วันที่ 5 สิงหาคม 2558 เว็บไซต์เดลี่เมล เปิดเผยภาพสุดสะเทือนใจสำหรับคนรักสุนัข เมื่อสุนัขพันธุ์เฟรนช์ มาสทิฟฟ์ ถูกคนใจร้ายเอาไปฝังดินทั้งเป็น สภาพร่อแร่ใกล้ตาย มันถูกพบเข้าโดยชายหนุ่มนาม เปโดร ดีนิส ที่กำลังพาสุนัขของเขามาเดินเล่นที่ทุ่งโล่งของเมืองกาเรียร์ ซูร์ เซน ทางตะวันตกของประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันเสาร์ที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา
หลังจากนั้นเปโดรจึงรีบช่วยเหลือเจ้าหมาโดยด่วน ด้วยการขุดดินบริเวณที่ฝังมันออก และพบว่าดินบริเวณนั้นจับตัวเป็นก้อนแข็งมากจนทำให้สุนัขแทบขยับตัวไม่ได้ นอกจากนั้นเขายังพบเชือกที่มัดคอของมันเอาไว้กับกระสอบที่บรรจุก้อนหินจำนวนมาก ทำให้สุนัขตัวนี้แทบจะหนีไปไหนไม่ได้เลย เปโดรจึงโทรศัพท์แจ้งหน่วยกู้ภัยเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่สุนัขตัวนี้ พลางพยายามขุดดินออกด้วยมือเปล่าเท่าที่เขาจะทำได้
หลังจากนั้นสุนัขถูกนำตัวออกมาจากดินได้อย่างปลอดภัย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า มันมีอาการตื่นตกใจและอ่อนเพลียจากอาการขาดน้ำอย่างมาก และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสัตว์ที่ใกล้ที่สุดเพื่อให้การพยาบาลอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนแกะรอยจนสาวไปถึงตัวเจ้าของสุนัขวัย 21 ปี ผู้ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา และบอกว่าเขาไม่ได้เป็นคนฝังสุนัข แต่มันวิ่งหนีออกจากบ้านไปนานแล้ว
อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่สืบสวนระบุว่าคำให้การของเจ้าของสุนัขนั้นฟังไม่ขึ้นและไม่มีน้ำหนักพอ เนื่องจากผลการวินิจฉัยร่างกายของสุนัขตัวดังกล่าวพบว่ามันมีอาการปวดตามข้อกระดูกจนแทบจะวิ่งไม่ได้มาเป็นเวลามากกว่า 10 ปีแล้ว ดังนั้นการอ้างว่าสุนัขวิ่งหนีไปนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น
สุดท้าย ชายหนุ่มเจ้าของสุนัขถูกตั้งข้อหาทารุณกรรมสัตว์ หากพบว่ามีความผิดจริงจะถูกปรับเป็นเงิน 2 หมื่นยูโร (ราว 1 ล้านบาท) และถูกจำคุกเป็นเวลา 2 ปี
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Pedro Dinis