กรรไกรตัดขนสุนัข...ง่าย ๆ ที่น่ารู้ !!

กรรไกรตัดขนสุนัข...ง่าย ๆ ที่น่ารู้ !! (โลกสัตว์เลี้ยง)
โดย คุณสาธิต สุรัตพิพิธ โรงเรียนสอนศิลปะการตัดแต่งขนสุนัข สตาร์วู๊ต (ในความควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการ)

            ห่างหายจากบทความวิชาการมาหลายฉบับเชียว ผู้เขียนได้ให้ความรู้ในเรื่องอุปกรณ์บางส่วนของการตัดแต่งขนสุนัขพอคร่าว ๆ กันไปบ้างแล้ว (บทความทั้งหมดไม่ใช่บทเรียนที่จะนำมาเป็นความรู้อย่างครบถ้วน) ยังคงมีเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยที่ต้องเสาะหาความรู้กันอีกมากมายตามวิวัฒนาการที่เจริญก้าวหน้าขึ้น

            ฉบับนี้ มาพูดถึงหัวใจของการตัดขนสุนัข ที่ต้องเน้นด้วยกรรไกรคู่กายของช่างแต่ละคน เหมือนเป็นอาวุธที่เป็นส่วนสำคัญที่สุด เปรียบเหมือนพู่กันของศิลปินที่ใช้วาดเส้นสายของศิลปะนั่นเอง!!

            ส่วนตัว ผู้เขียนเป็นครูไม่ใช่พ่อค้า จึงขอให้ความรู้แบบง่าย ๆ ตามทักษะซึ่งจะไม่ขอพูดถึงยี่ห้อหรือวัตถุดิบที่ใช้ผลิตให้ดูเอิกเกริก! และต้องขอออกตัวด้วยว่าคงไม่ไปค้นหาข้อมูล เสาะหาซื้อกรรไกรจากทั่วทุกมุมโลกที่แข่งกันผลิตกรรไกรร้อยแปดชนิดมาประชันอ้างอวดสรรพคุณที่ดีเลิศกัน เช่น ญี่ปุ่น อเมริกา เยอรมัน หรือแม้กระทั่งที่จีนมาลองใช้ มาให้ความรู้กัน และในขณะเดียวกัน ขอฝากว่าผู้นำเข้าหรือพ่อค้าแม่ค้า ก็ไม่ใช่ครูหรือช่างที่สามารถแนะนำอวดอ้างสรรพคุณหรือมีทักษะที่สันทัดกับคุณภาพกรรไกรเมื่อจะขายให้กับช่างตัดขนสุนัขมือใหม่ที่อาจยังไม่มีประสบการณ์ (โยนทิ้งกันมาเยอะแล้ว) ดังนั้นกรรไกรที่มีคุณสมบัติดีพร้อมที่สุดที่เหมาะสมกับช่างคนนั้น ๆ จึงขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับผู้ใช้และใช้กับงานลักษณะใดมากกว่า

            ขนาดกรรไกรตัดขนสุนัข (Dog grooming Scissors) ที่สามารถซื้อหาได้ตามตัวอย่างชนิดที่มักคุ้นเคยกันในบ้านเรา ซึ่งมีทั้งประเภทตรง (Stright Scissors) และโค้ง (Curved Scissors) รวมถึงกรรไกรฟันปลา (Thinning Scissors) มีขนาดตั้งแต่ 6 นิ้ว, 6 นิ้ว 1/2 , 7 นิ้ว, 8 นิ้ว, 8 นิ้ว 1/4 , 8 นิ้ว 1/2 , 9 นิ้ว, 10 นิ้ว ลักษณะรูปร่างมีความแตกต่างกันในส่วนต่าง ๆ หลายหนึ่ง ๆ รูปแบบ (มากมายจนพูดกันไม่หมด) เช่น...

            1. ประเภทคมตัดมีซี่ฟันละเอียด ๆ ในส่วนขอบคมด้านหนึ่งของกรรไกร ซึ่งนิยมให้กันมากในบ้านเรา เพราะตัดขนได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าขนหนาขนบางโดยเส้นขนไม่สไตล์ลื่นหนี เรียกว่า (Cutting Scissors) เพื่อใช้ในการตัดสร้างทรวดทรงได้ดี บางยี่ห้อ เจาะรูช่วงขาตัดทั้งสองด้านเพื่อให้กรรไกรมีน้ำหนักเบาลง


            ในส่วนการสอนของผู้เขียน หากจะใช้ก็จะใช้แนะนำกรรไกรชนิดนี้เพื่อ Trim เก็บปลายขนให้เรียบเนียนในขั้นตอน Final Checking มากกว่าที่จะนำมาตัดขึ้นทรง!! แต่ก็เป็นที่น่าแปลกใจว่าช่างญี่ปุ่นมักนิยมใช้เพียงกรรไกรในชนิดนี้เสียส่วนใหญ่ และใช้เพียงกรรไกรตรงสั้นแค่ 7 นิ้ว หรือ 7 นิ้ว 1/2 เท่านั้น !!

            3. กรรไกรซอยฟันปลา (Thinning Scissors) มีลักษณะซี่ฟันสองแบบคือมีซี่ฟันด้านเดียวอีกด้านหนึ่งเป็นขอบคมเรียบ เหมาะสำหรับตัดเส้นขนหนา และแข็งมากเพื่อลด Volume ได้อย่างรวดเร็ว ส่วนประเภทมีซี่ฟันสองด้านใช้งานที่นุ่มนวล ในการลบรอยเส้นตัดและเน้นความนุ่มของ volume ของทรงขณะตัด ให้ดูอ่อนหวานกว่าแบบแรก

            4. ส่วนประเภทที่ปลายกรรไกรแหลมเปี้ยบเสียจนดูเหมือนปลายดาบปลายมืด ซึ่งขณะใช้อาจพลาดทิ่มท้องทิ่มตาสุนัขนั้น พิจารณากินอย่าหลงเชื่อพ่อค้าแม่ค้าแม่ค้าแล้วซื้อมาใช้โดยเด็ดขาด! ในขณะเดียวกัน หากต้องการความปลอดภัยในบริเวณตา ก็แนะนำให้ใช้กรรไกรประเภทปลายบนกลม

            5. กรรไกรโค้งที่มีขนาดสั้น 6 นิ้วหรือ 7 นิ้ว 1/2 นิ้ว ที่มักมีคำถามว่าจะใช้ในการตัดขนในลักษณะใด ผู้เขียนแนะนำให้ใช้ตัดขนรอบอุ้งเท้า รอบใบหน้า และในส่วน Topknot ได้ดีลองหาใช้กันได้!

            เราพอทราบว่า ส่วนใหญ่ช่างตัดขนสุนัขใช้กรรไกรกันแบบใด ทีนี้ ถามว่า...ช่างตัดแต่งขนสุนัขในบ้านเรา ในแต่ละร้านที่เปิดกันดาษดื่น แทบจะอยู่ตรงหัวถนนยันท้ายซอย มีกรรไกรที่ใช้ทำงานกันคนละกี่อัน ซึ่งเชื่อแน่ว่า คำตอบพื้นฐานคือ 2, 3 หรือ 4 ซึ่งคงหมายถึงกรรไกรตรง โค้ง กรรไกรพันปลา ส่วนขนาดความยาวคงจะคล้ายกันเป็นไปหมด คือ 7 นิ้ว และ 8 นิ้ว 1/4 เท่านั้น! บางคนใช้กรรไกรจนถนัดมือเคยชิน จึงไมคิดเสาะหามาใหม่ เมื่อไม่คมก็ส่งลับแล้วลับอีกจนบาง รอจนพังคามือไป แล้วหาซื้อใหม่นั่นเอง!

            และอยากฝากข้อคิดว่า กรรไกรชนิดต่าง ๆ มีคุณสมบัติแตกต่างกัน แต่ไม่ว่าเราจะได้กรรไกรที่คิดว่าดีที่สุด และคุณค่าราคาสูงเพียงใด แต่หากช่างตัดขนสุนัขคนนั้น ๆ ไม่มีความรู้และทักษะที่จะใช้อย่างแท้จริง กรรไกรอันนั้นก็ไม่สามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้สวยงามได้ ผู้เขียนจะขอให้ความรู้เรื่องกรรไกรเพิ่มอีกในฉบับหน้าครับ





ขอขอบคุณข้อมูลจาก