เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
เจ้าอาวาสวัดโตนดเตี้ยทำพิธีรับขวัญ ควายทองกวาว ท่ามกลางประชาชนที่มาร่วมงานกว่า 500 คน ด้าน ผบช ภ.1 นำผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมแฉว่า มีเป็นขบวนการลักลอบส่งควายออกนอกประเทศ ซึ่งจะเร่งกวาดล้างโดยด่วน
วันนี้ (18 กุมภาพันธ์) ที่วัดโตนดเตี้ย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ท.นเรศ นัทโชติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และพระครูเกษมพัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาส ได้ทำพิธีรับขวัญ ทองกวาว ควายเพศเมีย อายุ 5 ปี หลังจากที่ถูกคนร้ายลักขโมยไปขายใน อ.เชียงของ จ.เชียงราย โดยมีพระสงฆ์จำนวน 10 รูปสวดเจริญชัยมงคล หลังสวดเสร็จ พล.ต.ท.นเรศ ได้ส่งมอบทองกวาว ให้กับพระครูเกษมพัฒนาภรณ์ โดยมีการนำพวงมาลัยสวมที่เขาคล้องคอเพื่อเป็นการรับขวัญ และให้หญ้ากิน ทำให้ทองกวาวสดชื่นขึ้นกว่าเดิม
จากนั้นเมื่อเจ้าอาวาสได้พาทองกวาวไปพบกับปิ่นอนงค์ ลูกควายเพศเมีย วัย 3 เดือน ซึ่งเป็นลูกของทองกวาว ทั้ง 2 ตัวได้เดินเข้าไปคลอเคลียกัน ก่อนที่ปิ่นอนงค์จะตรงเข้าไปดูดนมจากทองกวาว หลังที่ไม่ดื่มนมมาหลายวัน นอกจากนั้นสายใจวัย 3 ปี ซึ่งเป็นลูกของทองกวาว ได้เดินเข้ามาคลอเคลียอีกด้วย จนประชาชนที่มาร่วมพิธีกว่า 500 คน บางคนถึงกับหลั่งน้ำตา และบอกว่า วันนี้เป็นวันพระได้ทองกวาวกลับคืนมาถือเป็นโชคดีและเชื่อว่า ทองกวาว จะนำพาให้ชาวบ้านมีความสุข
- นายประเสริฐ แสนหาร อายุ 21 ปี ชาว จ.ปราจีนบุรี
- นายทองแดง สินสิบ อายุ 50 ปี ชาว จ.สระแก้ว
- นายสุรชัย สุดา อายุ 30 ปี ชาว จ.สระแก้ว
ซึ่งทั้ง 3 ก่อเหตุโจรกรรมควายประทาน 2 ตัว ซึ่งเจ้าคล้าวถูกเชือดตายในโรงฆ่าสัตว์ จ.นครสวรรค์ ส่วนทองกวาว ถูกขายไปที่ จ.เชียงราย โดยเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือไว้ได้ทัน ก่อนถูกส่งตัวไปต่างประเทศ ทั้งนี้ ในตอนแรกตำรวจได้นำ 3 ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ทุ่งนาข้างวัดโตนดเตี้ย แต่ต้องยกเลิกการทำแผนกะทันหัน เหตุเพราะชาวบ้านจำนวนมากเตรียมเข้ารุมประชาทัณฑ์
โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ให้การว่า ไม่ทราบว่าเป็นควายประทาน และได้นำควายไปขายที่ จ.อุทัยธานีเป็นที่แรก ก่อนจะขายต่ออีกหลายทอด ซึ่งได้เงินรวม 65,000 บาท โดย นายประเสริฐ แสนหาร หรือเตี้ย แกนนำกลุ่ม ได้ส่วนแบ่ง 30,000 บาท, นายสุรชัย สุดา ได้ส่วนแบ่ง 20,000 บาท และนายทองแดง สินสิบ ได้ส่วนแบ่ง 15,000 บาท ซึ่งทั้ง 3 คน ยอมรับว่าได้ก่อเหตุลักควายไปขายโรงฆ่าสัตว์มานานแล้ว และหากพ้นโทษออกมา สัญญาว่าจะเลิกก่อเหตุลักควายส่งโรงฆ่าสัตว์
นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องหาอีก 3 คน ที่ตำรวจจับกุมมาในข้อหารับซื้อของโจร และได้นำมาแถลงข่าวด้วย แต่ไม่ได้นำลงจากรถคุมขังนักโทษ ซึ่งมีรายชื่อดังนี้
- นายสมนึก คชพันธ์ อายุ 52 ปี ชาว จ.กำแพงเพชร
- นางสมพิศ เป้าบ้านเซ่า อายุ 44 ปี ชาว จ.นครสวรรค์
- นายฮ่อน ไชยสี อายุ 60 ปี ชาว จ.เชียงราย
โดยพล.ต.ท.นเรศ กล่าวว่า จากการไล่ตามเส้นทางขายควายทำให้ตำรวจพบว่า มีขบวนการโจรกรรมและค้าวัวควายเถื่อนเข้าโรงฆ่าสัตว์ และนำควายส่งขายต่อต่างประเทศที่เป็นขบวนการใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่สังคมยังไม่ทราบเรื่องนี้ ซึ่งข้อมูลที่ได้มาจะเร่งขยายผลเพื่อกวาดล้างขบวนการดังกล่าว เพราะเชื่อว่าน่าจะมีขบวนการเช่นนี้อีกหลายกลุ่ม ซึ่งนอกจากจะมีการขายควายให้โรงฆ่าสัตว์ที่ถูกต้องแล้ว ยังมีโรงฆ่าสัตว์เถื่อนอีกด้วย
ด้านนายนัทธี บ่อสุวรรณ ปลัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ต่อไปต้องทำสัญลักษณ์ให้ทราบว่าเป็นควายประทาน และทำเร่งทำการประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนทราบ เพราะว่ายังมีอีกหลายวัดที่มีควายพระราชทานแบบนี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับกฎหมายไทยการซื้อขายวัวควายจะต้องมีการแสดงหลักฐาน ตั๋วรูปพรรณวัวควาย แต่ที่ผ่านมามีการปล่อยหละหลวม ซึ่งต้องมีการรื้อพื้น รวมถึงจะต้องเสนอไปยังกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบการขนย้ายวัวควายทั่วประเทศเพื่อตั้งด่านตรวจสอบ