สวนสัตว์เชียงใหม่ฯ เล็งนำเพนกวิน โชว์แทนหมีขั้วโลก

 




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก ร่วมคัดค้านสวนสัตว์เชียงใหม่จัดแสดงหมีขั้วโลก


          ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สวนสัตว์เชียงใหม่ฯเล็งนำเพนกวิน จัดแสดงแทนหมีขาวขั้วโลก

          นายภิมุข สิมะโรจน์ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่าหลัง จากบอร์ดบริหารมีมติยกเลิกการนำหมีขาวขั้วโลกมาจัดแสดงที่สวนสัตว์จังหวัด เชียงใหม่ไปเมื่อเร็วๆนี้ องค์การสวนสัตว์ฯกำลังเร่งพิจารณาแผนงานและสรุปว่าจะนำสัตว์ชนิดใดมาจัดแสดงที่อาคารโครงการจัดแสดงสัตว์ขั้วโลกแทนหมีขาวขั้วโลก เบื้องต้นคาดว่าอาจนำเพนกวิน หรือแมวน้ำ ที่มีอยู่แล้วในประเทศไทยมาจัดแสดงแทน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ ขณะที่อาาคารจัดแสดงสัตว์ขั่วโลกจะก่อสร้างเสร็จราวปลายปีนี้เช่นกัน

          นอกจากนี้องค์การสวนสัตว์ฯมีแผนปรับปรุงอาคารดังกล่าวให้เป็นศูนย์เรียนรู้ สัตว์มีชีวิตจากขั้วโลกทั้งหมด และห้องสมุดเพื่อให้เยาวชนได้ศึกษาหาข้อมูลและค้นคว้า โดยจะนำงบประมาณที่เหลือหลังยกเลิกแผนก่อสร้างห้องปรับอากาศสำหรับจะดแสดง หมีขั่วโลกมาปรับใช้เพื่อก่อสร้างศูนย์เรียนรู้ฯและห้องสมุดแทน

          นายภิมุข กล่าวว่า โครงการดังกล่าวอาจสะดุดไปช่วงหนึ่งเพราะมีกระแสคัดค้านจากสังคมทำให้องค์การสวนสัตว์ฯต้องกลับมาทบทวนแผนงานอีกครั้งและหลังจากได้ข้อสรุปก็ กลับมาตั้งหลักกันใหม่เพื่อเดินหน้าพัฒนาสวนสัตว์ สำหรับแผนการพัฒนาสวนสัตว์เชียงใหม่เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ นอกจากการการก่อสร้างศูนย์เรียนรู้จะมีการปรับปรุงและก่อสร้างคิดส์โซน

          สำหรับเด็ก ๆ และเยาวชนที่เข้ามาเที่ยวภายในสวนสัตว์ได้ใช้เวลาให้เป็น ประโยชน์มากขึ้น ขณะเดียวกันในปี 2555 มีแผนปรับปรุงและก่อสร้างส่วนจัดแสดงสัตว์แอฟริกาขึ้นมาด้วย













[26 พฤษภาคม] รุมต้าน สวนสัตว์เชียงใหม่ จัดแสดง หมีขั้วโลก

          สวนสัตว์เชียงใหม่จ่อทำประชาพิจารณ์ หลังคนรุมคัดค้านนำหมีขั้วโลกมาจัดแสดง หวั่นทรมานสัตว์

          เมื่อเร็ว ๆ นี้ เราคงเคยได้ยินข่าวที่ว่า สวนสัตว์เชียงใหม่ได้ทุ่มงบประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อเตรียมจัดแสดงหมีขั้วโลก ในโครงการ Polar World Chiangmai Zoo ภายในปี พ.ศ.2556 โดยระบุถึงวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการนี้ว่า เพื่อเป็นการอนุรักษ์และรวบรวมสัตว์เมืองหนาวไว้ในจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งมีอากาศเย็นสบาย และทำให้สวนสัตว์เชียงใหม่กลายเป็นแหล่งการศึกษาให้กับเด็กและพัฒนางานวิจัยเพื่อการอนุรักษ์ต่อไป

          แต่ทว่า หลังจากคนได้รับทราบข่าวนี้ ก็ได้เกิดเสียงสะท้อนกลับมาในแง่ลบเป็นจำนวนมากถึงความไม่เหมาะสมของโครงการดังกล่าว ดังเช่น นายแพทย์รังสฤษณ์ กาญจนวณิชย์ ประธานชมรมอนุรักษ์นกและสิ่งแวดล้อมล้านนา นายนิคม พุทธา เครือข่ายคุ้มครองสัตว์ป่าไทย รวมทั้งกลุ่มภาคีคนฮักเชียงใหม่ และมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ที่ได้เข้ายื่นหนังสือถึงผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เพื่อคัดค้านโครงการจัดแสดงหมีขั้วโลก (Polar World Chiangmai Zoo) ดังกล่าวนี้

          โดยนายแพทย์รังสฤษณ์ ระบุว่า สัตว์ขั้วโลกไม่ควรมาอยู่ในประเทศเขตร้อน เพราะจากผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ พบว่า หมีขั้วโลกที่ถูกจัดแสดงทั่วโลกเกือบทั้งหมดจะเกิดโรคเครียด มีอาการป่วยทางจิต มักมีอาการซึมเศร้า และพฤติกรรมซ้ำซาก อันเนื่องมาจากความไม่เหมาะสมของสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จัดแสดงที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการทางธรรมชาติ และพฤติกรรมเฉพาะของหมีขั้วโลก อีกทั้งพื้นที่ส่วนจัดแสดงหมีขั้วโลกของสวนสัตว์เชียงใหม่ ก็ไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล








          นายแพทย์รังสฤษณ์ ระบุต่ออีกว่า ตามกฎหมายพิทักษ์หมีขั้วโลกแห่งมลรัฐแมนนิโตบา แคนาดา กำหนดให้มีพื้นที่จัดแสดงไม่ต่ำกว่า 500 ตารางเมตร สำหรับหมี 1 คู่ ขณะที่ WSPA (World Society for Protection of Animals) กำหนดพื้นที่จัดแสดงไม่ต่ำกว่า 4,500 ตารางเมตร ต่อหมี 1 คู่ แต่สำหรับอาคารจัดแสดงหมีขั้วโลกของสวนสัตว์เชียงใหม่ มีพื้นที่ใช้สอยรวม 2,909 ตารางเมตร เป็นส่วนจัดแสดงหมีขั้วโลกจริง ๆ เพียง 135 ตารางเมตร และเป็นพื้นที่สระน้ำเพียง 23 ตารางเมตร ซึ่งนับว่าคับแคบและต่ำกว่ามาตรฐานสากลเป็นอย่างมาก

          ด้าน นายนิคม พุทธา เครือข่ายคุ้มครองสัตว์ป่าไทย ระบุว่า โครงการดังกล่าวอาจจะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน เพราะมองว่าความตื่นเต้นสนใจของประชาชนเมื่อเทียบกับหมีแพนด้ามีน้อยกว่ามาก อีกทั้งหมีขั้วโลกเป็นหมีที่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพกักขังในพื้นที่คับแคบได้ ดังเช่น ที่ซาฟารีเวิลด์ซึ่งจัดแสดงหมีขั้วโลกอยู่ก็พบว่าหมีมีอาการป่วยทางจิตใจและร่างกาย และ ณ วันนี้ ก็ไม่มีคนสนใจเข้าชมแล้ว เพราะรู้สึกเบื่อหน่าย 

          ขณะที่นายธนภัทร พงษ์ภมร ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวภายหลังได้รับเรื่องร้องเรียนนี้ว่า จะส่งข้อมูลดังกล่าวให้กับองค์สวนสัตว์แห่งประเทศไทยทบทวนต่อไป พร้อมกับยอมรับว่า กังวลใจอยู่บ้างที่มีผู้คัดค้านโครงการดังกล่าว แต่ขอยืนยันว่า การดำเนินการโครงการทั้งหมดเป็นไปตามมาตรฐานสากล มีการปรับแก้ตามข้อแนะนำของผู้เชี่ยวชาญมาตลอดเพื่อให้โครงการออกมาได้สมบูรณ์ที่สุด

          ด้านนายโสภณ ดำนุ้ย อดีตผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย และเจ้าของแนวคิดจัดแสดงหมีขั้วโลกในประเทศไทย ก็ได้ออกมายืนยันว่า จะไม่จะยุติโครงการดังกล่าว เพราะขณะนี้โครงการก่อสร้างอาคารจัดแสดงพันธุ์สัตว์ขั้วโลกมีความคืบหน้าไปแล้ว 30% และไม่จำเป็นต้องยกเลิกการจัดแสดงหมีขั้วโลก เพราะทางสวนสัตว์สามารถเลี้ยงดูหมีขั้วโลกได้เป็นอย่างดี 






          สำหรับเรื่องพื้นที่การจัดแสดงที่นักอนุรักษ์ทักท้วงมานั้น นายโสภณ ระบุว่า ยินดีรับฟังข้อทักท้วง และจะไปดำเนินการแก้ไขเนื้อที่การจัดแสดงให้ขยายกว้างมากขึ้น แต่ทั้งนี้ ทางสวนสัตว์ได้ออกแบบพื้นที่จัดแสดงตามมาตรฐานของยุโรปแล้ว และของบประมาณจัดสร้างอาคารไว้ 71 ล้านบาท ซึ่งหากจะขยายพื้นที่มากขึ้นก็ต้องทำเรื่องเสนอของบประมาณเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนมาตรฐานสากลที่ WSPA กำหนดมานั้นเป็นกฎเกณฑ์ที่กำหนดขึ้นในภายหลัง 

          ขณะที่ สัตวแพทย์หญิงกรรณิการ์ นิ่มตระกูล สัตวแพทย์ประจำสวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวถึงประเด็นนี้เช่นกันว่า หมีขาวที่จะนำมาจัดแสดงนี้ ไม่ใช่หมีอาร์กติกที่อาศัยอยู่ในป่า แต่จะเป็นการแลกเปลี่ยนหมีที่เกิดและเลี้ยงอยู่ในสวนสัตว์อยู่แล้ว ที่สำคัญเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะทางสวนสัตว์ซาฟารี เวิลด์ ของไทย ก็มีหมีขั้วโลกอยู่ 4 ตัว และไม่มีปัญหาในการอยู่อาศัยในสวนสัตว์แต่อย่างใด

          และหลังจากที่ทางสวนสัตว์เชียงใหม่ออกมายืนกรานจะไม่ยุติโครงการดังกล่าว ก็ทำให้โลกไซเบอร์วิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้กันอย่างแพร่หลาย โดยมีคนตั้งหน้าเฟซบุ๊ก "ร่วมคัดค้านสวนสัตว์เชียงใหม่จัดแสดงหมีขั้วโลก" ขึ้นมา เพื่อขอเสียงชาวไซเบอร์ผลักดันคัดค้านโครงการดังกล่าว ซึ่ง ณ วันนี้ (26 พฤษภาคม) มีผู้กด Like เห็นด้วยกับโครงการนี้เกือบ 10,000 เสียงแล้ว 






          ทั้งนี้ ชาวไซเบอร์ส่วนใหญ่ระบุถึงสาเหตุที่คัดค้านการนำหมีขั้วโลกมาจัดแสดงที่ประเทศไทยว่า เป็นการฝืนธรรมชาติ เพราะประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนชื้นไม่เหมาะที่จะเลี้ยงหมีขั้วโลก ซึ่งควรจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศหนาวจัดซึ่งเหมาะสมกับการดำเนินชีวิตมากกว่า พร้อมกับโจมตีโครงการดังกล่าวว่าเป็นเรื่องที่ไม่สร้างสรรค์อย่างมาก และจะเดินหน้าคัดค้านเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด เพื่อปกป้องไม่ให้หมีขั้วโลกได้รับความทุกข์ทรมานหากต้องถูกส่งมายังประเทศไทยในอนาคต

          อย่างไรก็ตาม จากข้อคัดค้านทั้งหมด ทางสวนสัตว์เชียงใหม่ก็ได้เตรียมทำประชาพิจารณ์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของชาวเชียงใหม่ และประชาชนทั่วไปในเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยมีความเป็นไปได้ว่า การประชาพิจารณ์จะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้ เราจึงต้องมาจับตาดูกันว่า ผลของการประชาพิจารณ์จะเป็นอย่างไร และสุดท้ายแล้ว "หมีขั้วโลก" จะยังคงได้อยู่ในบ้านของมันดังเดิมต่อไปหรือไม่





คลิป ต้าน สวนสัตว์เชียงใหม่ จัดแสดง หมีขั้วโลก




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
    



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สวนสัตว์เชียงใหม่ฯ เล็งนำเพนกวิน โชว์แทนหมีขั้วโลก อัปเดตล่าสุด 10 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 20:42:13 4,417 อ่าน
TOP
x close