เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.อ.อ.สุวัฒน์ สรรพโกศลกุล รองนายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า มีสุนัขถูกคนใจร้ายใช้น้ำกรดสาดตามลำตัว จนดิ้นทุรนทุรายหลายตัว เหตุเกิดในซอยด้านหลังตึกริมถนนสาย 1 หมู่ 8 ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรีบไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าที่หลังร้านขายก๋วยเตี๋ยว มี นางศุภรัตน์ ธนามีโพธิ์สม อายุ 51 ปี เจ้าของร้าน กำลังให้อาหารสุนัขพันธุ์ไทยเพศผู้สีขาวชื่อ เกาเหลา อายุประมาณ 2 ปีเศษ โดยเจ้าเกาเหลาถูกล่ามโซ่อยู่ มีพลาสติกครอบอยู่ที่คอเพื่อป้องกันสุนัขเลียแผล ส่วนบริเวณตามลำตัว ขา และคอมีผ้าพันแผลพันรอบลักษณะคล้ายถูกไฟไหม้
จากการสอบถาม นางศุภรัตน์ ทราบว่าเลี้ยงเจ้าเกาเหลามานาน 2 ปีเศษ โดยมันจะนอนอยู่ในซอยหลังบ้าน และจะเป็นหูเป็นตาให้กับคนในซอย จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะที่ตนขายก๋วยเตี๋ยวอยู่หน้าร้าน ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของเจ้าเกาเหลา วิ่งร้องครวญครางเข้ามาในร้าน ในสภาพตัวเปียกและมีบาดแผลคล้ายหนังลอกออกไป จึงรีบล้างตัวให้แล้วไปส่งที่โรงพยาบาล ซึ่งสัตวแพทย์ได้ทำแผลและยืนยันว่าเกิดจากการถูกน้ำกรดราด
ต่อมาเวลาไล่เลี่ยกันก็มีสุนัขพันธุ์ไทยเพศผู้สีขาว ชื่อว่า ชิโร่ อายุประมาณ 2 ปี ถูกน้ำกรดราดเป็น แผลฉกรรจ์เช่นเดียวกัน จากนั้นในวันถัดมาสุนัขพันธุ์ไทยเพศผู้สีดำ อายุ 2 ปีเศษ ของ พ.อ.อ.สุวัฒน์ สรรพโกศลกุล รองนายกเทศมนตรี ได้ถูกคนร้ายใช้น้ำกรดราดเป็นแผลฉกรรจ์อีก คาดว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดจากฝีมือคนโรคจิตคนเดียวกัน เพราะคนในซอยหลายคนบอกว่า พวกโรคจิตเป็นชาย ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในซอย มีขวดน้ำกรดพันด้วยผ้าสีขาวอยู่ในมือ เมื่อเจอสุนัขก็จะสาดใส่ทันที
อย่างไรก็ตาม สุนัขในซอยส่วนใหญ่เป็นสุนัขจรจัด ชาวบ้านใจบุญมักเอาอาหารให้มันกิน สุนัขเหล่านี้จึงมาอยู่ประจำ สันนิษฐานว่าอาจจะมีบางคนที่ไม่ชอบสุนัขจึงเอาน้ำกรดไปราด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นับเป็นเรื่องที่โหดร้ายและไม่ควรทำ การกระทำดังกล่าวถือว่าโหดเหี้ยมและสมควรถูกประณามอย่างยิ่ง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก