณนัชญ์หากินกับแมว... จนทำให้คุณนัชญ์ ตัดสินใจปิดเพจทูนหัวของบ่าว โดยให้เหตุผลว่า ไม่มีความสุขที่จะทำต่อไปแล้ว..

           อย่างไรก็ตาม ล่าสุด วันนี้ (11 มิถุนายน 2557) เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ที่ผ่านมา เพจทูนหัวของบ่าว ก็เปิดขึ้นอีกครั้ง โดยคุณนัชญ์ได้โพสต์ภาพของแมวตัวเอง พร้อมกับคำชี้แจงในทุกประเด็นเป็นข้อ ๆ ดังนี้..

            "เมื่อวานหลังจากที่หยุดเปิดเพจไป มีโทรศัพท์มาจากคุณป้าคนหนึ่งที่น้ำเสียงไม่ค่อยสู้ดีนัก ว่าขอให้เราเอาแมวไปบริจาคเลือดให้แมวเขาได้ไหม เพราะแมวเขากำลังจะตาย...จากที่เราตั้งใจจะพักผ่อนสมองนอนหลับให้เต็มที่ เรานำเสือโคร่งและแมวอโศกออกไปบริจาคเลือดให้กับเขา ซึ่งทั้งสองตัวผลเลือดแข็งแรงดีมากเป็นแมวสุขภาพดี ที่พร้อมเป็นแมวผู้ให้ จากนั้นน้องเนะ แมวป่วยเป็นลูคิเมียก็ได้รับเลือดจากแมวอโศก ระหว่างที่รอให้เลือดอยู่นั้น เราคิดได้ว่า ในความหวังอันริบหรี่ของอีกหนึ่งชีวิต มันยังมีหวังที่จะสู้ต่อไปได้ เพียงเพราะมีแมวอีกตัวที่พร้อมเป็นผู้ให้
            
             แมวอโศก มีชีวิตอยู่เพื่อทำประโยชน์ให้ผู้อื่นได้ สิ่งนี้สอนชีวิตที่กำลังท้อแท้ได้เป็นอย่างดี ว่าในทุกความมืดมนมันมีแสงสว่างเสมอ ต้องขอบคุณแมวอโศกที่สอนชีวิตให้เรา จนตั้งสติได้ ขอบคุณนะฮีโร่ของบ่าว... ขอตอบคำถามที่เป็นประเด็นอยู่นะคะ และจะไม่ขอพูดที่ไหน หรือตอบอะไรใครเพื่อสนองความต้องการของคนที่ชิงชังอีกต่อไป

ทำไมถึงปิดเพจ

            ณ ตอนนั้นตัวเองไม่มีความสุขในการเล่น Social media ต่าง ๆ เลย เพจทูนหัวของบ่าวเปิดมาเพื่ออยากให้มันเป็น community ของคนรักแมวที่มาพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องของแมวกัน แต่เมื่อวันหนึ่งมันกลายเป็นเรื่องมือของการดิสเครดิตกัน มีคนกลายจ้องจับผิดและเอาไปใส่สีตีไข่ในทุกภาพ แม้กระทั่งเรื่องแมวนอน หรือแมวกิน ก็เลยคิดว่า อยากปิดเพจเพื่อเลิกสนองตัณหาของคนกลุ่มนี้ชั่วขณะ

            สำหรับเจ้าของกระทู้ต้นเรื่องในพันทิป เท่าที่ทราบคุณก็คือกลุ่มคนเดิม ๆ ที่เคยก่อดราม่าในเว็บของคนชอบติดดราม่าเรื่องแมวหลายครั้งหลายหน คุณไปงาน Event ต่าง ๆ ที่เราไป เราก็อยู่ตรงนั้น หากคุณไม่ชอบใจเรามาก ๆ คุณก็แค่เดินเข้ามาคุยกับเราซึ่งหน้า ตักเตือนเราและพูดคุยกับเราในข้อที่คุณกังวลได้ แต่คุณกลับไม่มีความกล้าหาญเพียงพอที่จะเข้ามาพูดคุยกับเราด้วยตัวเอง แต่คุณเลือกที่จะอยู่หลังแป้นคีย์บอร์ดและใช้ Social media หาเพื่อนบำบัดความต้องการของคุณ ฉะนั้น… ไม่มีประโยชน์ที่เราจะต่อรองหรือตอบข้อซักถามอะไรของคุณ หากคุณรักแมวเรา หรือมีปัญหากับเรา ไม่ใช่เรื่องยากที่คุณจะหาเบอร์โทรเรา แล้วโทรมา เพราะรู้ว่าเราไม่เคยอ่าน INBOX อยู่แล้ว เรายินดีเปิดบ้านเราให้คุณเข้ามาดูชีวิตความเป็นอยู่ของแมวเราได้ทุกเมื่อที่คุณต้องการ หรือถ้ามีปัญหากับเรามากจนทนไม่ไหว กินกาแฟกันสักแก้วไหมคะ มาคุยกันก็ได้ว่าปัญหาของเรามันคืออะไรนักหนา

หากินกับแมว

            ก่อนงาน Pet Expo เรากล้าพูดเลยว่าอาหารแมวแทบทุกยี่ห้อติดต่อเข้ามายื่นข้อเสนอในการเป็นพรีเซ็นเตอร์ ตั้งแต่หลักแสน ถึง หลักล้าน จนหลายล้าน เรากล้าพูดว่าเราปฏิเสธไปทุกเจ้า เราสละเงินที่มากมายมหาศาล เราเป็นคนหากินกับแมวประเภทไหนคะ ยังจะขอย้ำอีกทีว่าการเอาแมวไปในทุกรายการหรือ event ที่จัด เราไม่เคยได้รับเงิน (ขีดเส้นใต้ Highlight สีแดง Bold 72) นอกจากค่าน้ำมันในบางครั้ง

            การขายสินค้า ทุกอย่างมีต้นทุนในการผลิต สินค้าทุกชิ้นมีค่าสมองในการออกแบบของดีไซเนอร์ หรือ คุณค่าในตัวมันเอง ถ้าคุณเจ้าของกระทู้บอกว่าขายสินค้าแพง มันเป็นเรื่องของความพึงพอใจของผู้ซื้อและผู้ขาย เป็นเรื่องของรสนิยมคนซื้อที่เข้าใจในสินค้า และพึงพอใจที่จะจ่าย เราไม่เคยบังคับคุณเลยว่า ซื้อ-เดี๋ยว-นี้ คุณอาจไม่ชอบในการออกแบบ หรือ ไม่ชอบใจในราคา นั่น! เป็นเรื่อง รส-นิ-ยม-ส่วน-ตัว-ของ-คุณ

อยากหาเงินเพื่อเอาไปเปิดรีสอร์ทหรือทำคาเฟ่แมว

            อันนี้จริงค่ะ แต่คงไม่ใช่เงินที่มาหาจากเลี้ยงแมว คาเฟ่แมวคือความฝันของเราที่อยากจะมี เรามีหุ้นส่วนที่อยากทำด้วยกัน 5 คน ทุกอย่างคุยกัน ลงขันกัน แต่วันหนึ่งเราก็บอกทุกคนเองว่า เราไม่ทำแล้ว เพราะรู้สึกว่า พวกเราคงเหนื่อย ถ้าใครเอ็นดูแมวเราก็ไปตามงานต่าง ๆ ตามวาระและโอกาสดีกว่า โปรเจคท์นี้ถูกยุบไปโดยไม่มีแม้แต่แบบร่างของการออกแบบ

            เรื่องเปิดรีสอร์ทที่น่าน เราเป็นคนน่านค่ะ บั้นปลายชีวิตเราก็อยากกลับไปใช้ชีวิตที่น่าน และขอโทษค่ะ พื้นฐานทางบ้านเรา พวกเรามี จนแบ่งปันได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนหาเงินจากไหน บ้านเราเป็นบ้านไม่มีหนี้แม้แต่บาทเดียว บ้านเราไม่กู้หนี้ยืมสินใคร บ้านเราใช้ทุกอย่างเป็นเงินสด การเก็บเงินสดเพื่อทำรีสอร์ท มันต้องใช้เวลา ซึ่งไร่ นา เทือก สวน ที่ครอบครัวเรามี มันมีระยะเวลาปันผลของมัน เรารอได้ และไม่จำเป็นต้องหาเงินจากแมว อันนี้มันเรื่องส่วนตัวมาก ๆ ที่ไม่จำเป็นที่จะสาธยาย แต่ก็นั่นแหละ เพื่อความเข้าใจของคนบางกลุ่ม

            แล้วเจ้าของเพจหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นสถาปนิกคนออกมาโจมตีเรา เบื้องหลังคือคนนี้คือเพื่อนที่เคยทำการกุศลด้วยกันและตามจีบเรา แต่จีบไม่ติด เมื่อจีบไม่ติด เลยเปลี่ยนความรู้สึกดีเป็นความคิดแค้น เคยก่อเรื่องสร้างปัญหาให้เรากับคนรอบตัวมามาก จนมีบันทึกประจำวันไว้อยู่ที่ สน.พหลโยธิน และเขารับปากกับตำรวจว่าจะไม่โพสต์ข้อความใด ๆ ว่ากล่าวเราใน Social media อีกต่อไป ก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจเขาให้ทำแบบนี้ คำว่า "ผู้ชาย" กับ "ลูกผู้ชาย" แตกต่างกันนะคะ "คนล้มต้องข้าม" คงเป็นหลักธรรมในการดำเนินชีวิตอยู่คุณ

            เงินรายได้จากการขายสินค้า นี่ก็นำไปช่วยเหลือสัตว์จรจัดต่าง ๆ มากมาย ตามโครงการต่าง ๆ หรือทุก Event การกุศลที่เราไปช่วย การออกงานนอกจากไม่เคยได้รับเงินจากเจ้าของงานแล้ว เรายังแบ่งปันเงินรายได้เพื่อช่วยเหลือสัตว์จรจัดไปทุกพื้นที่ที่ไป หากคุณที่คิดโจมตีมองเห็นบ้าง และเราก็ได้อธิบายไปแล้วเมื่อดราม่าคราวที่แล้ว หวังว่าคงจะมีสติบ้างนะคะ ทำไมต้องชอบให้พูดหลายรอบ

ไม่เคยตอบ inbox

            เราเล่นเพจนี้ผ่าน IG ค่ะ รูปส่วนมาก 98 เปอร์เซ็นต์ คือการอัพผ่าน IG และแชร์ไปในทวิตเตอร์และเพจ ซึ่งทำให้เราไม่ค่อยได้ตอบคอมเมนต์ใคร หรือ อ่าน inbox ใคร คนช่วยตอบ inbox มีอยู่สองคนค่ะ คนหนึ่งคือเรา และอีกคนคือน้องที่ให้เรามาช่วยดูแลเรื่องการจัดส่ง ซื้อสินค้า เราอนุญาตให้เขาตอบเฉพาะข้อความที่เกี่ยวกับสินค้าเท่านั้น เพราะเรื่องอื่น วันละ 2-300 คอมเมนต์นั้น เราขอดูเอง ซึ่งเราก็ได้ดูบ้างไม่ได้ดูบ้าง ตามวาระและโอกาส ซึ่งน้องเขาตอบเฉพาะคำถามเรื่องการสั่งสินค้าก็ถูกต้องแล้วค่ะ

เคยเลี้ยงหมาทรมาน

            คนเราต้องเคยอดีตในเรื่องความรักกันบ้างใช่ไหมคะ และมันเป็นอดีตที่เลวร้ายมาก เอ่อ … ขอโทษนะ "มันเหี้_มาก" ถูกต้องค่ะ เราเคยเลี้ยงหมา และเป็นคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องความรัก น้องหมาเราคลอดในห้องน้ำจริงค่ะ เราเลี้ยงในบ้านในช่วงเขากำลังคลอด และเขาเลือกที่คลอดในที่เขาสบายใจคือห้องน้ำ น้องหมาเราไม่เคยมีเห็บหมัด เป็นแต่โรคผิวหนังซึ่งเป็นโรคธรรมดาของหมาขนสั้น ถ้าเราเลี้ยงหมาแย่มาก หมาเราคงไม่ได้รางวัลต่าง ๆ จากการประกวดไทยแลนด์แชมป์ได้ แต่เมื่อความรักเดินทางมาถึงทางตัน ซึ่ง ณ ตอนนั้นลำพังตัวเราเองก็แย่มาก ใช่ค่ะเราเลือกที่จะออกจากบ้านที่เคยอยู่กับแฟน เพื่อออกมาอยู่คอนโดห้องเล็ก ๆ และนำน้องหมาไปฝากเพื่อนเอาไว้ เพราะรถป้ายแดงที่มีคนมาให้ข้อมูลเอาไว้ว่ามาจากการขายหมานั้น เป็นสมบัติของผู้ชายค่ะ และมันไม่ได้มาจากการขายหมา เพราะเขาก็มีอาชีพที่มั่นคง หารายได้จากการทำงานในระดับที่มาก และใช้ชีวิตฟุ่มเฟือยได้ ไม่มีความจำเป็นต้องหากินจากตรงนี้

            เมื่อเลิกกัน เราไม่มีรถที่จะ take care น้องหมาในช่วงนั้น และวิกฤตชีวิตของแฟนเก่าเราก็ย่ำแย่เหมือนกัน เราสองคนนำน้องหมาไปอยู่กับเพื่อนเรา ซึ่งทุกวันนี้เราไปมาหาสู่ซึ่งเขาได้อยู่กับลูกเขา อ้วนท้วน สมบูรณ์ดี ถ้าใครที่ติดตาม IG ส่วนตัวของเราก็จะเห็นว่าเราอัพรูปน้องหมาของเราอยู่ ส่วนออตโต้น้องหมาอีกตัว มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่ 3 4 5 6 เราจะไม่ขอพูดพาดพึงหรือเอ่ยถึงคนที่รับดูแลน้องหมาเรา เพราะเมื่อวานเราปรึกษาคนที่รับดูแล เขาก็หวั่นความเป็นส่วนตัวในการใช้ชีวิตเหมือนกัน เราก็ต้องเคารพสิทธิของบุคคลต่าง ๆ ด้วยนะคะ

           เคยคบกับใครแล้วเลิกคบกันแล้วไม่อยากหันหน้ากลับไปไหมคะ คนที่เราเดินออกมาจากชีวิตเขา หรือคนที่เราเลือกให้เขาเดินออกไปจากชีวิตเรา เราจะไม่อนุญาตให้เขาเดินกลับเข้ามาทำร้ายเราได้อีกค่ะ

          ทุกวันนี้เรื่องการเลี้ยงสัตว์จึงเป็นปมในใจที่เรามีประสบการณ์ส่วนตัวที่จะเอามาเป็นอุทาหรณ์ในชีวิตได้ และทุกครั้งที่เราไปออกรายการเราก็มักจะฝากว่า รักสัตว์ต้องดูความพร้อมของตัวเอง พร้อมที่จะรักและดูแลเขาตลอดไปไหม เพราะนี่คือเรื่องจริงจากประสบการณ์ของคนที่วุฒิภาวะไม่เพียงพอและความเป็นวัยรุ่นของเรา ที่เราถือว่ามันเป็นเรื่องเจ็บปวดในใจและเราไม่อยากให้มันมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นอีก เลยอยากบอกต่อเรื่องนี้อยู่เสมอ ขอบคุณที่ออกมาตอกย้ำเรื่องนี้ต่อกันมันจะเป็นพลังในการใช้ชีวิตของเราต่อไป

            คนเราคงไม่มีใครโตมาแล้วเป็นผู้ใหญ่เลย โตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็คงไม่มีใครเคยทำผิดเลย ทุกเรื่องราวของการใช้ชีวิตคือการเรียนรู้และประสบการณ์ ที่เราแค่อยากถ่ายทอดและเล่าสู่กันฟัง

            ใครที่รักเรา เราขอรักตอบ ขอบพระคุณมากนะคะ ที่ทำให้เรายืดหยัดได้ ส่วนใครที่ไม่ชอบใจเรา ไม่รักเรา เกลียดแมวเรา ปุ่ม Unlike อยู่ข้างบนค่ะ ไม่ใช่ว่าไม่อยากสนใจแมวบ้านนี้หรอก แต่ติดตามทุกความเคลื่อนไหวเพื่อหาเรื่องจับผิด โลกมีพื้นที่มากพอให้คนใจแคบเดินนะคะ

            ขอให้พื้นที่นี้เป็น Community ของคนรักแมวจริง ๆ ที่มาพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องการเลี้ยงแมวต่อกัน สิ่งที่เราทำเราเป็นแค่จุดเล็ก ๆ ของสังคมมาก เราพูดตามเวทีต่าง ๆ เสมอว่า เรื่องที่เราทำในการช่วยเหลือสัตว์นั้นเล็กน้อยเหลือเกินเมื่อเทียบกับคนที่ลงไปดูแลจริงจังกว่าเรา แต่ในเมื่อเราถนัดในด้านการโฆษณาและหารายได้ เราก็ขอเป็นกำลังในด้านนี้ ใครถนัดด้านไหนก็ช่วยเหลือกันไป สังคมจะได้น่าอยู่นะคะ

              อย่าอยู่กับพลังด้านลบจนเกินไป มองหาอะไรที่เป็นพลังด้านบวกเพื่อดำเนินชีวิตกันนะคะ
 
            การกลับมาเปิดเพจครั้งนี้อีกครั้ง ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะมีระยะเวลายาวนานแค่ไหน ส่วนหนึ่งมาจากกำลังใจของแฟนเพจทุกท่านที่บอกว่า นี่คือความสุขของเขา เพื่อนเราสูญเสียครอบครัว ภรรยาที่สูญเสียสามี พี่สาวที่สูญเสียน้องชาย ที่เคยมาพบแมวเราบอกว่าที่คือกำลังใจของเขาในทุกวัน เราอยากบอกว่าคุณคือกำลังใจของการกลับมาในครั้งนี้

รักทุกคนที่ปรารถนาดีค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ"