อุ๊บ วิริยะ แฉขบวนการคนมีสีสั่งฆ่า เตี้ย มช. ลั่นจับได้ จะบวชให้ - ทนายซัด มโนไปเอง

 

              อุ๊บ วิริยะ ปะทะเดือด ทนายรณณรงค์ ลั่นคนมีสีสั่งฆ่า เตี้ย มช. ทำเป็นขบวนการ ทนายตอกกลับ มโนไปเอง ชี้ปล่อยให้ตำรวจไปทำคดีชาวบ้านเดือดร้อนดีกว่า

               อุ๊บ : ก็ไม่ได้เรียนที่นั่น ไม่ได้มีผัวอยู่ที่นั่น แต่ส่วนตัวรักหมา รักแมว และช่วยน้องหมา น้องแมว มาตลอด 30 ปี

               อุ๊บ : บินไปเลยค่ะ มีไอ้อีบอกว่าอีนี่โหนอีกแล้ว โหนจริงค่ะ แต่โหนจริง ทำจริง บินไปโดยใช้ทุนส่วนตัว รับไม่ได้ค่ะ ไปเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ให้น้องเตี้ยกระชากหนังหน้าไอ้คนที่บงการออกมา (ทุบโต๊ะ)
 
               ดร.สุรินทร์ : คุณสมศักดิ์ ไชยวงศ์ เป็นเจ้าของร่วม มช. แอดมินเตี้ย สุนัขตัวนี้มีที่มาที่ไป มีคุณแม่ชื่อถุงเงิน คลอดเตี้ยมาเป็นครอกที่ 5 เตี้ยเกิดปี 2555 คุณสมศักดิ์ขี่จักรยานไปเที่ยว เตี้ยก็วิ่งตามเขาไป เป็นหมารักอิสระ


               ดร.สุรินทร์ : ตรงนี้ต้องระวังเพราะอยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย แต่บอกได้เลยว่าวอชด็อก ไทยแลนด์ ผม และทีมงานทั้งหมด มีหลักฐานมากพอแล้ว แต่ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย

               อุ๊บ : คนคิดว่าการฆ่าหมาตัวหนึ่งไม่มีประโยชน์ แต่เมื่อสาวเข้าไปลึก ๆ มันมีอะไรให้ว้าว เซอร์ไพรส์ คนระดับใหญ่ มีสี มึงทำขนาดนี้เลยเหรอ แค่หมาตัวหนึ่ง อีกไม่นานความจริงกระจ่าง ทุกคนจะต้องโอ้โห เราอยากให้เคสเตี้ยเป็นเคสตัวอย่างและเป็นเคสสุดท้าย ซึ่งจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้วในประเทศไทย คนรักหมา รักแมว รับไม่ได้ อยากให้อาจารย์ไปช่วยต่อต้าน ไปกับเราได้ไหม
 

               ดร.สุรินทร์ : เราจะปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในสถานศึกษาไม่ได้นะครับ สุนัขตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่งมาซุกหัวนอนธรรมดา มันน่าจะเป็นที่ที่ปลอดภัย อยู่ในแวดล้อมคนมีการศึกษา แล้วมีกรณีการกำจัดหมา เป็นความเชื่อที่ผิด ๆ มานานแล้ว ว่าผู้หลักผู้ใหญ่มาตรวจมหาวิทยาลัยต้องเซตซีโร่หมา คำนี้ครับ เป็นความเชื่อที่ผิด ๆ มีวิธีการกำจัดที่ผิด ๆ หลายครั้งที่สุนัขอยู่ร่วมกับชุมชนเป็นอย่างดี แต่พอมีการมาตรวจหายหมด นักศึกษาถามว่าหายไปไหน อ๋อ เอาไปดูแล เอาไปฝาก แต่จริง ๆ ไม่ใช่ เกิดเรื่องเกิดคดีขึ้นมา วอชด็อกฯ เขาไปสืบทราบมา อาจารย์หลายท่านเป็นพยานว่าเห็นแบบนี้ รปภ. แม่บ้านที่เห็นแบบนี้ถูกไล่ออก ถูกปลดออกเยอะไปหมด เป็นการแอบเซตซีโร่อย่างแนบเนียน เกี่ยวแน่ ๆ 3 วงการใหญ่ ๆ วงการศึกษา วงการตำรวจ วงการชันสูตรของสัตวแพทย์ ซึ่งไม่มีนิติวิทยาศาสตร์อย่างชัดเจน

               อุ๊บ : ในฐานะเรารักน้องหมา น้องแมว และช่วยมาหลายเคส อย่างที่บอกว่าโหน ฉันไม่โหน ฉันพูดจริง ทำจริง ไปทุนส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับวอชด็อก ไทยแลนด์ เราไปด้วยใจ เราเคยไปเชียงใหม่ ไปซื้ออาหารให้เขา พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้เรารับไม่ได้

               อุ๊บ : ไม่ใช่ มันมีส่วน แต่มันเป็นกระบวนการ มันมีตัวเล็กตัวน้อย มันมาเป็นทอด ๆ ตอนนี้เราต้องการผู้บงการ คนที่มาทำกับเตี้ยคือเหยื่อ เตี้ยคือเหยื่ออันโหดร้าย

               อุ๊บ : มันมีหลายพวก

              ดร.สุรินทร์ : ถ้าผลการสืบสวนออกมาแล้ว กระเทือนถึง 3 วงการใหญ่ ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของสังคม

               อุ๊บ : มันไม่น่าเป็นไปได้ คนมีการศึกษา ทำงานที่มีชื่อเสียง จิตใจคุณทำด้วยอะไร ตอนนี้บอกอะไรไม่ได้ ต้องรอให้ชัดเจน แต่เรารู้


               ดร.สุรินทร์ : เขาเป็นผู้ต้องสงสัย เราพบเขาในกล้องวงจรปิด เขาเป็นคนพาเตี้ยออกไปเป็นคนสุดท้าย

               ดร.สุรินทร์ : ใช่ครับ

               ดร.สุรินทร์ : เป็นเรื่องการเบี่ยงเบนเรื่องชันสูตร เขาชันสูตรว่ามีรอย 4 รอยที่คอ แต่ในผลชันสูตรบอกว่าไม่สามารถตรวจสอบได้ จริง ๆ เรามั่นใจว่าตรวจสอบได้ อาจจะประมาทคนรักหมาไปหน่อย เขาคิดว่าแค่หมาตัวหนึ่ง
 
               อุ๊บ : ก็เขาคิดแค่นั้น เราถึงออกมากัน รับไม่ได้

               อุ๊บ : จะไปบวชให้พ่อแม่มัน ถ้าสำเร็จ จับคนบงการได้ทุกตัวตน จะบวชจริง ๆ ห่มผ้าเหลืองได้ แต่ไม่ห่มขาว สัญญาเลยนะ ถ้าจับสำเร็จ จะบวชให้พี่เตี้ย มช. กล้ามาบวชกับกูไหม ประกาศกลางรายการเลย

              รณณรงค์ : มันเยอะไปหน่อยสำหรับคนรักหมา ถ้าหมาตายก็ให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย มันควรจบแค่นั้น ถ้ามีหลักฐานว่าตั้งใจทรมานหมา ก็ดำเนินคดีกับคนทรมานไป มันควรจบแค่นั้น

               ดร.สุรินทร์ : ตอนแรกไม่ได้เป็นแบบนี้ เราถึงได้ออกมาโวยวาย ตอนแรกถ้าวอชด็อกฯ ไม่เข้าไปจะเป็นการแค่ว่าเป็นอุบัติเหตุ จุดธูปขอโทษจะจบแค่นั้นจริง ๆ แต่พอวอชด็อกฯ เข้าไป มันถึงได้ทราบเจตนา ไม่ได้จะพาไปเที่ยว เขาพาไปกระทำแล้ว แล้วมาหลอกลวงว่าหายไปไหน จะช่วยหาอย่างโน้นอย่างนี้

               ดร.สุรินทร์ : เก่งไหมล่ะครับ


              รณณรงค์ : เป็นหมาจรจัดหรือเปล่า ต้องดูด้วยนะ กฎหมายฉบับนี้ที่ออกมา เวลาหมาตาย วอชด็อกฯ ออกมาไฝว้เต็มที่ แต่เวลาเด็กโดนหมากัด วอชด็อกฯ หายหมดเลย อันนี้คนตั้งคำถามเยอะมาก

               อุ๊บ : มันเป็นนโยบายของเขา เหมือนอุ๊บพอมีเรื่องอะไรก็ออกมาโหนกระแส เพราะอยากจะทำ คุณจะมาบังคับให้ทำไม่ได้

              รณณรงค์ : ผมได้ยินอันหนึ่งมา บรรดากลุ่มเพื่อนทนายเขาบอกว่าจะมีสัตวแพทย์ฟ้องวอชด็อกฯ เวลาให้การ ให้ข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งต่อไปอาจจะมีการฟ้องร้องแบบนี้ขึ้นมาอีก

               ดร.สุรินทร์ : เราไม่ได้กลัวเลย เรามีประเด็นกับสัตวแพทย์เยอะมาก เพราะเขาไม่อยากขึ้นศาล บางทีมีเหตุจูงใจว่าอุบัติเหตุหรือเจตนา ผลชันสูตรหลายอันจะเบี่ยงเบน ซึ่งเป็นเรื่องที่เราจับตามองและเราจะทำต่อไป มันมีความขัดแย้งในการสืบสวน ถ้าเราไม่เข้าไปตั้งแต่แรก มันจะจบไปแค่หมาตัวหนึ่งเท่านั้นเอง

               อุ๊บ : มันมีการปกปิดกัน

              รณณรงค์ : ผมก็รักสุนัข แต่การรักกับความคลั่งเกินข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ผมว่ามันเกินไป และเกินไปเยอะด้วย

              รณณรงค์ : อันนั้นเป็นความชอบส่วนตัว คุณอยากทำก็ทำไป ไม่ได้ห้าม คุณมีความชอบ คุณใช้เงินของคุณเองไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ที่เขารับไม่ได้ ถ้าไม่มีการวางแผนอะไร มันจะอะไรนักหนากับหมา

              รณณรงค์ : คนสงสัยกันเยอะ วอชด็อกฯ รับบริจาคหลังทำคดีของเตี้ย เจตนาแอบแฝงหรือผลประโยชน์ทับซ้อนหรือเปล่า

               ดร.สุรินทร์ : การบริจาค วอชด็อกฯ รับบริจาคในเพจปกติ ไม่ได้บอกว่าบริจาคช่วยเตี้ย มช. เป็นการบริจาคทั่วไปเพื่อเอามาใช้ในมูลนิธิปกติ แล้วมูลนิธิมีการเปิดเผย แสดงรายรับ-รายจ่ายเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
              รณณรงค์ : ปกติหมามีเจ้าของก็ต้องเลี้ยงไว้ในบ้านตัวเอง ไม่ได้ไปปล่อยในที่สาธารณะแบบนี้ นั่นเป็นประเด็นที่ศาลหรืออัยการอาจสั่งไม่ฟ้องก็ได้นะ ผู้ชมต้องตามดูให้จบ ต้องดูว่าเจ้าของเอาไปเลี้ยงในบ้านหรือปล่อยในที่สาธารณะ บางครั้งคุณไม่ดูแลเลย มันเรียกว่าสละเจตนาการครอบครองทางกฎหมาย เป็นประเด็นทางกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยกัน ผมไม่เห็นใครเอาหมาตัวเองไปเลี้ยงในที่สาธารณะ

              รณณรงค์ : ผมว่ามีความทับซ้อนกัน มันรู้สึกว่าไม่ใช่แค่เรื่องเตี้ยมั้ง

              รณณรงค์ : แต่ยอดการเข้าถึง เข้าไปดู พอคนเห็นเรื่องเตี้ย บางคนก็อาจบริจาคเพราะคิดว่าเอามาทำเรื่องเตี้ยหรือเปล่า

               อุ๊บ : บ้านเตี้ยกับ มช. ติดกัน บางทีกลับไปกลับมา

               ดร.สุรินทร์ : ขอชื่นชมคุณลุง เพราะเขาเข้าใจสุนัขตัวเองว่ามีความสุขที่จะอยู่ตรงนั้น และเขาก็ขี่จักรยานเจอกันบ่อย ๆ

               อุ๊บ : เรามั่นใจว่าเราสามารถจับคนที่เป็นคนร้ายมาลงโทษได้ อย่าคิดว่าก็แค่หมาตัวหนึ่ง อย่าคิดว่าพวกคลั่งหมาไม่ลุกขึ้นมาต่อต้าน ก็คิดว่าเรียกร้องความเป็นธรรมให้เตี้ยได้

               ดร.สุรินทร์ : มันจบได้หลายแบบ ทุกคนก็อยากให้หาตัวผู้ทำผิดมาลงโทษ ตอนแรกเราสงสัยแค่นี้เอง แต่พอกระบวนการสืบสวนมันยาวกว่านั้น ก็คิดว่ามีเฟส 2, 3 แน่นอน

              รณณรงค์ : ผลประโยชน์อย่างเดียวคือรับบริจาคเงิน ผมว่าไม่น่าเป็นเรื่องยาวขนาดนั้น ผมว่าให้ตำรวจไปทำคดีคนอื่นที่ชาวบ้านเดือดร้อนดีกว่า คดีหมาก็แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว ก็เป็นกระบวนการสอบสวนตามกฎหมาย

              รณณรงค์ : ผมว่ามโนไปเอง ถ้ามีหลักฐานก็เอามาเปิดเผยได้เลย ได้เปิดเผย ไม่ได้คือมโน ให้นักข่าวตามเรื่อย ๆ เพื่อให้เป็นประเด็น สลับกับการโพสต์รับบริจาคเหมือนเดิม

               อุ๊บ : แหม ทนายก็คิดได้แค่นี้ รักหมาหรือเปล่าถามหน่อย ไม่ได้มโนค่ะ ของจริง ชัดเจน ไม่ตอหลดตอแหลค่ะ เราค่อนข้างมั่นใจ คนรักน้องเตี้ยจะต้องมีความสุขกับเคสนี้ จบแบบนอนตายตาหลับ

               ดร.สุรินทร์ : มันสั่นสะเทือนระดับประเทศ ตอนแรกไม่ได้คาดคิด


              รณณรงค์ : ก็น่าจะแค่นั้น ไม่น่ามีขบวนการขนาดนั้น เขาก็ดำเนินคดีรับทราบข้อกล่าวหาไปแล้ว ก็ต้องจบแค่นั้น

               อุ๊บ : ไปอยู่ไหนมาคะ ติดตามข่าวนี้หรือเปล่า

              รณณรงค์ : ถ้าจะมีหลักฐานขนาดนั้น ตำรวจทำเรื่องออกมาแล้ว

               อุ๊บ : คุณเชื่อใจตำรวจได้เหรอคะ (หัวเราะ)

              รณณรงค์ : เขาไม่ได้ใช้กลุ่มรักหมาไปตัดสินว่าผิดหรือไม่ผิด นี่คือกระบวนการตามกฎหมาย

               ดร.สุรินทร์ : ถูกต้องครับ เราแค่มีหลักฐานเท่านั้นเอง กลุ่มไหนเดี๋ยวก็รู้กัน

               อุ๊บ : ขบวนการ ถ้าแค่หมาตัวหนึ่ง ทำไมโหดร้ายขนาดนั้น

               อุ๊บ :  คนฆ่าคือเหยื่อ มันไม่รู้อะไรหรอก แต่พอค้นไปมันมากกว่านั้น อย่าลืมนะกล้องมี หลักฐานมันชัดไปหมด