เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณท่านหญิงแพรวพรรณรายและคุณอลเวงวันลา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี แจงกรณีถูกร้องเรียนสั่งฆ่าหมาท้องแก่ ฝังทั้งเป็น ชี้แค่ฉีดยาสลบ ไม่ได้ฆ่าทิ้ง บอกจัดการอย่างดี ใช้งบกว่าแสนบาท
เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางเลยทีเดียว เกี่ยวกับกระทู้พันทิปที่ใช้ชื่อว่า คุณสรยุทธคะ!!! ราชภัฏสุราษฎร์ สั่งฆ่าหมาท้องแก่+ฝังทั้งเป็น ขอเสียง vote !!! ของผู้ที่ใช้ล็อกอินชื่อว่า "ท่านหญิงแพรวพรรณราย" ได้ตั้งกระทู้ร้องเรียนมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ซึ่งสั่งฆ่าหมาท้องแก่ หมามีเจ้าของ หมาพิการ และหมาที่ยังไม่ตาย โดยนำเอาไปฝังทั้งเป็น
ทั้งนี้ ล่าสุด (24 กุมภาพันธ์ 2557) ทางล็อกอิน "อลเวงวันลา" ก็ได้ตั้งกระทู้ระบุว่า "คำชี้แจงจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี กรณีการจัดเก็บน้องหมาค่ะ" โดยมีเนื้อหาดังนี้..
ตามที่มีผู้ตั้งกระทู้ คุณสรยุทธคะ!!! ราชภัฏสุราษฎร์ สั่งฆ่าหมาท้องแก่+ฝังทั้งเป็น ขอเสียง vote !!!
เนื้อหาโดยสังเขประบุว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีสั่งฆ่าหมาท้องแก่ หมามีเจ้าของ และหมาพิการ ยังไม่ตายก็เอาไปฝังนั้น มหาวิทยาลัยขอชี้แจงดังนี้...
เนื่องจากในมหาวิทยาลัยมีสุนัขจรจัดมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ขึ้น เช่น สุนัขกัดนักศึกษา สุนัขวิ่งตัดหน้ารถทำให้เกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง สุนัขรื้อถังขยะ เลียจานข้าว ขึ้นไปนอนบนโต๊ะในโรงอาหาร เป็นต้น กอปรกับใกล้ถึงหน้าร้อนซึ่งอาจมีพิษสุนัขบ้าระบาดได้ มหาวิทยาลัยห่วงใยในสวัสดิภาพและสุขอนามัยของนักศึกษา อาจารย์ บุคลากร และผู้มาติดต่อราชการ จึงมีความจำเป็นต้องจัดระเบียบสุนัขดังกล่าว โดยมีวิธีการและกระบวนการที่ชัดเจน โปร่งใส ดังนี้
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2557
มหาวิทยาลัยได้ออกบันทึกข้อความเป็นหนังสือเวียน แจ้งแก่อาจารย์และบุคลากรให้ช่วยกำกับดูแลสุนัขของตนให้อยู่ในบริเวณบ้าน (อาจขังหรือล่ามไว้) ให้เรียบร้อย ภายในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2557 หากไม่สามารถดำเนินการได้ มหาวิทยาลัยมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดเก็บสุนัขไปเก็บในที่ที่มหาวิทยาลัยจัดเตรียมไว้ มหาวิทยาลัยก็ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า ในมหาวิทยาลัยมีสุนัขจรจัดอาศัยอยู่มาก ก็ทำให้เกิดปัญหา อาทิ สุนัขกัดนักศึกษา, วิ่งตัดหน้ารถ, เกิดอุบัติเหตุ, เลียจานข้าว, ขึ้นไปนอนอยู่บนรถโรงอาหารบ้าง ก็เลยออกหนังสือเวียนแจ้งว่าหากเจ้าของคนไหนมีสุนัขได้ดูแลสุนัขให้ดี
หนังสือเวียนแจ้งให้เจ้าของสุนัขกำกับดูแลสุนัขให้อยู่ในบริเวณบ้าน
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2557
คณะทำงานได้ดำเนินการจัดเก็บสุนัข โดยได้รับความอนุเคราะห์กำลังคน องค์ความรู้ และอุปกรณ์ต่าง ๆ จาก "สำนักการสาธารณสุข เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี" และ "สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสุราษฎร์ธานี" โดยทีมผู้เชี่ยวชาญประกอบด้วย คุณวิรัตน์ ดีขุนทด หัวหน้าสัตวบาลและนักวิชาการสัตวบาล 2 ท่าน อุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในครั้งนี้ คือ "อุปกรณ์ยิงสลบสัตว์" ซึ่งใช้ร่วมกับ "ยาสลบ" และ "ยานำสลบ" โดยตระหนักเป็นอย่างยิ่งว่า ยานำสลบนั้นเป็นตัวยาสำคัญที่ขาดไม่ได้เพื่อความปลอดภัยของสุนัข กล่าวคือ เป็นยาที่ออกฤทธิ์เพื่อรักษาระบบการทำงานของหัวใจให้เป็นปกติ ป้องกันไม่ให้เกิดอาการช็อก ทั้งนี้ อุปกรณ์ดังกล่าวเป็นอุปกรณ์อย่างดี มูลค่ากว่าแสนบาท มีความปลอดภัยกับสัตว์ 100 เปอร์เซ็นต์ และไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงใด ๆ
ขั้นตอนเริ่มจากการคำนวณน้ำหนักของสุนัขเพื่อกำหนดปริมาณยา การยิงจะเล็งที่กล้ามเนื้อสะโพก ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที สัตว์ที่ได้รับยาก็จะหลับ ระหว่างนั้นจะมีลิ้นห้อยออกนอกปากหรืออาจสำรอกอาหารออกมา นักวิชาการสัตวบาลทั้งสามท่านย้ำกับเราว่า ไม่ต้องตกใจ นั่นคือปฏิกิริยาจากร่างกายที่จะช่วยให้ระบบหายใจของสุนัขทำงานได้ตามปกตินั่นเอง
เมื่อสุนัขหลับ เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยจะอุ้ม (ย้ำว่า "อุ้ม" นะคะ ไม่มีการลากถูให้ได้รับบาดเจ็บ) เพื่อขนย้าย (โดยรถกระบะ) ไปยังวัดสวนโมกขธรรมาราม (ทางเข้าวัดบ้านใหม่พัฒนา) ซอย 4 นิคมสร้างตนเองขุนทะเล ตำบลขุนทะเล อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมหาวิทยาลัยได้ติดต่อขอความอนุเคราะห์เอาไว้ก่อนหน้านี้ โดยมหาวิทยาลัยได้จัดหาอาหารสำหรับสุนัขไว้ให้อย่างเพียงพอ และเตรียมการสำหรับฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าและคุมกำเนิดเอาไว้แล้ว เมื่อสุนัขได้นอนพักประมาณ 2-3 ชั่วโมงก็จะตื่นขึ้นมาตามปกติ
ภาพสุนัขบางส่วนที่วัดสวนโมกขธรรมาราม
ทั้งนี้ ทุกท่านสามารถเยี่ยมชมความเป็นอยู่ของสุนัขหรือร่วมบริจาคอาหารได้ที่วัดดังกล่าว ส่วนสุนัขตัวใดที่มีเจ้าของและอาจถูกจัดเก็บมาอยู่ที่วัดด้วย เจ้าของสามารถมารับตัวกลับได้ตลอดเวลาค่ะ"อย่างไรก็ดี จากกระทู้ชี้แจงดังกล่าว ก็มีชาวเน็ตสงสัยเกี่ยวกับเรือนอนุบาลของสุนัข ที่ดูสะอาดไม่มีคราบเหมือนเพิ่งถ่ายเพิ่งสร้างภาพ ส่วนจานใส่อาหารสุนัขก็ดูเหมือนภาพตัดต่ออีกด้วย