x close

ด่านกักกันสัตว์วอนช่วยแมวของกลาง หลังรอดทำเมนูเปิบพิสดาร



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

          ด่านกักกันสัตว์วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือแมวของกลาง หลังรอดจากการถูกลักลอบส่งออกทำเมนูเปิบพิสดารที่เวียดนาม แต่ต้องอยู่รวมกับสุนัขที่ด่าน วอนรับเลี้ยง หรือบริจาคเงินช่วยเหลือ หวั่นงบฯ ขาดแคลน

          ความคืบหน้าเรื่องการดูแลแมวของกลาง หลังตำรวจจับกุมพ่อค้าที่ลักลอบส่งแมวออกนอกประเทศไปยังเวียดนามเพื่อทำเมนูเปิบพิสดาร ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่พบการส่งออกแมวข้ามชาติ ล่าสุด (13 กรกฎาคม 2556) หลังแมวของกลางถูกยึดได้แล้วส่งต่อมาดูแลรักษาที่ด่านกักกันสัตว์นครพนม ซึ่งเป็นสถานที่ใช้ดูแลสุนัขของกลางอยู่ก่อน ทำให้ปัจจุบัน ในด่านกักกันสัตว์ดังกล่าว มีสุนัขที่ต้องดูแลทั้งสิ้น 1,432 ตัว และมีแมวมาดูแลเพิ่มอีก 92 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่มีสุขภาพแข็งแรง โดยในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้มีการคัดแยกตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและโรคไวรัสแมว ไข้หวัดแมว ป้องกันการติดเชื้อ เพื่อทำการฟื้นฟูให้มีสุขภาพแข็งแรงและหาทางส่งต่อไปเลี้ยงดูในสถานที่ที่เหมาะสมแล้ว

          อย่างไรก็ตาม เนื่องจากด่านกักกันสัตว์นครพนม เป็นด่านที่ใช้ดูแลสุนัขของกลาง จึงไม่เหมาะแก่การดูแลแมวในระยะยาว เพราะสถานที่ไม่พร้อม จึงต้องหาทางส่งไปเลี้ยงในสถานที่ที่มีความเหมาะสมต่อไป เพื่อป้องกันปัญหาการติดเชื้อป่วยตายของแมว
 
          นอกจากนี้ ยังอาจมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะปัจจุบันเงินบริจาคผ่านกองทุนช่วยเหลือสุนัข มีเหลือประมาณ 3 ล้านบาทเท่านั้น อาจทำให้เกิดปัญหางบประมาณขาดแคลนในระยะยาว จึงได้มีการประกาศให้ประชาชนผู้ใจบุญ หรือผู้ต้องการบริจาคช่วยเหลือ สามารถบริจาคโดยตรงได้ที่บัญชีของมูลนิธิสัตวแพทย์ กรมปศุสัตว์ บัญชี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาราชเทวี เลขที่บัญชี 044-109-2282 หรือสามารถติดต่อสอบถามที่ด่านกักกันสัตว์นครพนม โทร. 0-4252-2591 หรือสามารถแจ้งความประสงค์ขอรับแมวเหล่านี้ไปเลี้ยงได้

          อนึ่ง นายชูศักดิ์ พงษ์พานิช หัวหน้าด่านกักกันสัตว์นครพนม ได้กล่าวถึงเส้นทางการค้าแมวและที่มาว่า ปัญหาการค้าแมวถือเป็นเรื่องใหม่ที่ต้องนำมาเป็นการบ้าน เพราะไม่เคยมีการจับกุมตรวจยึดมาก่อน แต่ยอมรับว่ามีข้อมูลเรื่องการบริโภคสุนัขและแมวในเวียดนามอยู่แล้ว เพื่อนำไปปรุงเป็นเมนูอบพะโล้ ย่าง ตุ๋น เป็นยาชูกำลัง เพราะเชื่อว่ามีรสชาติอร่อยกว่าเนื้อวัวและหมู แต่ไม่คิดว่าจะมีการส่งออกจากไทย จึงถือเป็นเรื่องน่าห่วง เพราะหากมีการส่งออก แสดงว่าจะต้องมีตลาดสั่งเข้าจากไทย และในอนาคตจะต้องมีกลุ่มผู้ค้าหันมาลักลอบค้ากันมากขึ้นด้วย เช่นเดียวกับการค้าสุนัข เพราะมีต้นทุนต่ำ รายได้ดี ทั้งนี้ จากการตรวจสอบแมวที่ตรวจยึดส่วนใหญ่ เชื่อว่าเป็นแมวที่ได้มาจากการเลี้ยง แต่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนในกลุ่มผู้ค้าและวิธีการค้า จึงต้องเร่งหาข้อมูลเพื่อเตรียมป้องกันแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ด่านกักกันสัตว์วอนช่วยแมวของกลาง หลังรอดทำเมนูเปิบพิสดาร อัปเดตล่าสุด 14 กรกฎาคม 2556 เวลา 11:38:23
TOP