เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก RSPCA
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ เปิดเผยภาพสุดสะเทือนใจคนรักสัตว์ เมื่อลูกสุนัขเพิ่งเกิดถูกคนใจยักษ์นำไปฝังดินทั้งเป็นในอังกฤษ ซึ่งถึงแม้ว่าทางศูนย์สงเคราะห์สัตว์จะไปพบมันได้ทัน ก็ไม่อาจนำมันมาเลี้ยงดูได้ เพราะมันมีสภาพอ่อนแอและทุกข์ทรมานเกินกว่าจะเยียวยา จึงต้องจำใจฉีดยาให้มันตายในที่สุด
รายงานระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในฟาร์มผสมพันธุ์สุนัขในเมืองแทมเวิร์ธ มณฑลสตาฟฟอร์ดเชียร์ของอังกฤษ ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีก่อน เมื่อศูนย์สงเคราะห์สัตว์ได้รับแจ้งจากชาวเมืองเกี่ยวกับสภาพการเลี้ยงสุนัขสุดย่ำแย่ในบ้านของนายเจมส์ เพิร์คส์ เจ้าของธุรกิจผสมพันธุ์สุนัข จึงนำทีมเข้าตรวจสอบบริเวณดังกล่าว และก็ต้องช็อกเมื่อพบว่า มีลูกสุนัขเพิ่งเกิด 2 ตัว กำลังตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอด หลังถูกฝังกลบทั้งเป็นอยู่ในสวนหลังบ้าน ทางทีมสงเคราะห์สัตว์จึงรีบช่วยเหลือลูกสุนัขทันที แต่หลังจากที่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือลูกสุนัขมาได้แล้ว พวกมันก็ต้องถูกฉีดยาให้ตายอย่างน่าสลด เนื่องจากมีร่างกายอ่อนแออิดโรยและอยู่ในสภาพทุกข์ทรมานเกินกว่าจะเยียวยาได้
ทั้งนี้ นอกจากลูกสุนัขที่ถูกฝังดินทั้งสองตัวนี้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบพบสุนัขพันธุ์สตาฟฟอร์ดเชียร์ บูลเทอร์เรีย อีก 24 ตัว โดย 9 ตัวเป็นสุนัขโต และอีก 15 ตัวเป็นลูกสุนัข ถูกขังอยู่ในกรงกระต่ายแคบ ๆ วันละ 23 ชั่วโมง ในสภาพแวดล้อมของบ้านที่เต็มไปด้วยมูลสุนัข พวกมันจึงถูกนำตัวมาเลี้ยงดูในศูนย์สงเคราะห์สัตว์ เพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ศูนย์สงเคราะห์สัตว์ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จับกุมตัวคนใจโหด 3 คนมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 คนนี้ ได้แก่ นายเจมส์ เพิร์คส์, นางลอร์เรน เพิร์คส์, และนายสตีเฟ่น เจนกินส์ โดยพวกเขาได้ถูกศาลตัดสินโทษเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า ให้จำคุกเป็นเวลา 6 เดือน และถูกสั่งห้ามไม่ให้เลี้ยงสัตว์อีกเลยตลอดชีวิต ขณะที่นายเจมส์ เพิร์คส์ นั้น ก็ยอมรับสารภาพแต่โดยดีว่า เขาเป็นคนลงมือฝังลูกสุนัขด้วยตัวเอง แต่เขาฝังมันเพราะคิดว่ามันตายแล้ว ซึ่งแน่นอนว่า มันเป็นคำให้การที่ขัดกับสภาพที่เจ้าหน้าที่ไปเห็น และฟังไม่ขึ้นเลยแม้แต่น้อย