ทำความรู้จัก บีเกิล (Beagle) สุนัขพันธุ์เล็กจากประเทศอังกฤษ หนึ่งในสายพันธุ์สุนัข K-9 ถ้าอยากเลี้ยงน้องบ้าง ต้องเตรียมตัวอย่างไร ไปดูกันเลย
ความน่ารักของเจ้าตูบ บีเกิล อาจทำให้หลายคนตกหลุมรักเจ้าตูบพันธุ์นี้ซะจนอยากได้มาเลี้ยงสักตัว ก็เพราะเจ้าบีเกิลเป็นน้องหมาที่มีใบหน้าน่ารัก หูปรก ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อน แถมยังเป็นสุนัขที่รักเด็ก เข้ากับคนง่ายและเข้ากันได้ดีกับสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจไปรับสมาชิกใหม่พันธุ์นี้มาเป็นเพื่อนสี่ขาคู่ใจ ลองไปทำความรู้จักกับเจ้าบีเกิลกันก่อนดีกว่าค่ะ
ประวัติบีเกิล
บีเกิล (Beagle) เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศอังกฤษ สันนิษฐานว่าสืบเชื้อสายมาจากสุนัขล่าเนื้อ (Hound) สายพันธุ์ทัลบอตที่พระเจ้าวิลเลี่ยมที่ 1 นำเข้าไปเลี้ยงที่อังกฤษ และมีการผสมพันธุ์กับสุนัขท้องถิ่น จนกลายเป็นต้นตระกูลของบีเกิล เนื่องจากมีขนาดตัวที่พอเหมาะ เป็นสุนัขอารมณ์ดี มีสุขภาพแข็งแรง และทนทานต่อโรค ทำให้บีเกิลกลายเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมในหลายประเทศรวมถึงสหรัฐอเมริกา และในปี ค.ศ. 1885 ได้มีการรับรองสายพันธุ์โดยสมาคมพัฒนาสายพันธุ์สุนัขแห่งอเมริกา (AKC) แถมยังกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้วาดการ์ตูนที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่างเรื่อง สนูปปี้ด้วย
นอกจากนี้หลังจากการพัฒนาสายพันธุ์ และมีทักษะการดมกลิ่นที่โดดเด่น ปัจจุบัน บีเกิล ยังได้รับเลือกให้เป็นสุนัข K-9 ทำงานร่วมกับหน่วยงานสำคัญ ๆ เช่น การตรวจสอบหาวัตถุต้องสงสัย เป็นต้น
ลักษณะบีเกิล
บีเกิล จัดอยู่ในกลุามสุนัขขนาดกลาง ความสูงประมาณ 33-40 เซนติเมตา น้ำหนัก 10-11 กิโลกรัม และอายุเฉลี่ยน 12-15 ปี ขนสั้นเรียบตรง มี 3 สี ประกอบด้วย ขาว ดำ และน้ำตาล หูตกโดยธรรมชาติ กะโหลกทรงโดม ปากทรงสี่เหลี่ยมจมุกกว้าง หลังตรง หางตั้งสูง
นิสัยบีเกิล
บีเกิลเป็นสุนัขที่สุภาพ อ่อนโยน น่ารัก ขี้เล่น เฉลียวฉลาด ชอบพบปะผู้คน เหมาะสำหรับเลี้ยงไว้ในครอบครัว เป็นมิตรกับสัตว์อื่น ๆ แถมยังมีพลังเหลือล้น ไม่ควรปล่อยให้บีเกิลอยู่ตามลำพัง เพราะจะส่งเสียเห่าหอน และอาจทำลายข้าวของในบ้าน หรือพยายามหาทางหนีออกมาได้ และอาจจะส่งเสียงเห่าบ่อย หากสภาพแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงไปหรือเจอคนแปลกหน้า
อาหารและการเลี้ยงดูบีเกิล
บีเกิล เป็นสุนัขที่ชอบออกกำลังกาย ดังนั้นควรมีพื้นที่ให้วิ่งเล่นหรือพาไปออกกำลังกาย เช่น เดินเล่น 2 ครั้งต่อวัน หรือเช้า-เย็น หมั่นแปรงขันทุก ๆ 3-4 วัน และอาบน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง แต่ถ้าหากเนื้อตัวไม่สกปรกมากสามารถใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดแทนได้ เพื่อกำจัดจนที่ตายแล้ว กระตุ้นการไหลเวียนเลือดให้ขนมีสุขภาพดีและมีความเงางาม
อาหารควรให้ 2 มื้อต่อวัน ในปริมาณที่เหมาะสมกับวัยและอายุ ทั้งนี้หากบีกิลมีอาการท้องป่องจากการกิน ให้ลดจำนวนมื้อลงมา หรือปรับให้เหมาะสมกับการออกกำลังกาย เพื่อป้องกันโรคอ้วน โดยดูที่สารอาหารที่จำเป็นเป็นหลัก ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามินและแร่ธาตุ
โรคที่ควรระวังของบีเกิล
สำหรับโรคอันตรายที่พบได้บ่อยในสุนัขบีเกิล ได้แก่ โรคลมชัก จากความผิดปกติของระบบประสาท โรคหมอนรองกระดูกช่วงคอ ที่ส่วนใหญ่จะพบในสุนัขที่มีคอยาวและศีรษะใหญ่ รวมไปถึงโรคผิวหนังและช่องหูอักเสบ ที่เกิดความมีความชื้นสะสมและยีสต์
เรียกว่าเป็นสุนัขอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่เหมาะสำหรับครอบครัวจริง ๆ เพราะนอกจากจะขี้เล่น ฉลาด ยังเป็นมิตรอีกด้วย แต่ทว่าหากใครอยากจะเลี้ยงก็ควรมีเวลาดูแลและพาน้องไปออกกำลังกายด้วยะนะคะ
