เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก aktuel.mynet.com
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมลรายงานว่า นางไวโอเล็ต ดีเมลโล่ วัย 60 ปี ชาวอังกฤษ พร้อมด้วยสามีของเธอ นายอาร์คี่ ได้เดินทางไปสวนสัตว์เปิดแห่งหนึ่งในระหว่างที่กำลังพักผ่อนอยู่ที่ประเทศแอฟริกาใต้ เพื่อฉลองวันเกิดของตัวเอง แต่เเล้ววันนั้น กลายเป็นวันที่โชคร้ายที่สุดในชีวิต เมื่อเสือชีตาห์ 2 ตัว หันมาตะปบและกัดเธอเข้าที่ขาและหัว จนเธอเองเกือบเอาชีวิตไม่รอด
ทั้งนี้ นางดีเมลโล่พร้อมสามี ได้เดินทางไปสวนสัตว์แห่งหนึ่ง ในเมืองพอร์ท อลิซาเบธ ประเทศแอฟริกาใต้ และจ่ายเงินประมาณ 4.50 ปอนด์ หรือ 225 บาท เพื่อเป็นค่าเข้าชมเสือชีตาห์พี่น้องนามว่า มาร์และมอนตี้ และนางดีเมลโล่เอง ก็ได้โพสท่าถ่ายรูปกับเสือชีตาห์ พร้อมกับเอามือลูบหัวเสือชีตาห์ เพราะเข้าใจว่า เสือชีตาห์ทั้ง 2 ตัวเชื่องแล้ว
แต่ปรากฏว่า ทันใดนั้น เสือ 1 ใน 2 ตัวก็ตะปปและกัดเข้าที่ขาของเด็กหญิงแคมริน มาลาน วัย 8 ขวบ ซึ่งเป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยว และนางดีเมลโล่ก็สวมบทเป็นเเม่พระ เข้าปลอบเด็กชายคาลั่ม วัย 7 ขวบ ซึ่งเป็นน้องชายของเด็กหญิงแคมริม โดยบอกกับเขาว่า อย่าตื่นตกใจและวิ่งหนีไป เพราะนั่นจะทำให้เสือกลัว แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อเสือชีตาห์เปลี่ยนเป้าหมายมาทำร้ายเธอแทน โดยขณะนั้น นักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ ก็พยายามไล่เสือออกไป คงมีเพียงแต่สามีของนางดีเมลโล่เท่านั้น ที่ทำหน้าที่ถ่ายรูป โดยไม่คำนึงถึงว่า ภรรยาของตัวเองกำลังจะถูกเสือขย้ำ ซึ่งเขาเองออกมาบอกทีหลังว่า เขาไม่รู้จริง ๆ ว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น
ด้านนางดีเมลโล่ กล่าวว่า เธอไม่เคยคิดว่าเสือชีตาห์จะเข้าทำร้ายเธอ เพราะเธอเองเป็นผู้ใหญ่ แต่สิ่งที่เธอรู้หลังจากนั้นคือ เธอล้มลงบนพื้นและเสือก็อยู่บนตัวของเธอ มันข่วนเธอ และเธอก็รู้สึกว่า อีกตัวหนึ่งก็กำลังเดินเข้ามาร่วมด้วย จากนั้น เสือตัวหนึ่งก็กัดเธอเข้าที่คอ เธอเองก็ได้เเต่ร้องและพยายามเอามือขึ้นมาปิดคอเพื่อป้องกันตัวเอง แต่ตอนนั้น เธอกลับถูกกัดเข้าที่ขาและบริเวณข้างลำตัวแทน จากนั้น ผู้คนก็ร้องด้วยความตกใจ เธอเองไม่รู้ว่าตัวเองหนีรอดออกมาได้อย่างไร แต่เหมือนกับร่างกายสั่งเธอว่า ห้ามขยับเป็นอันขาด ให้อยู่นิ่ง ๆ และนอนแกล้งตายไว้ ไม่นานนักถึงจะมีคนเข้ามาแล้วเอาตัวเสือออกไป ขณะที่สามีก็ช่วยพยุงตัวเธอขึ้นมา ซึ่งเธอก็พบว่าตัวเองมีรอยแผลที่ขา ศีรษะ และท้อง จึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการเย็บแผล
ด้านนายดีเมลโล่ กล่าวว่า ได้จองทริปสุดพิเศษนี้เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้กับภรรยาของเขา แต่ในช่วงที่เกิดเรื่อง เขาเองได้เเต่ยืนถ่ายรูปจนมารู้สึกตัวว่า เสือกำลังขย้ำภรรยาของเขาอยู่ ในตอนนั้น เขาทำอะไรไม่ได้ และไกด์เองก็ไม่มีไม้ที่จะตีไล่เสือออกไป จนสุดท้าย พนักงานต้อนรับคนหนึ่งก็วิ่งมากับไกด์พร้อมกับไม้เพื่อตีไล่เสือชีตาห์ออกไป คาดว่าเสือน่าจะทำร้ายภรรยาเขานานประมาณ 3 นาที
นอกจากนี้ เขายังกล่าวด้วยว่า เขาเดินทางมาที่สวนสัตว์ และในนี่ก็เป็นกรงเสือชีตาห์ที่มีรั้วรอบขอบชิด อีกทั้งยังมีป้ายติดไว้ว่า นักท่องเที่ยวสามารถเดินดูเสือได้พร้อมกับไกด์และลูบเสือได้ ทางเขาเองก็ตัดสินใจลองดูเพราะคิดว่าน่าจะปลอดภัย ตอนแรกเสือชีตาห์ก็ดูจะสงบนิ่งดี แต่เมื่อภรรยาเขาเดินเข้าไปใกล้ เสือก็ลุกขึ้นแล้วก็เดินหนีไป ซึ่งไกด์ก็บอกว่า ตอนนั้นเสือคงรู้สึกรำคาญนิด ๆ ทางคณะทัวร์จึงเดินหนีไป แต่แล้วเสือตัวหนึ่งก็ดันกระโจนเข้าใส่เด็กผู้หญิง เธอร้องออกมาแล้วเขาก็หันไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ต่อมาคือ ภรรยาของเขาถูกเสือกระโจนเข้าใส่เป็นรายที่ 2
ตอนนั้น ภรรยาของเขาอาการไม่สู้ดีนัก เพราะมีเลือดไหลออกมาตามแผล โดยเฉพาะแผลบริเวณศีรษะ แต่โชคดีที่หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์เป็นอดีตพยาบาล จึงช่วยปฐมพยาบาลภรรยาของเขา ก่อนที่จะนำตัวส่งโรงพยาบาล เขาเองรู้สึกโกรธมากในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะทางสวนสัตว์บอกว่า ทุกอย่างปลอดภัย แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่เป็นอย่างนั้น อีกทั้งยังบอกว่า ทางสวนสัตว์ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้เสือเข้าทำร้ายนักท่องเที่ยว และทางสวนสัตว์มักจะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าใกล้เสือจนกว่าจะแน่ใจว่า ทุกอย่างปลอดภัยแล้ว
