ปัญหา "ช้าง" ที่ใหญ่เกินตัว (ไทยรัฐ)
กรณีที่มีนักเขียนหญิงชื่อนางแอนโทเน็ต วอลเตอร์ ชาวฮอลแลนด์ เขียนหนังสือเปิดโปงการทารุณกรรมช้างไทยตีแผ่ไปทั่วโลก ถึงเรื่องการจับช้างเพศเมียล่ามโซ่ขึงพืดเพื่อให้ช้างตัวผู้รข่มขืน จนช้างเพศเมียหลายเชือกพิกลพิการ และเป็นบ้าถึงขั้นฆ่าลูกช้างเมื่อเกิดออกมาทันที โดยเธออ้างว่า ใช้ชีวิตศึกษาช้างไทยตามปางช้างต่างๆทั่วประเทศมานานร่วม 10 ปีนั้น ต้องขอบคุณเธอ ที่ช่วยปลุกกระแสให้กลุ่มคน องค์กร หรือแม้แต่ผู้นำของชาติ ต้องตื่นตัว และร่วมแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
นายลายทองเหรียญ มีพันธ์ เจ้าของวังช้างอยุธยา แลเพนียด เผยว่า คนบางกลุ่มสร้างภาพสร้างข่าว และไม่รู้จักวัฒนธรรมของไทย การผสมพันธุ์ม้าที่ต่างประเทศ ก็มีการจับขึงพืดเช่นเดียวกัน ในสมัยโบราณ ถ้าปล่อยให้ช้างผสมพันธุ์กันตามธรรมชาติช้างจะมีความดุดัน และรุนแรง ทำให้ได้รับบาดเจ็บ และล้มตาย จึงมีการศึกษาวิธีช่วยเหลือช้างให้ผสมพันธุ์แบบไม่บาดเจ็บ โดยกรมปศุสัตว์และสัตวแพทย์แนะนำเป็นวิธี โดยให้ช้างสาวมัดเชือกขาถ่าง เพื่อให้ไม่ดิ้น เนื่องจากช้างเพศผู้จะยืน 2 ขา มีน้ำหนักประมาณ 4 ตันกว่า ถ้าตัวเมียดิ้นหรือบิดตัว จะทำให้ช้างตัวผู้หงายหลังบาดเจ็บ และล้มตายได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่ได้เป็นการทารุณตามที่เสนอ
ขณะที่ น.ส.โซไรดา ซาลวาลา เลขาธิการ มูลนิธิเพื่อนช้าง เผยว่า ไม่น่าจะเป็นเรื่องจริงตามที่นักเขียนชาวฮอลแลนด์นำเสนอ แต่ไม่ปฏิเสธว่าไม่มี เพราะในอดีตมีการรับจ้างผสมพันธุ์ ส่วนการที่เอาของมีคมไปท่ิมแทงช้างเพศเมีย เพื่อให้สมยอมนั้น ขอชี้แจงว่า ช้างมีราคาสูงมาก การทรมานช้างในสภาพอย่างนั้น มีโอกาสที่ช้างบาดเจ็บสาหัส ไม่คุ้ม โดยช้างจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 7 แสนบาท หากตั้งท้องราคาจะพุ่งไปที่ 6ล้านบาท ถ้าตกลูกออกมาแล้วแข็งแรงทั้งแม่และลูก ราคาจะสูงขึ้นไปอีกถึง 13 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงที่สุดในประเทศไทย ที่เคยมีการซื้อขายกัน
เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง กล่าวต่อว่า ที่มีข่าวใช้โซ่ในการผูกมัดไม่เป็นเรื่องจริง เพราะจะทำให้ช้างได้รับบาดเจ็บ และจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ หากแต่เป็นเพียงเชือกธรรมดาเท่านั้น ส่วนที่ว่าเป็นการข่มขืน และมีการกระทำอย่างแพร่หลายนั้น ยิ่งไม่จริง เพราะจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อช้างยอม หากไม่ยอมก็ไม่สามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม ช้างเพศผู้ไม่สามารถยืนด้วยขาหลังได้นานตามที่เขียนในหนังสือ และการผสมพันธุ์จะกระทำได้แค่ 2-3ครั้ง ไม่เหมือนสิงโต ที่สามารถผสมพันธุ์ได้หลายครั้งใน1วัน จึงเป็นไม่ได้ว่าช้างถูกข่มขืน 50-60ครั้ง/วัน ซึ่งอยากจะรู้ว่าเขาไปเอาข้อมูลมาจากไหน ช้างเพศผู้ไม่มีทางที่จะยืนได้นานขนาดนั้น
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาช้างเร่ร่อน ซึ่งเกิดขึ้นมานานร่วม 10 ปี แต่ยังไม่มีการจัดระเบียบที่แท้จริงซึ่งทางมูลนิธิเพื่อนช้าง ได้พยายามเรียกร้องให้มีการจัดระเบียบการนำช้างเข้ามาเดินเร่รอนใน กทม. ตั้งแต่สมัยเริ่มๆ จนปัญหากลายเป็นธุรกิจที่มีนายทุนอยู่เบื้องหลัง ด้วยการซื้อช้างมาให้เช่าเดินใน กทม. โดยมีราคา 6,000 บาทต่อเดือน ซึ่งช้างส่วนใหญ่เป็นช้างที่มีอายุมาก เพราะไม่ดุเข้ากับคนได้ง่าย สามารถสร้างความคุ้นเคยกับควาญช้างที่พึ่งรู้จักกันได้ดี แต่เดิมควาญช้างจะเป็นเจ้าของช้าง และจะนำมาเดินตามฤดูกาล เมื่ดหมดช่วงก็จะนำช้างกลับต่างจังหวัด
นอกจากกลุ่มช้างเร่รอนแล้ว ยังมีปัญหาเรื่อง การนำช้างมาเล่นละครสัตว์ ที่มักจะนำช้างอายุไม่เกิน 2-3 ปี มาเล่นละครตามหมู่บ้าน ซึ่งกลุ่มดังกล่าวส่งผลให้เกิดขบวนการซื้อขายลูกช้างตามชายแดน โดยผู้ประกอบการจะติดต่อขอซื้อลูกช้างจากหมู่บ้านริมชายแดนพม่า บริเวณ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.กาญจนบุรี จ.เพชรบุรี จ.ระนอง จ.ตาก จ.แม่ฮ่องสอน ทำให้ลูกช้างจำนวนมากถูกจับมาฝึกละครสัตว์ และตายในวัยที่ไม่สมควร แต่กลุ่มช้างที่ถูกจับมาเล่นละครสัตว์มีจำนวนไม่มากนัก
อย่างไรก็ดี นายวรินทร์ เทียมจรัส นักกฎหมายสิ่งแวดล้อม สภาทนายความแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ กำลังศึกษาปัญหาการทารุณสัตว์ เพื่อร่าง พ.ร.บ.ห้ามการทารุณสัตว์ และคิดว่าการนำช้างเข้ามาเร่รอนในกทม.มีปัญหาค่อนข้างมาก โดยจากการติดตามข้อมูล ช้างส่วนใหญ่ที่เข้ามาใน กทม.จะเป็นช้างที่ควาญช้างเช่ามาทั้งหมด ทำให้ปัญหานี้แก้ไขยาก เพราะมีธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยพบว่า รายได้ของการนำช้างเข้ามาใน กทม. มีมากถึงวันละ 2,000 บาทต่อวันต่อตัว
สำหรับการแก้ปัญหาเบื้องต้น ทาง กทม. ได้ออกมาตรการจับกุมช้างเร่ร่อนที่มีอยู่ทั่วในเวลานี้ นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ทาง กทม.ตั้งรางวัลนำจับแก่ผู้ที่แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมช้างเร่ร่อนที่ เข้ามาหากินในพื้นที่ กทม. เชือกละ 2,000 บาท มีผลตั้งแต่บัดนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและสกัดกั้นไม่ ให้ช้างเข้ามาเร่ร่อนหากินในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้ควาญช้างมีการเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อหลบหนีการจับกุม เช่นนำช้างไปพักอาศัยอยู่ในพื้นที่เขตปริมณฑล เปลี่ยนจากช้างเชือกใหญ่ เป็นช้างเล็ก และนำขึ้นรถกระบะไปตามจุดต่างๆ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
